การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางของพระพุทธศาสนา
คำว่าการพัฒนาที่ยั่งยืน ( Sustainable Development ) เป็นการสื่อถึงคนเรายุคปัจจุบันและคนรุ่นตอไปในอนาคตด้วย เป็นการพัฒนาท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ ( Globalization ) ที่ก้าวไปกับระบบเทคโนโลยีและกลไกของการตลาด อันก่อเกิดการแสวงหาอำนาจเพื่อครอบงำผลประโยชน์ของอีกฝ่ายในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นประชาสังคม ( Civil Society ) หรือ รัฐประชาชาติ ( Nation State ) ก็ตาม แต่การเข้ามามีอิทธิพลนั้นชาวโลกก็ยังต้องการระบบบริหารแบบ Good Governance อยู่ดี
การดำเนินชีวิตของคนเราต้องมีการพัฒนาร่างกายและสติปัญญาควบคู่กันไปพร้อมสรรพ ศาสนามีหลักธรรมคำสอนให้ก่อเกิดการพัฒนาทางด้านจิตใจ พระพุทธศาสนามีหลักพุทธธรรมที่สอนเกี่ยวกับการพัฒนาจิตใจคนเราเพื่อเป้าหมายคือความสงบสุข พอมีประเด็นดังนี้
1.ด้านพัฒนาคนให้มีปัญญา
คนเรามีองค์ประกอบอยู่หลายประการในส่วนสำคัญที่สุดถือว่าเป็นคุณสมบัติพิเศษสุดคือปัญญา ที่ต้องพัฒนาให้รู้เท่าทัน
การพัฒนาปัญญาจะได้ขยายน่านฟ้าของความรู้ที่กว้างไกลมีผลต่อการดำเนินชีวิตคนเราให้อยู่รอดในทุกสถานการณ์ในจุดสูงสุดคือการเข้าถึงพุทธภาวะ
2.ด้านสัจธรรมเพื่อชีวิต
เมื่อคนเราได้ศึกษาเรียนรู้ธรรมชาติของวิถีชีวิตอันเป็นกระบวนการของชีวิตคือ พฤติกรรมสัมพันธ์ จิต และปัญญา ทั้ง 3 ส่วนล้วนอิงอาศัยกันอยู่ เพราะปัญญาจะพัฒนาขึ้นมาแบบไร้จุดหมายไม่ได้ ด้วยทุกอย่างต้องอิงอาศัยกันและกัน พฤติกรรมมีฐานอยู่ที่จิตใจ
จิตใจเป็นฐานก่อให้เกิดปัญญา เมื่อจิตใจมั่นคงปัญญาย่อมเกิดมีเพื่อข้ามพ้นมายาคติเห็นแจ้งในสัจธรรมดังกล่าว
3.ด้านคนเป็นตัวอย่างที่ดี
ถือว่าเป็นบุคคลมีคุณสมบัติของคนดี ภาษาพระว่า สัปปุริสธรรม 7 ข้อ ( ที.ปา. 11/331 ) มีหลักธรรมดังนี้
1.ธัมมัญญุตา การรู้จักเหตุ
2.อัตถัญญุตา การรู้จักผล
3.อัตตัญญุตา การรู้จักตน
4.มัตตัญญุตา การรู้จักประมาณ
5.กาลัญญุตา
การรู้จักกาล
6.ปริสัญญุตา การรู้จักชุมชน
7.ปุคคลัญญุตา การรู้จักบุคคล
4.ด้านคนไปถึงเส้นชัยในชีวิต
ในวิถีชีวิตที่เจริญก้าวหน้าได้นั้นมีหลักธรรมแห่งความเจริญในชีวิตคือจักร 4 ข้อ
( ที.ปา.11/400 ) มีดังนี้
1.ปฏิรูปเทสวาสะ การเลือกถิ่นที่อยู่เหมาะสม
2.สัปปุริสูปัสสยะ การคบหาคนดี
3.อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ถูกวิธี
4.ปุพเพกตปุญญตา
การมีทุนเตรียมไว้แล้ว
