สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมนายชิวๆ มีโอกาสชวนเพื่อนๆมาชิมอาหารญี่ปุ่นราคาสบายกระเป๋าอีกแล้วครับ พอดีวันนี้เอารถมาล้างที่ร้าน The eight (8) ถนนห้วยแก้วเลยเซ็นทรัลกาดสวนแก้วมุ่งหน้าไปมช.เจอสี่แยกมานิดเดียวอยู่ซ้ายมือครับ รถรออีกหลายคิวเลยก็เลยเดินเล่นแถวๆนั้น ปรากฏว่าเจอร้านอาหารญี่ปุ่น ประกอบกับยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง สมองก็เลยสั่งการเดินเข้าร้านอัตโนมัติครับ ชื่อร้านซูชิจิโร่ อยู่ติดกับร้านล้างรถเลยครับ เป็นร้านขนาดไม่ใหญ่ ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากครับ ธรรมดาๆ
เมนูเท่าที่ดูก็เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป ซูชิ ซาซิมิ เทมปุระ ข้าวหน้าต่างๆ ราเมน พวกย่างๆ ฯลฯ แต่ทีเด็ดคือราคาค่อนข้างถูกกว่าร้านอื่นครับ เนื่องจากผมมาบ่ายสองลูกค้ายังไม่ค่อยมีครับ
ภานในร้าน
สั่งน้ำเปล่ามาก่อน 10.- บาท น้ำแข็งฟรี
เมนูแรกสั่งของชอบคือซาซิมิเซตครับ (165.-บาท) ปลาดิบชิ้นหนามาก อร่อยทุกอย่าง ทูน่า ซาบะดอง ทาโกะ โดยเฉพาะแซลมอนครับสดใช้ได้เลย ซุปมิโสะรสชาดมาตราฐานครับ ข้าวถ้วยไม่ใหญ่กำลังดี
ยังไม่น่าจะอิ่มสั่งอีกเมนูเป็นซูชิเซตใหญ่ (109.- บาท) 8 ชิ้น ถ้าเซตเล็ก 79 บาท 6 ชิ้นครับ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ซูชิชิ้นใหญ่มากปลาชิ้นหนาๆเลย
หน้าตาดีมากๆ ส่วนตัวคิดว่าดูดีกว่าร้านดังในห้างหลายๆร้านที่เคยกินอีกครับ รสชาดก็อร่อยมาตราฐานครับ คุณภาพดี ข้าวไม่เละปลาสดชิ้นใหญ่
เรียกเชคชิลหมดไป 284.- บาทครับ ไม่มีชาร์ตใดๆทั้งสิ้น ก็เป็นอีกตัวเลือกให้เพื่อนๆชาวเชียงใหม่ หรือเพื่อนๆที่มาเที่ยวเชียงใหม่ที่อยากกินอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีราคาสบายกระเป๋าครับ เดินไปด้านหลังก็ติดถนนนิมมานฯซอยต่างๆแล้วครับ
ร้านซูชิจิโร่ เปิดบริการ 11.00 am- 11.00 pm หยุดทุกวันที่ 7, 17, 27 ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมนะครับ เจอกันโอกาสหน้าครับ
ชื่อสินค้า: ร้านซูชิจิโร่
คะแนน:
ช่วงนี้รู้สึกว่าน้าอ้วนมีโอกาสได้แวะเวียนไปร้านเก่าๆ ที่เคยไปรีวิวแล้วหลายรอบจัง สำหรับรอบนี้ก็ได้แวะมาที่ The Buffet อีกครั้ง ร้าน ชาบู บุฟเฟ่ต์ที่เคยโด่งดังเมื่อครั้นเก่าก่อนเมื่อตอนที่เปิดใหม่ๆ แทบจะเรียกได้ว่าต้องจองคิวกันข้ามวัน ข้ามคืนกันเลยทีเดียว ใครหวังที่จะ Walk In เข้ามานี่หมดสิทธิ์ แต่ตอนนี้ลูกค้าก็ยังเหนียวแน่น ทุกรอบก็ยังเต็มเช่นเดิม แต่ถ้าโชคดี Walk In เข้ามาก็อาจจะมีโต๊ะว่างให้อยู่บ้าง
