สมิติเวช ไชน่าทาวน์ เลสิค หมอ

สวัสดีค่าทุกคนวันนี้เตยจะมารีวิวทำเลสิก ที่ ศูนย์เลสิก “โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์” นะคะ ณ เวลานี้ที่กำลังเขียนคอนเท้นต์อยู่คือเตยทำเลสิกมาได้ 1 เดือนครึ่งแล้ว บอกเลยว่าตอนนี้เห็นชัดแจ๋วเป็นปกติเลย ทนเจ็บ 1 วัน ตื่นมามองเห็นเลย โลกเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นการเสียเงินที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต 

ซึ่งก่อนจะทำเลสิกที่สมิติเวช ค่าสายตาเตยสั้นเกือบๆ 600 แล้วก็เอียงอีก 500 ไปเลยจุกๆ 5555 ถอดแว่นคือแทบจะมองไม่เห็นเลย สำหรับใครที่สงสัยว่าทำเลสิกราคาเท่าไหร่ เจ็บมั้ย? ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? วันนี้จะมารีวิวให้แบบละเอียดเลยนะคะ ตามมาอ่านกันเลยค่า 

ทำไมถึงเลือกทำเลสิกที่ สมิติเวช ไชน่าทาวน์?

ด้วยความที่เพื่อนของทำเลสิกที่นี่ เตยก็เลยเลือกที่นี่เลย ไม่มีอะไรมาก จริงๆ ตอนแรกจะเลือกทำเลสิกที่ยันฮีกับคุณหมอเกรียงไกร แต่ด้วยความที่ สมิติเวช ใกล้บ้านมากกว่า ก็เลยเลือกเอาที่เราสะดวก ซึ่งเตยเลือกทำกับคุณหมอไอซ์ เลสิคหมอชญานี นะคะ เพราะคุณหมอมีตารางออกตรวจวันเสาร์พอดี บวกกับไปหาข้อมูล อ่านรีวิวต่างๆ แล้วคนบอกว่าคุณหมอมือเบามาก ก็เลยจองทำกับคุณหมอไอซ์ไป นัดตรวจเช้า บ่ายผ่าเลย ใจร้อน 555555 ถ้าหากใครไม่รู้ว่าจะเลือกทำเลสิกตาที่ไหนดี ลองเลือกศูนย์เลสิก สมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้นะคะ เพราะเค้ามีโปรโมชันออกมาเรื่อยๆ เลย

ทำเลสิกตา ราคาเท่าไหร่?

เตยทำ เลสิก แบบธรรมดานะคะ เพราะสู้ราคา Relex ไม่ไหว 5555 ซึ่งเดี๋ยวนี้การทำเลสิกราคาถูกกว่าเมื่อก่อนมากๆ โดยเลสิก สมิติเวช ไชน่าทาวน์ ราคาที่เตยจ่ายก็คือ 38,000 บาท เป็นราคาโปรโมชั่น (ปกติราคา 54,000 บาท) ซึ่งวันที่เตยไปทำได้รับส่วนลดจากคุณหมออีก 1,000 บาท ก็คือจ่ายแค่ 37,000 บาท 

โดยในราคานี้รวมค่าตรวจ ค่ายา ค่า follow up หมดแล้วนะคะ คือคุ้มมากเลย จริงๆ โปรนี้มีรวมนอนรพ. 1 คืนด้วย แต่ว่าไม่สามารถใช้ร่วมกับการทำเลสิกในวัน ศุกร์ และวันเสาร์ ได้เตยเลยกลับมานอนที่บ้าน ถ้าใครเลือกมาทำวันธรรมดาแล้วนอน รพ. ด้วยก็จะสะดวกมากเลย เพราะว่าเช้าวันต่อมาเราต้องมาตรวจตากับคุณหมออีกรอบค่ะ 

ขั้นตอนการทำเลสิก 

คือจริงๆ เตยเตรียมตัว เตรียมใจมานานมาก เคยดู Keeping Up With the Kardashians ตอนที่ Kim Kardashian นางไปทำเลสิกละดูชิลมาก เลยค่อนข้างเตรียมใจมาพอสมควร คือเตยไปถึง รพ. ตั้งแต่เช้าเลย 7.30 เพราะต้องไปตรวจค่านู่นนี่ต่างๆ ก่อน ให้หมอดูความหนาของกระจกตาก่อนว่าจะทำได้มั้ย ซึ่งขั้นตอนนี้ค่อนข้างวิตกกังวล เพราะกลัวหมอจะบอกว่าทำไม่ได้ 5555 เนื่องจากเอียงเยอะมาก ซึ่งตอนตรวจก็ใช่เวลา 2-3 ชั่วโมงเลย โดยรายการตรวจที่เราจะต้องเจอมีตามนี้ค่ะ 

