แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการแต่งคำประพันธ์ from bambookruble
ข้อ 1)
เลือกตอบข้อ ก. เย้า , เนื่อง
ผิด เพราะคำว่า เย้า เป็นคำโท ตำแหน่งนี้ต้อง
เป็นคำเอก
เลือกตอบข้อ ข. มัก, เพราะ
ถูก เพราะคำว่า มัก กับ คำว่า เพราะ เป็นคำตายใช้แทนคำเอกได้ ซึ่งถูกต้องตามฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพ ที่กำหนดให้ตำแหน่งของคำที่ ๓ ของบาทที่ ๓ ต้องเป็นคำเอก และคำที่ ๖ ของบาทที่ ๔ ก็ต้องเป็นคำเอก เช่นเดียวกัน
เลือกตอบข้อ ค. ดุจ , อัน
ผิด เพราะ คำว่า อัน ไม่ใช่คำเอก
เลือกตอบข้อ ง. ได้ , เกิด
ผิด เพราะ คำว่า ได้ เป็นคำโท
ข้อ 2)
เลือกตอบข้อ ก. นารายณ์บรรทมสินธุ์ นานตื่น
ผิด เพราะคำว่า บรร ไม่ใช่คำเอก
ตำแหน่งลักษณะบังคับของคำที่ ๓ บาทที่ ๓
ในโคลงสี่สุภาพ ต้องเป็นคำเอก
เลือกตอบข้อ ข. นารายณ์เจื่องเจ้านิทร นานเนา แล้วเฮย
ผิด เพราะคำว่า เนา ไม่ใช่คำเอก
ตำแหน่งลักษณะบังคับของคำที่ ๓ บาทที่ ๓
ในโคลงสี่สุภาพ ต้องเป็นคำเอก
เลือกตอบข้อ ค. นารายณ์เนื่องนิทรสินธุ์ นานตื่น
ถูก เพราะบาทที่ ๓ ของโคลงสี่สุภาพมีลักษณะ
บังคับ
เลือกตอบข้อ ง. นารายณ์เนาในสินธุ์ นานนับ แลนา
ผิด เพราะคำว่า เนา ไม่ใช่คำเอก
ตำแหน่งลักษณะบังคับของคำที่ ๓ บาทที่ ๓
ในโคลงสี่สุภาพ ต้องเป็นคำเอก
ข้อ 3)
เลือกตอบข้อ ก. กาพย์ยานี
ถูก เพราะจำนวนคำทั้งหมดมี ๒๒ คำ เมื่อนำมาจัดวรรคในรูปแบบของกาพย์ยานี ๑๑ จะได้ ๑ บทพอดี
เดินเที่ยวอยู่เดียวดาย ใจมิวายคิดกังวล
หากมีใครสักคน มาเดินด้วยคงจะดี
เลือกตอบข้อ ข. กาพย์ฉบัง
ผิด เพราะกาพย์ฉบัง ๑ บทมี ๑๖ คำ ถ้า
๒ บทก็ต้องมี ๓๒ คำ แต่ข้อความนี้ มีจำนวนคำ
ทั้งหมด ๒๒ คำ
เลือกตอบข้อ ค. กาพย์สุรางคนางค์
ผิด เพราะกาพย์สุรางคนางค์ ๑ บทมี ๒๘ คำ
เลือกตอบข้อ ง. กลอนสุภาพผิด เพราะกลอนสุภาพ ๑ บท มี ๓๒ คำ
ข้อ 4)
เลือกตอบข้อ ก. กาพย์ฉบังผิด เพราะกาพย์ฉบัง ๑๖ ถ้าจัดรูปแบบ คำที่ ๖ ต้องส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑๐
เลือกตอบข้อ ข. กาพย์สุรางคนางค์ ผิด เพราะกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ จะต้องแบ่งคำในวรรคเป็น ๔ คำ ๗ วรรค คำที่ ๔ ของวรรคที่ ๑ จะต้องส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๔ ของวรรคที่ ๒
เลือกตอบข้อ ค. โคลงสี่สุภาพผิด เพราะ โคลงสี่สุภาพ มีจำนวนคำทั้งหมด ๓๐ คำ ถ้ามีคำสร้อย อีก ๒ แห่ง ก็จะมีคำเพิ่มมาอีก ๔ คำ เป็น ๓๔ คำ แต่ข้อความนี้ มีจำนวนคำ ๔๔ คำ