เวลาผ่านไป ทุกอย่างก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ The Buffet ก็เช่นกัน ได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนต่างๆ หลายด้านเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือที่ตั้ง ๕๕๕๕๕ เขายังอยู่ที่เดิมนะจ๊ะ ก็คืออยู่ในซอยสิโรรส ชื่อนี้หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหู เอาเป็นว่าถ้ามาจากประตูสวนดอก มุ่งหน้าไปยังเส้นหลังมอ ให้ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลสวนดอก แล้วจะเจอสามแยกไฟแดง ที่ด้านขวาจะมีร้าน McDonald’s อยู่ซึ่งถ้าสังเกตุตรงซ้ายมือจะมีซอยอยู่ นั่นแหละจ่ะ ซอยสิโรรส (ทางไปโรงแรมสวนดอกแก้ว) ให้เราเลี้ยวรถเข้าไปแป๊บเดียว ร้าน The Buffet ก็จะอยู่ทางด้านขวามือ ถ้าหาไม่เจอ โทรถามทาง 052-089568 และ 099-2962969 หรือติดตามข่าวสารทาง Facebook ได้ที่ //www.facebook.com/TheBuffetChiangMai ร้านเปิดให้บริการอยู่ 2 ช่วงคือ 11:45 – 15:00 น. และ 17:00 – 23:00 น. ปิดทุกวันจันทร์นะจ๊ะ
เมื่อก่อนหลายคนก็คงคุ้นเคยว่า The Buffet เป็นบุฟเฟ่ต์ชาบู ที่มีอาหารแนว Finger Food ไว้บริการด้วย การจัดเรียง การพรีเซนต์หน้าตาของอาหารที่นี่ออกแนวระดับโรงแรมเลยแหละ (ก็แหงหละสิ เพราะที่นี่เขารับทำ Catering ด้วยนะ ถ้าสนใจเชิญติดต่อได้) เมื่อก่อนราคาจะอยู่ที่ 299 รวมทุกอย่าง แต่ตอนี้เขามีการปรับเปลี่ยนราคาเป็น 375 บาท ราคานี้ทานได้ทุกอย่างที่อยู่ในร้าน (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะจ๊ะ) และไม่จำกัดเวลาด้วย
เด็กต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี
เด็กส่วนสูง 100 – 109 ซม. คิด 190 บาท
เด็กส่วนสูง 110 – 119 ซม. คิด 250 บาท
เด็กส่วนสูง 120 ซม.ขึ้นไป ถือเป็นผู้ใหญ่
ผู้อาวุโส 60 – 79 ปี คิด 290 บาท* / อายุ 80 ปีขึ้นไป ทานฟรี* (*แสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหลักฐานทางราชการที่มีรูปหน้าและปีพ.ศ.เกิดชัดเจน)
หากจะดูว่ารายละเอียดเรื่องราคาค่อนข้างยิบย่อย น้าอ้วนก็คิดเช่นนั้น แต่ถ้าเรามาดูกันอีกที เพราะบางร้านที่น้าอ้วนเจอเขาจะเอาเด็กที่มีส่วนสูงตั้งแต่ 100 ซม. หรือ 110 ซม. ขึ้นไปคิดเป็นราคาบุฟเฟ่ต์ของผู้ใหญ่ แต่ถ้าใครเป็นพ่อเป็นแม่ มีลูกน้อยอยู่ก็คงรู้ดีว่าเด็กอายุขนาดนี้ไม่ได้ทานได้ปริมาณเท่าผู้ใหญ่หรอก ถ้าเป็นอย่างนั้นพูดกันตามประสาชาวบ้านก็คือเด็กขาดทุน อิอิ
โอเคเมื่อเรารู้แล้วว่าใครควรจะจ่ายราคาไหน อะไรยังไง เพราะที่ The Buffet แห่งนี้เขาอยากให้เป็นร้านอาหารที่สามารถมาทานกันได้ทั้งครอบครัว พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ไม่ต้องกลัวขาดทุน เพราะเขากำหนดราคาที่ชัดเจน และรู้สึกว่าเป็นธรรมด้วยนะ ต่อไปเรามาพูดถึงอาหารกันบ้าง น้าอ้วนบอกเลยนะว่าไม่ต้องไปจำอะไรมากเกี่ยวกับรีวิวนี้ รู้เพียงแค่ ร้านอยู่ไหน / เปิดปิดกี่โมง / เบอร์โทรที่จะจองโต๊ะ / ราคาของแต่ละคน และสุดท้ายคือรายการอาหารที่น้าอ้วนจะลิสต์มาให้ดูดังต่อไปนี้