ในเส้นทางของความสำเร็จมีหลักอิทธิบาท 4 ข้อ ( ที.ปา. 11/231 ) ดังนี้
1.ฉันทะ การมีใจรัก
2.วิริยะ การมีความเพียร
3.จิตตะ การมีจิตใจที่มุ่งมั่น
4 .วิมังสา การตริตรองพิจารณาให้รอบคอบ
5.ด้านคนรู้จักหลักการเลี้ยงชีวิต
คนที่รู้จักใช้รู้จักหาทรัพย์นับว่าเป็นคนมีหลักธรรมเป็นแง่คิดเตือนจิตใจ หลักธรรมอำนวยสุขนั้นคือ
ทิฏฐธัมมิกกัตถ 4 ข้อ ( องฺ.อฏฐก. 23/144 ) ดังนี้
1.อุฏฐานสัมปทา การมีความขยัน
2.อารักขสัมปทา การรักษาสิ่งที่ได้มาแล้ว
3 .กัลยาณมิตตตา การคบมิตรดี
4.สมชีวิตา การเลี้ยงชีวิตตาพอดี
6.ด้านการครองเรือนของคนเรา
บุคคลที่ควรยึดถือเอามาเป็นแบบอย่างคือคนถือหลักธรรมคิหิสุข 4 ข้อ ( องฺ.จตุกฺก. 21/62 ) ดังนี้
1.ความสุขเกิดจากการมีทรัพย์
2.ความสุขเกิดจากการจ่ายทรัพย์
3.ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้
4.ความสุขเกิดจากการไม่มีโทษ
นอกจากนั้นยังดำรงตนอยู่ด้วยหลักธรรมของผู้ครองเรือน 4 ข้อ ( ขุ.สุ. 25/ 311 )
ดังนี้
1.สัจจะ การมีความจริงใจ
2.ทมะ การฝึกฝนจิตใจตนเอง
3 .ขันติ ความอดทน
4 .จาคะ การเสียสละ
7.ด้านการส่งเสริมพัฒนาชีวิต
ตามหลักพุทธธรรมมีคำสอนเกี่ยวกับการพัฒนาชีวิตอยู่มากแต่ขอนำเสนอไว้เป็นเพียงตัวอย่างคือ หลักธรรมมีอุปการะมาก 2 ข้อ ( ที.ปา. 11/378 ) ดังนี้
1.สติ ความระลึกได้
2 .สัมปชัญญะ ความรู้ตัวทั่วพร้อม
นอกนี้ยังมีหลักธรรมอันทำให้งดงาม 2 ข้อ ( องฺ.ทุก. 20/410 ) ดังนี้
1.ขันติ ความอดทน
2.โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม
8.ด้านทำให้คนเต็มคน
เพื่อให้สังคมคนเราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขจึงต้องปฏิบัติตามหลักศีลธรรม 5 ข้อ
( ที.ปา. 11/286 ) ดังนี้
1.งดเว้นจากการฆ่า
2 .งดเว้นจากการลักทรัพย์
3 .งดเว้นจากการผิดประเวณี
4 .งดเว้นจากการพูดโกหก
5.งดเว้นจากการดื่มสิ่งมึนเมา
9.ด้านพัฒนาชีวิตเพื่อการศึกษา
เมื่อชีวิตต้องการเป็นอยู่ตลอด จะมีชีวิตรอดได้ด้วยการศึกษา ในภาษาพระว่าหลักอริยมรรคมีองค์ 8 ข้อ ( ที.ม. 10/ 299 )
โดยภาพรวมก็คือ ศีล ได้แก่ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ ส่วน สมาธิ ได้แก่ สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ และท้ายสุดคือปัญญา ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ และสัมมาสังกัปปะ
การพัฒนาตามกระแสธรรมเหล่านี้ถือว่าเป็นแก่นสารทางพุทธธรรม เพื่อพัฒนาตนเองให้หลุดพ้นเป็นอิสระ ตามหลักพุทธธรรมที่มีการพัฒนาไปถึงเส้นชัยคือนิพพานนั้นแล.