Show
แม้ปัจจุบันธุรกิจแบบออนไลน์จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งสถานการณ์ของสังคมในปัจจุบัน ความสะดวกสบายในการค้นหาสินค้าที่ต้องการ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจค้าปลีกที่ดำเนินการแบบออฟไลน์จะปิดตัวลงไป เพียงแต่ว่ามีการแข่งขันที่สูงขึ้นระหว่างธุรกิจค้าปลีกที่ดำเนินการแตกต่างกันเท่านั้น ดังนั้นการเพิ่มจุดแข็งสำหรับธุรกิจที่ดำเนินการแบบออฟไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้ร้านค้าจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หนึ่งในนั้นคือการจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางของร้านค้า เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น แยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจนเหมือนเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เทคนิคจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางของร้านค้า สร้างจุดแข็ง เพิ่มยอดขาย ธุรกิจค้าปลีกแบบออฟไลน์ที่อยากสร้างจุดแข็งต้องรู้! การจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางของร้านค้าอย่างเป็นระเบียบ แยกหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อสินค้าราวกับเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ถือเป็นการสร้างจุดแข็งเพิ่มเติม ที่สามารถนำมาต่อกรกับธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เรียกได้ว่าถ้ามีการจัดเรียงชั้นวางของร้านค้าให้ดูสวยเด่นสะดุดตา จะช่วยสร้างความสะดุดใจ (Attention) สนใจ (Interest) อยากได้ (Desire) และใคร่ซื้อ (Action) ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของลูกค้า และส่งผลให้มีโอกาสที่จะขายออกได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม
การจัดเรียงชั้นวางของร้านค้าให้อยู่ในระดับสายตาของลูกค้านั้น จะช่วยให้ลูกค้าสังเกตเห็นสินค้าได้ง่าย ในกรณีที่มีการจัดวางสินค้าในหมวดหมู่เดียวกัน การจัดเรียงให้ชั้นวางมีดีไซน์ที่เข้ากับสินค้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยเสริมความโดดเด่นให้สินค้า โชว์จุดขาย เรียกได้ว่ายิ่งมองเห็นง่าย ยิ่งสะดวกต่อการเลือกซื้อมาเท่าไหร่จะยิ่งดึงดูดใจลูกค้าให้เพลิดเพลินกับการใช้บริการร้านของคุณมากเท่านั้น
เทคนิคนี้จะช่วยให้การซื้อสินค้ากับร้านค้าของคุณสะดวกสบายเหมือนกับการเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ทำการแยกหมวดหมู่ให้อย่างดีจะช่วยให้ลูกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ยิ่งในกรณีที่ร้านค้าของคุณมีสินค้าขายหลากหลายประเภท การแยกหมวดหมู่จัดเรียงให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันสำหรับสินค้าที่มีความสัมพันธ์กัน จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายในการเลือกซื้อ ไม่รู้สึกว่าเสียเวลา และเป็นการช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างดี
การจัดเรียงชั้นวางสินค้าให้มีความสมดุลทางด้านน้ำหนัก สมดุลในที่นี้ หมายถึง การวางของที่มีน้ำหนักมากอย่างสินค้าที่เป็นลัง หรือกระสอบขนาดใหญ่ให้วางไว้ด้านล่างไว้ด้านล่าง ส่วนของที่มีขนาดเบา ชิ้นเล็กให้จัดวางไว้ด้านบน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ของที่มีน้ำหนักมากตกหล่นลงมาระหว่างที่ลูกค้ากำลังเลือกซื้อสินค้า เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ช่วยสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย และช่วยสร้างภาพลักษณ์ชั้นวางที่ดูเป็นระเบียบ น่าใช้บริการ Post Views: 525 Back to top button 1. ทำไม..การบริหารชั้นวางสินค้าแต่ละส่วนจึงสำคัญ?ชั้นวางสินค้า เป็นจุดที่ถูกกำหนด ให้เป็นบริเวณที่การตัดสินใจซื้อเกิดขึ้นกับผู้บริโภค มันจึงกลายเป็นจุดสำคัญ ที่เจ้าของร้านค้าปลีกทุกคนจะต้องปรับปรุง และใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้สินค้าขายออกไปได้มากที่สุด
เพราะมันสร้างผลกระทบ ในเรื่องของ
ถ้าคุณสามารถบริหารจัดการชั้นวางสินค้าในแต่ละจุดได้เป็นอย่างดี และปรับปรุงให้ทุกจุดมีประสิทธิภาพอยู่เสมอล่ะก็..
