หน่วยท่ี 2 รูปแบบของการสมั มนา Show สาระสาํ คญั ท่จี ะเลือกใชร้ ูปแบบใดรปู แบบหนึ่งหรือหลาย ๆ รูปแบบรวมกนั เพือ่ นาํ มาประยุกตใ์ ช้ไดต้ าม ความเหมาะสม และ กระบวนการต่าง ๆ ที่นํามาใช้ในการจัดสัมมนา ควรมีหลายรูปแบบและหลายลักษณะ เช่น การนํา 1. ขนาดของกลมุ่ ผูเ้ ขา้ รว่ มสัมมนา อาจแบ่งเป็นกลมุ่ ขนาดเลก็ ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ได้แลว้ แต่ ความ 2. หัวข้อเรื่องและจุดมุ่งหมายของการจัดสัมมนามีความสําคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการนํารูปแบบและวิธีการ 3. สื่อกลางและสถานที่สําหรับจัดสัมมนา ควรมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านโดยคํานึงถึงขนาดและความจุ รูปแบบและเทคนิคที่ถูกต้องและเหมาะสม มีความสําคัญอย่างยิ่งในการเรียนรู้ของสมาชิกที่เข้าร่วม 1. การอภิปรายแบบคณะ อภิปรายตามหัวข้อที่กําหนด จากกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวนประมาณ 3 – 8 คนโดยผู้อภิปรายแต่ละคน เสนอ สมั มนา ไดร้ ับความรู้ความคดิ เหน็ ที่แตกต่างกันหลายแงห่ ลายมุมในเร่ืองเดยี วกัน เพ่ือใหผ้ ้เู ข้ารับการ สัมมนาได้รับ วธิ ดี าํ เนนิ การ แนะนาํ หวั ขอ้ ทจี่ ะดําเนินการสมั มนาตลอดท้งั ผรู้ ่วมอภปิ รายแตล่ ะคน จากน้นั จงึ เริม่ การอภปิ ราย จัดช่วงเวลา สําหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้อภิปรายด้วยกันเอง โดยทางพิธีกรจะเป็นผู้ประสานงาน 3) การจัดสถานท่ี ควรจัดเวทียกพ้ืนและมีโต๊ะสําหรบั วางเอกสารและวัสดุตา่ ง ๆ ให้แก่ผ้อู ภปิ ราย และมี ขอ้ ดี ผูฟ้ ังเกิดความสนใจ ได้รับความรแู้ ละข้อเท็จจริงมากข้ึน ผลเท่าท่คี วร ประโยชน์ เทา่ ทีค่ วร การอภิปรายแบบนี้เหมาะสมที่จะนํามาใช้ในการประชุมทางวิชาการ การจัดอภิปรายแบบซิมโพเซียม วิธดี าํ เนนิ การ คน เพื่อให้ผู้ฟงั ทราบพน้ื ฐานและภมู ิหลงั ของผูบ้ รรยาย อาจสรุปในบางตอนทีม่ ีเนื้อหาสาระประทับใจเป็นพิเศษและคอยประสานงานใหก้ ารบรรยายดําเนินไปตาม หัวข้อ 3) การจัดที่นั่งสําหรับผู้บรรยาย ควรจัดให้สูงกว่าผู้ฟัง เพื่อผู้ฟังจะได้มองเห็นผู้บรรยายได้อย่างชัดเจน ขอ้ ดี เปรยี บเทยี บข้อมลู ในแงม่ ุมต่าง ๆ อนั จะเป็นประโยชนแ์ ก่ผู้ฟังมากย่ิงขน้ึ กว้างขวางขึน้ เบื่อหน่าย ข้อจํากดั ตามเปา้ หมายท่ตี ้ังไว้ เลขานกุ ารหรอื ผู้เชิญวิทยากรควรช้ีแจง เพ่ือทาํ ความเขา้ ใจกับวิทยากรให้เข้าใจอย่าง ชัดแจ้ง 2) ผฟู้ ังอาจเกดิ ความเบือ่ หน่ายในการฟงั คาํ อภปิ รายได้ เพราะมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นน้อย ซึ่งจะเป็นการอภิปราย ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมการอภิปรายเกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ดังนั้น เมื่อ หรือไวท์บอร์ด หรือกระดาษชาร์ต เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้เห็นร่วมกัน และรับทราบจะดีกว่าการ บันทึกลงในสมุด วิธีดาํ เนนิ การ คาดหวังที่จะไดร้ ับจากการประชุม ปัญหาต่าง ๆ ชดั เจน 4. การอภิปรายแบบเสียงกระซบิ ได้แสดงความคิดเห็นในระยะเวลาสั้น ๆ โดยแบ่งสมาชิกที่ เข้าประชุมออกเป็นกลุ่มย่อยประมาณกลุ่มละ 6 คน วธิ ีดําเนินการ พิจารณา อภปิ รายและสรปุ ผลของการอภปิ ราย คิดเหน็ อย่างกว้างขวาง เลขานกุ ารเป็นผู้บันทกึ ผลการอภปิ ราย 4) ประธานหรือเลขานุการ หรือตัวแทนกลุ่มสรุป และนําความคิดหรือผลการอภิปรายของแต่ละกลุ่ม ข้อดี ข้อจํากดั ดังน้นั ควรจดั ให้แตล่ ะกลุ่มอยู่หา่ งกนั พอสมควร 5. การอภิปรายแบบบทบาทสมมุติ จริง โดยเน้นลักษณะของปัญหาที่ต้องเผชิญและขบวนการแก้ปัญหาในลักษณะต่าง ๆ ผู้จัดประชุมเป็น ผู้กําหนด วิธีดาํ เนนิ การ ผ้ทู าํ หนา้ ทีป่ ระสานงานอย่างใกล้ชิดระหวา่ งสมาชิกท่เี ขา้ รว่ มประชุม ควรพยายามหลีกเล่ียงการอาสาสมัครของสมาชิกในการแสดงบทบาท การเลือกตัวบุคคลไม่ควรบอกให้ สมาชิก 3) ประธานควรเปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงบทบาทของตน จนกว่าสมาชิกมีความพอใจในบทบาทที่ตน 4) ประธานเป็นผู้ดําเนินการอภิปรายหลังจากการแสดงจบ โดยการอภิปรายควรจะเน้นผลที่ได้รับจาก ข้อดี ขอ้ จํากดั 2) ผู้แสดงและผู้ดู อาจไม่สามารถนําแนวการแก้ปญั หาไปปรับใช้ในชวี ิตจริงได้ เพราะผู้แสดงขาดความ การประชุมแบบ ตอบกลับ ควรใช้กับกลุ่มสมาชิกประมาณ 8 -15 คน โดยจัดที่นั่งเป็นรูปวงกลม การ วธิ ดี าํ เนินการ แสดง ความคิดเห็นของตนเอง และการอภิปรายดําเนินการต่อเนื่องเรยี งไปทางขวามอื ตามลําดับจนครบ ไม่มีการ 3) ถ้าหัวข้อเรื่องประเด็นหนึ่งยังหาข้อยุติไม่ได้ หรือสมาชิกยังต้องการอภิปรายต่อที่ประชุมจะเปิดการ 4) การจดั รปู แบบของการอภิปรายจะจัดลักษณะใดก็ได้ โดยเลขานกุ ารควรนัง่ ดา้ นซ้ายมือของประธาน 3) ถ้าหัวข้อเรื่องประเด็นหนึ่งยังหาข้อยุติไม่ได้ หรือสมาชิกยังต้องการอภิปรายต่อที่ประชุมจะเปิดการ 4) ประธานตอ้ งพยายามกระตนุ้ ให้ทกุ คนได้แสดงความคิดเห็น และชว่ ยสรปุ หาข้อยุติให้ได้ การประชุมแบบ Forum ควรมีผู้ดําเนินการอภิปรายที่มีความรู้ ความสามารถและเข้าใจถึงปัญหาอย่าง การอภิปรายแบบนี้ จะใช้วิธีการโดยมีผู้นําอภิปรายเพียงคนเดียว ดําเนินการอภิปรายกับสมาชิกเอง วิธีดาํ เนนิ การ ข้อดี ข้อจาํ กดั 11. การอภิปรายแบบปจุ ฉาวสิ ัชนา รายการ จะเป็นผู้ป้อนคําถามไปยังผู้ร่วมอภิปรายได้ตอบคําถาม ให้ความรู้ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ในลักษณะ ที่ วิธีดําเนินการ ข้อดี ข้อจํากัด 12. การประชุมแบบรว่ มโครงการ หน่วยงาน สามารถร่วมมือกันทําโครงการใหญ่ ๆ โดยโครงการเหล่านี้ต้องใช้กําลังคน กําลังทรัพย์ ตลอดจน จดุ มุง่ หมายของการประชุมอภปิ รายแบบร่วมโครงการนัน้ เพ่ือแบ่งงานใหห้ นว่ ยงานย่อยทรี่ ับผิดชอบ ส่วน นิยมใช้ในการประชุมตกลงของหน่วยงานภาคเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เป็นการ ดียิ่งในเรือ่ งของเงื่อนไข รายละเอียดต่าง ๆ ที่ฝ่ายตนรบั ได้ และรับไม่ได้ จุดมุ่งหมายของการประชุม เพื่อหาข้อยตุ ิ เป็นการจัดประชุมใหญ่ที่มีสมาชิกเข้าร่วมฟังเป็นจํานวนมาก โดยมีหัวข้อเรื่องหรือเนื้อหาสาระที่จัดการ กระบวนการจัดประชุมแบบคอนเวนชั้น ประกอบด้วยประธาน รองประธานคณะกรรมการวางแผนและ ประโยชน์ที่ได้รับจากการประชุมเชิงวิชาการ เพ่ือสํารวจปัญหาต่าง ๆ หาข้อยุติ ตลอดจนเสนอแนะหรือ เป็นการจัดให้มีการประชุมหรืออบรมทางวิชาการด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ หรือแบ่งตามสาขาวิชาใด เป็นการประชุมที่ประกอบด้วยจํานวนสมาชิกเข้าร่วมฟังขนาดกลาง หรืออาจมีสมาชิกเข้าร่วมประมาณ ตามปกติการประชุมเชิงปฏิบัติการ จะประกอบด้วยการบรรยายทางทฤษฎีและการนําทฤษฎีทดลอง ประโยชน์ท่ีได้รับการประชมุ เชิงปฏบิ ตั กิ าร เป็นการสํารวจปญั หาค้นคว้าวิธีการและขบวนการแก้ปัญหาที่ การอภิปรายแบบซิมโพเซียม เป็นอย่างไรการอภิปรายแบบซิมโพเซียม เป็น การสัมนาในบรรยากาศอภิปรายแบบเป็นทางการวิทยากรเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อเหล่านั้น มีวิทยากรได้หลายคนและแต่ละคนจะพูดในหัวข้อของตนไม่ก้าวก่ายหัวข้อที่ผู้อื่นพูดพูดตรงประเด็นชัดเจน ทำความเข้าใจแก่ผู้ฟังมากที่สุด
การอภิปรายทั่วไป (Forum) เป็นอย่างไร *การอภิปรายทั่วไป เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เป็นสมาชิกของที่ประชุมที่สนใจปัญหาเดียวกันแสดงความคิดเห็นได้ มี 2 ลักษณะ คือ 1. ทำในหมู่สมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมเท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ 2. การอภิปรายทั่วไปมักเริ่มต้นให้มีวิทยากรหรือผู้ร่วมอภิปรายที่กำหนดบุคคลไว้แล้ว พูดอภิปรายเสนอความคิดจนครบทุกคนก่อน ...
Symposium เป็นการประชุมที่มีลักษณะแบบใดการชุมนุมปาฐกถาหรือการประชุมทางวิชาการ (symposium)
เปนการบรรยายแบบมีวิทยากรหรือผูเชี่ยวชาญประมาณ ๒ – ๖ คน และบรรยายใหฟงทีละคน การชุมนุมปาฐกถามีลักษณะคลาย การอภิปรายเปนคณะ แตเนนหัวขอวิชาเปนสําคัญ มีพิธีกรเปนผูดําเนินการ อภิปรายและสรุปการบรรยาย เมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายจะเปดโอกาสให ผูฟงซักถามปญหาตางๆ ได
รูปแบบของการจัดสัมมนามีอะไรบ้างรูปแบบของการประชุมมีดังนี้
การอภิปราย (Discussion) การประชุมปรึกษาหารือ (Conference) การประชุมระดับหัวหน้า (Convention) การประชุมแบบซินดิเคต (Syndicate) การประชุมสัมมนา (Seminar) การประชุมทางไกล (Tele Conference) การอภิปรายแบบมีส่วนร่วม (Forum) การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop)
|