• ตรวจวัดการมองเห็น 
• ตรวจวัดความดันลูกตา 
• ตรวจสภาพจอประสาทตา 
• ตรวจวัดความโค้งกระจกตาส่วนหน้าและส่วนหลัง 
• ตรวจวัดความหนาของกระจกตา

วินาทีสุดตื่นเต้น ขึ้นเขียงเตรียมผ่าตัดเลสิก

ลืมบอกไปว่าวันที่มาทำเลสิกจะต้องงดใส่น้ำหอม โรลออน งดแต่งหน้า แล้วก็งดใส่คอนแทคเลนส์ประมาณ 1 อาทิตย์นะคะ ซึ่งหลังจากที่ตรวจตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดในช่วงบ่ายค่ะ ซึ่งเตยได้คิวที่ 4 ตอนนี้ก็เริ่มนอยด์ๆ กังวลละ หลังจากตอนแรกเตรียมใจมาตลอด 55555

โดยระหว่างที่รอผ่าตัด พยาบาลก็จะมาหยอดยาชา ยาฆ่าเชื้อให้ แล้วก็มีการบรีฟว่าขั้นตอนผ่าตัดทำเลสิกมีอะไรบ้าง มันก็ช่วยให้เราเตรียมตัวได้ระดับนึง แต่พอเข้าไปจริงๆ เตยแอบสติหลุด 555555555555555 คือรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ที่สุดก็ผ่านมาได้ และหมอก็บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เลยโล่งใจ ซึ่งขั้นตอนที่จำได้คือ เข้าไปนอนก่อนตอนแรก หมอให้หลับตา ละก็ใส่เครื่องถ่างตารึเปล่าไม่แน่ใจ 5555 ลืม หรือทำขั้นตอน Suction ก่อนนี้แหละ อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าดูดอะไร 55555 แต่ที่ถ่างตาก็จะรู้สึกตึงๆ ส่วน suction มันแบบเหมือนมีเสียงอ่ะ นี่ตกใจ ตัวเกร็งไปหมด หมอกับพยาบาลก็ต้องคอยปลอบ

โอเคจากนั้นก็เป็นขั้นตอนเปิดกระจกตา ซึ่งเตยรู้ว่าโอเคขั้นตอนนี้กระจกตาจะออกมาแล้ว ก็ดันกลัวอีก เกร็งไปหมด 5555 แต่มันไม่เจ็บนะ แต่พอเราจินตนาการมันเลยแบบทำให้กลัว ขั้นตอนนี้ก็เหมือนมีอะไรมาวางที่ตา ละภาพก็จะดับไปประมาณ 5 วิ แต่หมอก็บอกให้ลืมตาตลอด จากนั้นหมอก็ยิงเลเซอร์ ให้เรามองมองไฟสีแดงๆ แล้วคุณหมอก็ปิดกระจกตา ล้างๆ แล้วก็เสร็จเลย รวดเร็วมาก ยังไม่หายตกใจเลย 55555 ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดเกิดขึ้นแค่ราวๆ ประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ

รีวิวทำเลสิก เจ็บมั้ย? รีวิวแบบตรงๆ บอกเลยว่าเจ็บ 55555 แต่! เจ็บแค่ตอนกลับถึงบ้านนะ ตอนทำเลสิกไม่เจ็บเลย เพราะมีการหยอดยาชาหลายรอบมาก ตอนผ่าจะรู้สึกแค่ตึงๆ ตอนหมอใส่อุปกรณ์ถ่างตาแค่นั้น ผ่าเสร็จก็ไม่เจ็บเพราะยาชายังไม่หมดฤทธิ์ และขั้นตอนทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แบบงงๆ ว่าเสร็จแล้วหรอ 5555 ไม่น่าจะถึง 10 นาทีได้ ก่อนกลับพยาบาลก็ให้กินยาแก้ปวด 1 เม็ด