ถือว่าต่างฝ่าย ต่างก็ได้ประโยชน์แบบ Win-Win ทั้งคู่ จริงไหมคะ? 🙂 2. แนวทางในการเลือกชั้นวางสินค้า2.1) รูปทรงและการออกแบบในเรื่องนี้ ชั้นวางสินค้าที่ดีควรจะต้องมีรูปทรงและการออกแบบที่ได้มาตรฐาน มีสีสันที่สวยงาม เข้ากับธีมของร้าน หรือเข้ากับสินค้าที่คุณจะนำเสนอ เทคนิคบริหารชั้นวางสินค้าแต่ละส่วน ให้ยอดขายปัง! 8รูปทรงการออกแบบชั้นวางที่สวยงาม 2.2) เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่ไม่ว่าพื้นที่ร้านค้าจะเล็กหรือกว้าง ชั้นวางสินค้าที่ดี จึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ ตามความเหมาะสมของพื้นที่ร้านค้านั้น ๆ และควรมีดีเทลเล็ก ๆ เพิ่มเพิ่มพื้นที่มากขึ้นในการโชว์สินค้า และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ด้วย เพราะในทุก ๆ พื้นที่ของชั้นวางสินค้านั้น มีการแข่งขันสูงระหว่างผลิตภัณฑ์ด้วยกันเอง หากมีชั้นวางที่มีดีเทลหรือลูกเล่นต่าง ๆ ที่ช่วยจัดการกับพื้นที่ในการนำเสนอสินค้าได้อย่างมีชั้นเชิง มันก็จะทำให้ร้านค้าของคุณมีจุดที่น่าสนใจ และสินค้าก็น่าซื้อด้วยเช่นกัน 2.3) อายุการเก็บรักษาทุกคนที่ลงทุนเปิดร้านส่วนใหญ่ ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการเลือกชั้นวางก็คือ ชั้นวางสินค้านั้น จะต้องมีความแข็งแรง ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และมีอายุการใช้งานอย่างยาวนาน แบบที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อหลายๆ รอบ เพื่อความคุ้มค่ากับการลงทุน ฉะนั้นคุณควรจะต้องเลือกชั้นวางสินค้าที่มีการออกแบบสวยงาม, วัสดุมีคุณภาพ, เพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่ได้ และ ใช้งานได้อย่างยาวนานค่ะ 3. บริหารชั้นวางสินค้าแต่ละส่วนยังไง.. ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดการจะจัดการทุกส่วนของชั้นวางสินค้า ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น สามารถทำได้ดังนี้ค่ะ 3.1) ป้ายติดชั้นวางสินค้า (Shelf edge strips and Shelf talker)บริเวณนี้ จะเป็นจุดที่ใช้สำหรับติดตั้ง ป้ายราคา และป้ายโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันคือจุดที่ใช้สื่อสารกับลูกค้า ให้พวกเขาเดินผ่านแล้วรู้สึกอยากหยุดอ่านที่ป้าย
ฉะนั้นจึงควรทำป้ายราคา หรือเพิ่ม Shelf talker เข้าไปให้น่าสนใจ มีความดึงดูดสายตาสูง อาจจะใส่ข้อความเล็ก ๆ เพื่อให้ลูกค้าอ่านแล้วได้ประโยชน์ หรือได้ทราบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ หรือคุณอาจจะเพิ่มลูกเล่น เช่น ไฟ LED เข้าไปให้เป็นจุดนำสายตาก็ได้นะ ถ้าคุณทำได้ดี มันมีโอกาสที่จะโกยลูกค้า ให้เข้าไปตกอยู่ในห้วงร้านค้าปลีกของคุณแน่นอนค่ะ! เทคนิคบริหารชั้นวางสินค้าแต่ละส่วน ให้ยอดขายปัง! 9ภาพตัวอย่าง Shelf talker 3.2) ถาดชั้นวางสินค้า (Shelf tray)ในระหว่างที่ผู้คนกำลังประเมินสินค้าว่าจะ ซื้อดีมั้ย? หรือไม่ซื้อดีน้าา? พวกเขาจะถือสินค้านั้นไว้ในมือ และอ่านคุณสมบัติด้านหลังของบรรจุภัณฑ์ จากนั้นพวกเขาก็วางมันกลับไปไว้ที่เดิม เพราะอะไรล่ะ? เพราะเดี๋ยวนี้ นักช้อปทั้งหลายไม่ได้ซื้ออะไรง่ายๆ อย่างที่คิดนะคะ ส่วนใหญ่คนสมัยนี้ เป็นนักช้อปมือฉมัง.. ต้องดูรีวิวจากอนเทอร์เน็ต ดู feed back ของผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น ๆ ก่อนที่จะเลือกซื้ออย่างถี่ถ้วน เพราะเหตุนี้ เมื่อพวกเขาต้องเลือกซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง มันจะต้องมีความละเอียดรอบคอบ เป๊ะปัง และแม่นยำ การมีสินค้าที่หลากหลาย ให้ลูกค้าได้เลือกสรร จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้
