โดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์ หรือขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืน สำหรับรถยนต์นี้ไม่ใช่หนึ่งในปัจจัย 4 แต่เป็นเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่มีความสำคัญที่ขาดไม่ได้ หากท่าน โดนฟ้องเรื่องรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ หรือ ขึ้นศาลเรื่องรถยนต์ อาจจะผ่อนเช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดไม่ตรงเวลา หรือมีปัญหาใดเกิดขึ้น โทรมาสอบถามกับสำนักงานเบื้องต้น เพื่อหาทางแก้ไข ท่านจะได้คลี่คลายปัญหาลงไปบ้าง จะได้มีเวลาทำมาหากิน Show
<================
================>
คำแนะนำเบื้องต้นก่อนที่จะ ถูกฟ้องศาล เรื่องรถยนต์หากไม่อยากเป็นคดีความในเรื่องการโดนฟ้อง อันดับแรกคือการต้องประเมินความสามารถในการผ่อนของตัวเองและเผื่อเอาไว้เยอะๆเช่นมีรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน ผ่อนรถเขาสมมติให้ 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ก็เท่ากับ 16,000 บาทต่อเดือน แต่ในความเป็นจริงเราควรเผื่อไว้มากกว่านั้น สมมุติสัก 20% หรือ 25% ของรายได้ 40,000 บาท ก็คือผ่อนรถเดือนละไม่เกิน 8,000 หรือ 10,000 บาท คือผ่อนให้น้อยที่สุด อย่าแบกภาระเยอะ รถรุ่นไหนที่ Option มันสูงราคาแพงไม่จำเป็นก็ลดสเปคลงไปบ้าง เมื่อคุณเองมีภาระน้อย ชีวิตคุณก็จะเบาตัวขึ้น และโอกาสในการผ่อนชำระไม่ตรงตามงวดก็จะเป็นไปได้ยากขึ้น คุณก็จะไม่ โดนฟ้องในคดีเกี่ยวกับรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ อันนี้คือทางที่ 1
หากผ่อนรถยนต์ไม่ไหวทำยังไงแต่สำหรับในบางกรณีที่ผ่อนไปแล้วและไม่ไหวจริงๆ อย่ารอให้ไฟแนนซ์มายึดหรือฟ้อง ให้รีบขายรถโดยการลงประกาศขายในตลาดอินเตอร์เน็ต มันจะเร็วตั้งราคาอย่าแพงเกินไป เผื่อเวลาไว้สักหน่อยในการขาย เพราะการขายรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ มันต้องใช้เวลา ถ้าอยากเร็วก็ต้องไปขายให้เต็นท์รถแต่ว่าราคาจะไม่ดีเท่ากับเราขายเอง ถ้าไม่ไหวอย่ายื้อ โดนฟ้องมาตัวท่านเองจะเสียหายเยอะ หรือทำการหาผู้เช่าซื้อคนใหม่มาเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อเดิมของเรา หน้าที่ผ่อนชำระก็จะตกแก่ผู้เช่าซื้อคนใหม่
ไฟแนนซ์เป็นโจทก์ฟ้องรถยนต์ เรียกอะไรได้บ้างสามารถเรียกได้ดังนี้คือ 1.เรียกให้คืนรถยนต์ 2.เรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ 3.เรียกให้เราชำระค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ รวมถึงดอกเบี้ยต่างๆ ดังที่กล่าวมานี้ ท่านจะเห็นว่ามันเป็นเงินที่เยอะอยู่ และในฐานะลูกหนี้ค่อนข้างที่จะเสียเปรียบ ดังนั้นอย่าให้ไฟแนนซ์หรือโจทก์มายึดรถยนต์เรา ผ่อนไม่ไหวก็ขาย ไปหาซื้อคันที่มันเล็กกว่าหรือเป็นมือสอง เท่าที่กำลังเราผ่อนไว้อย่างน้อยก็ยังมีรถใช้
ขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืนตามที่กล่าวเบื้องต้นเมื่อขึ้นศาลเรื่องรถ ตามปกติท้ายฟ้องโจทก์ ขอให้จำเลยคือรถยนต์คันดังกล่าว แต่หากจำเลยไม่มีรถคืนหรือไม่สามารถคืนรถได้ก็ขอให้ใช้ราคาแทน โดยการคิดราคารถ ก็จะคิดราคาณวันฟ้องนั้นเองว่าเป็นราคากี่บาท นี่คือ สิ่งที่เราควรรู้ว่าถ้าเราไม่มีรถคืน ก็ต้องจ่ายเงินให้เขาไป การที่เราไม่มีรถคืนให้กับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งในขณะที่ทำสัญญาเช่าซื้อนั้นเราคู่สัญญายังผ่อนชำระไม่หมด กรรมสิทธิ์รถยนต์โดยปกติจะเป็นของบริษัทไฟแนนซ์ เราซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถ โดนฟ้องเป็นคดีอาญาในข้อหายักยอกทรัพย์ได้ ดังนั้นการขึ้นศาลเรื่องรถโดยไม่มีรถคืน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น การโดนฟ้องยักยอกทรัพย์ เป็นข้อหาทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี สำหรับค่างวดรถยนต์ซึ่งจ่ายให้ไฟแนนซ์ไปแล้วกี่บาทก็ต้องนำมาคำนวณรวมด้วย ว่ายอดหนี้คงเหลือจริงๆกี่บาท ซึ่งจุดนี้ต้องไปดูในแต่ละรายละเอียดของรูปคดี คุณกำลังอ่าน: “ขึ้น ศาล คดี รถ” นี่เป็นหัวข้อ “ร้อนแรง” ที่มีการค้นหา 9,160,000 ครั้ง/เดือน. วันนี้ phunuketnoi.com จะช่วยให้คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ขึ้น ศาล คดี รถ ในบทความนี้ Contents
ผลการค้นหาของ Google:
ความหมายที่คล้ายกัน: “ขึ้น ศาล คดี รถ”ประสบการณ์ขึ้นศาลเรื่องรถมอไซ ประสบการณ์ ขึ้นศาล เรื่อง รถ เกียรติ น่า คิ น. โดน ขึ้นศาลเรื่อง รถ คดี รถยนต์ รถยนต์ รถ ขึ้น คดี รถยนต์ รถ รถ ขึ้นศาล ศาล คดี ศาล คดี ขึ้นศาล คดี รถยนต์ ศาล คดี รถยนต์ รถ ขึ้น ศาล รถ ศาล รถยนต์ ขึ้นศาล รถ รถ คดี รถยนต์ คดี ศาล คดี ศาล รถยนต์ . ข้อกำหนดในการค้นหาอื่นๆ:
คุณกำลังอ่าน: ขึ้น ศาล คดี รถ อยู่ในหัวข้อ Life (ไทย) ถ้าคุณชอบหัวข้อนี้โปรดแชร์บน Facebook เพื่อให้เพื่อนของคุณรู้ ข้อมูลอ้างอิงอื่นๆ
|