โอเคทีนี้จะมารีวิวความรู้สึกตอนเจ็บ เตยผ่าเสร็จประมาณบ่าย 2 กลับถึงบ้านประมาณบ่าย 3 นิดๆ ก็เริ่มรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่ยังลืมตาปกติได้อยู่ ทีนี้ก็รีบนอนเลย พักสายตา จริงๆ หมอให้ยานอนหลับมาด้วย แต่ยังไม่กิน เก็บไว้กินตอนกลางคืน ก็หลับไป ตื่นมาประมาณ 5 โมงกว่าๆ ตอนนี้คือรู้สึกเจ็บแล้ว เหมือนมีทรายอยู่ในตา แล้วก็พยายามลืมตา แต่ว่ามันเจ็บแล้วก็มีน้ำตาไหล ก็เลยพยายามหลับตาตลอด รีบกินข้าว กินแบบทั้งๆ ที่หลับตานั่นแหละ 55555 กินยาแก้ปวดอีก 1 เม็ด ละไปหลับต่อ

ตื่นรอบ 2 คราวนี้ตื่นมาประมาณ สองทุ่มนิดๆ เกือบสามทุ่ม รอบนี้คือว้าวมาก เพราะว่าไม่ได้รู้สึกเจ็บมากแล้ว สามารถลืมตาได้ เลยไปอาบน้ำ ซึ่งห้ามน้ำโดนหน้า 7 วัน จากนั้นก็กินยานอนหลับแล้วก็หลับยาวเลย

โมเมนท์ A Whole New World

เปิดโลกแบบใหม่แบบสับ 55555 พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็รีบเอาที่ปิดตาออก เช็ดขี้ตาตามที่พยาบาลสอน แล้วคือมันว้าวมาก คือเรามองเห็นแล้วทุกคน คือมันตื้นตันใจมากๆ อาการเจ็บก็หายเป็นปลิดทิ้ง ความมหัศจรรย์ของร่างกาย คือตาขวามองเห็นชัดเลย แต่ตาซ้ายตอนนั้นยังแบบเบลอนิดนึง เพราะมีรอยแดงๆ เหมือนเส้นเลือดฝอยแตกนิดนึงตรงเหนือลูกตาเลยทำให้ตาแอบเคืองๆ ซึ่งวันนี้ก็ต้องไปหาหมอตรวจตาอีกรอบ ระหว่างที่นั่งรถไปก็ว้าวมากเลย เพราะมองเห็นทุกอย่างเลย

พอไปตรวจค่าสายตา ตรวจแผลหลังทำลเสิก หมอก็บอกว่าปกติดี ให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ เพราะช่วงนี้ตาจะแห้ง แล้วก็ตาซ้ายที่ยังเบลอๆ หมอบอกว่าให้รออีกหน่อย เพราะยังไม่ 24 ชั่วโมง แผลอาจจะยังไม่สมานดี เราก็ถามหมอเลยว่าวันนี้ดูทีวีได้หรือยัง 5555 เพราะวันนั้นมีแข่งวอลเลย์บอลรอบสุดท้ายแล้ว หมอบอกดูได้ค่ะ เราก็แบบดีใจมากกกกกกก  คือไม่คิดว่ามันจะ recover เร็วขนาดนี้ แต่ก็ยังต้องพักสายตาเป็นช่วงๆ เพราะอย่างที่บอกคือ ช่วงนี้ตาจะแห้ง

สรุปคือ เลสิกมันเปลี่ยนชีวิตจริงๆ นะคะทุกคน ลองศึกษาดู ถ้าใจพร้อม เวลาพร้อม เงินพร้อม ก็ทำเลย มันไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ทรมานอย่างที่คิด แถมการทำเลสิกตอนนี้ราคายังไม่แพงเหมือนเมื่อก่อนด้วย ถ้าใครไม่อยากเจ็บก็เลือกแบบ Relex เลย คือบอกเลยว่าชีวิตมันดีขึ้นมากๆ คนไม่เคยสายตาสั้นอาจจะไม่เข้าใจ แต่มันเริ่ด มันปังจริงๆ นะ ถ้าใครมีคำถามสงสัยอะไรก็ทิ้งคำถามไว้ได้เลย แล้วเตยจะช่วยตอบนะคะ