ดังนั้น… บริเวณแผ่นชั้นวางสินค้า จึงต้องมีการออกแบบมาให้รองรับสินค้าจำนวนมาก ๆ ได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง มีความพรีเมี่ยม ไม่ใช้วัสดุที่พังง่าย และต้องจัดสรรพื้นที่ของสินค้าเป็นอย่างดี 3.3) อุปกรณ์แบ่งสินค้าบนชั้นวาง (Shelf divider system)อุปกรณ์แบ่งสินค้าบนชั้นวาง มันถูกพัฒนาเพื่อลดเวลาที่ใช้ในการจัดเรียงสินค้าบนชั้นวาง ให้เป็นมีความเรียบร้อยและเรียงกันอย่างระเบียบ ช่วยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ให้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก และยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าได้อย่างหลากหลาย เป็นอุปกรณ์เสริม ที่ติดตั้งได้ง่าย และยังช่วยให้ชั้นวางสินค้า มีดีเทลที่น่าสนใจมากขึ้นนั่นเองค่ะ เทคนิคบริหารชั้นวางสินค้าแต่ละส่วน ให้ยอดขายปัง! 10ภาพตัวอย่าง Shelf divider system 3.4) อุปกรณ์ดันสินค้าให้เติมเองแบบอัตโนมัติ (Shelf pusher system)หลาย ๆ คน คงเคยไปซื้อน้ำดื่มที่ร้านสะดวกซื้อใช่ไหมคะ ใน ตู้แช่ มีขวดน้ำหลากหลายยี่ห้อตั้งเรียงรายกันอยู่ เวลาเราหยิบขวดน้ำออกมา ขวดต่อไปก็จะเข้ามาเติมพื้นที่ว่างเองโดยอัตโนมัติ การมีอุปกรณ์ดันสินค้าไว้ในตู้แช่ นอกจากจะเพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภคแล้ว มันยังสามารถเพิ่มความสบายให้กับคนจัดเรียงสินค้าอีกด้วย เพราะมันให้คุณไม่ต้องไปจัดเรียงสินค้าเองอยู่บ่อย ๆ ทั้งลดเวลาและเพิ่มความเป็นระเบียบให้ทั้งชั้นวางสินค้าในร้านค้าของคุณได้เป็นอย่างดี 3.5) อุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารบนชั้นวาง (On-shelf communication solutions)อุปกรณ์เหล่านี้ มีเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
วัสดุต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถนำมาติดตั้งบนชั้นวางสินค้า เพื่อเป็นตัวสื่อสารให้ชั้นวางของคุณขายของออกได้ด้วยตัวเอง แบบครบวงจร ลองเลือกมาผสมผสานกัน และปรับใช้ให้เหมาะสมกับร้านค้าของคุณดูนะคะ ทำยังไงให้ยอดขายเพิ่มขึ้น8 กลยุทธ์เด็ดเพิ่มยอดขายให้ทีมขาย ด้วยระบบ CRM. หาสาเหตุของปัญหา ... . อย่าเพิ่งลดราคา ... . ขยายฐานลูกค้าใหม่กับตลาดใหม่ ๆ ... . หาจุดขายและจุดแข็งของสินค้าและบริการที่คู่แข่งไม่มี (Unique Selling Point) ... . ทำความเข้าใจลูกค้าเก่าให้ดียิ่งขึ้น ... . ทดลองหาวิธีการขายแบบใหม่ ๆ ... . สร้างความประทับใจกับลูกค้าใหม่มากขึ้น. จัดเรียงสินค้า อย่างไร1. แบ่งสินค้าให้เป็นหมวดหมู่เดียวกัน โดยจัดเรียงลงมาในแนวดิ่ง 2. จัดเรียงสินค้าสัมพันธ์และต่อเนื่องกัน 3. สินค้าขายดีวางระดับสายตา และสินค้าราคาแพงควรวางใกล้แคชเชียร์ 4. สินค้าชิ้นเล็ก น้ำหนักเบาควรจัดเรียงด้านบน สินค้าน้ำหนักมากขนาดใหญ่ควรจัดเรียงด้านล่าง
การจัดเรียงสินค้ามีความสำคัญอย่างไรการจัดเรียงสินค้า มีความสำคัญต่อร้านค้าปลีกเป็นอย่างมาก เพราะมันมีผลต่อความสะดวกสบายของลูกค้าที่จะหยิบจับสินค้าจากชั้นวาง รวมถึงความเพลินเพลินกับการช้อปปิ้งที่ร้านของคุณ ถ้าคุณจัดสรรปันส่วนในทุกพื้นที่ของร้านและชั้นวางสินค้าให้มีประโยชน์มากที่สุดจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เลยค่ะ
|