ชาบู ชาบู กิมจิ ซีฟู้ด ติ่มซำ ฟิงเกอร์ฟู้ด มินิซูชิบาร์ มินิสลัดบาร์ ขนมไทย ขนมฝรั่งฟิวชั่น เค้ก & เบเกอรี่ ฟองดูว์ช็อคโกแลต ชาดีลม่าครบทุกรส กาแฟสดอเมริกาโน่จากริสตราโต้ พันช์ผลไม้ทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ และซอฟท์ดริ้ง กว่า 200 เมนู
ไลน์อาหารพวก Finger Foods
ทั้งหมดที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นเพียงไลน์อาหารประเภท Finger Food เท่านั้น เมนูหนักอย่างชาบูชาบู น้าอ้วนยังไม่ทันได้แนะนำเลย แต่ในใจคิดตะหงิดๆ แล้วแหละว่าแค่นี้แฟนๆ ที่แวะไปทานก็คงอิ่มกันไปก่อนแล้วมั้งนั่น เราลองมาดูซิว่าถ้าเป็นชาบูชาบู เขาจะมีอะไรบ้าง แต่บอกก่อนนะจ๊ะว่า ทุกโต๊ะที่ไปจะได้ Welcome Nabe ก็คือเป็นหม้อชาบูที่ตกแต่งมาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่จุดไฟก็พร้อมที่จะอร่อยกันได้เลย และถ้าใครทานของในหม้อนาเบะหมดแล้ว แต่ยังรู้สึกไม่อิ่ม ก็ไปหยิบอาหารสดที่อยู่ในตู้แช่เพิ่มเติมได้เลย อยากทานเท่าไรเชิญตามอัธยาศัย เขาบริการไม่อั้นอยู่แล้ว
อาหารทานเล่นก็มาแล้ว อาหารหลักก็มาแล้ว ถ้าอิ่มหนำสำราญกันแล้วก็อย่าพึ่งยัดกันจนเต็ม น้าอ้วนยังมีไลน์ของหวานมาแนะนำกันอยู่นะจ๊ะ บอกเลยว่าไม่ได้มีแบบว่าแตงโม หรือสัปปะรด หรือเฉาก๊วย ๕๕๕ ตามร้านทั่วไป แต่ที่นี่เขามี …….
คือแบบว่ามาร้านนี้ทีไร ต้องเล่นเอาจนเหนื่อย เพราะต้องลุกไปตักอาหารบ่อยมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องลองชิม เชื่อเถอะเวลาใครมาก็อยากชิมนั่น ชิมนี่ใช่มะ พยายามให้ครบทุกอย่าง แต่บางอย่างเราอาจจะชอบเป็นพิเศษ ก็จัดไปสัก 2-3 ชิ้น แต่น้าอ้วนแนะนำว่าควรจะชิมอย่างละ 1 ชิ้นก่อน เพราะถ้าเกินโควต้าไปมากกว่านี้รับรองว่า กระเพาะเต็ม แล้วจะพลาดที่ได้ลองชิมอาหารทุกอย่าง เตือนแล้วนะ เดี๋ยวจะขีดเส้นใต้ เน้นข้อความตัวหนาๆ ให้ ๕๕๕๕
คือถ้าแฟนๆ อ่านรีวิวหรือดูรูปจนถึงตรงนี้แล้วน้าอ้วนก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก ถึงความอลังการของอาหารที่นี่ หลายคนคิดว่า 375 บาท ค่อนข้างแพง (โดยเฉพาะน้องๆ นักเรียนนักศึกษา) แต่บอกเลยว่าถ้ามาที่นี่แล้วรับรองว่าคุ้ม เพราะอาหารกว่า 200 ชนิดที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาให้รับประทาน การคิดราคาที่ค่อนข้างยุติธรรม รวมไปถึงรสชาติและวัตถุดิบที่ถือว่าชั้นดี น้าอ้วนว่า 375 บาทนี่ รวมทุกอย่าง ไม่ต้องจ่ายอะไรให้บานปลาย ฟันธงว่า คุ้ม!!!
Share on Facebook
Tweet