เลือกตอบข้อ ง. กาพย์ยานี
ถูก เพราะจำนวนคำทั้งหมดมี ๔๔ คำ ถ้านำมาจัดวรรคจะได้รูปแบบดังนี้
โดยเสด็จเด็ดดวงสวาท แรมนิราศคลาดพักตรา
ป่านนี้แก้วพี่อา นอนฤานั่งตั้งตาคอย
อยู่เดียวเปลี่ยวใจเศร้า คิดถึงเจ้าเปล่าใจถอย
เสียดายวายรักร้อย ชั่งเรียมเอยไม่เคยไกล
ข้อ 5)
เลือกตอบข้อ ก. ย้ำ
ผิด เพราะลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพกำหนดให้คำสุดท้ายของบาทที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่ ๔ แต่คำว่า ย้ำ ไม่ส่งสัมผัสกับคำว่า เอื้อง
เลือกตอบข้อ ข. ย้าย
ผิด เพราะลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพกำหนดให้คำสุดท้ายของบาทที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่ ๔ แต่คำว่า ย้ายไม่ส่งสัมผัสกับคำว่า เอื้อง
เลือกตอบข้อ ค. เยื้อง
ถูก เพราะคำสุดท้ายของบาทที่ ๒ ต้องส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่ ๔ คำว่า เยื้อง เป็นเพียงคำเดียวในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด ที่ส่งสัมผัสกับคำว่า เอื้อง
เลือกตอบข้อ ง. เย้า
ผิด เพราะลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพกำหนดให้คำสุดท้ายของบาทที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่ ๔ แต่คำว่า เย้า ไม่ส่งสัมผัสกับคำว่า เอื้อง
ข้อ 6)
เลือกตอบข้อ ก. ฉันท์
ผิด เพราะข้อความนี้ไม่มีลักษณะของการใช้คำครุลหุซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการเล่นจังหวะของคำประพันธ์ประเภทฉันท์
เลือกตอบข้อ ข. โคลง
ถูก เพราะข้อความนี้ เมื่อนำมาจัดวรรคตามระเบียบฉันทลักษณ์ จะได้รูปแบบเป็นโคลงสี่สุภาพ ดังนี้
มหาโจรเที่ยวปล้นฆ่า มหาชน
ด่าอุบาทว์ราชทัณฑ์ปรน ปราบป้อง
มหาราชยาตรพหลผจญ มหาราษฎร์ ละพ่อ
ชมฉกาจราชเดชก้อง เกียรติกนั้นขันไหม
เลือกตอบข้อ ค. กาพย์
ผิด เพราะ ไม่สามารถนำข้อความไปจัดระเบียบให้ตรงกับฉันทลักษณ์ของกาพย์แต่ละประเภทได้
เลือกตอบข้อ ง. ร่าย
ผิด เพราะถ้าจัดคำลงวรรคได้ วรรคละ ๕ คำ อาจเป็น ร่ายสุภาพ แต่จะผิดสัมผัส เพราะ ร่ายสุภาพจะต้องส่งสัมผัสคำท้ายวรรค ไปยัง คำที่ ๑หรือ ๒ หรือ ๓ ของวรรคถัดไป ทุกวรรค
ข้อ 7)
เลือกตอบข้อ ก.ยามเปรียบยิ่งดวงแก้ว พ้นแล้วอุปมา
ผิด เพราะในบาทแรกมีคำเปรียบว่า ยิ่งแก้ว
อยู่แล้ว ดังนั้นในบาทสุดท้ายก็ไม่น่าจะมีคำเปรียบ
ที่ซ้ำซ้อนกันอีก
เลือกตอบข้อ ข. ยังแผ่นดินเลิศแล้ว พร่างพ้นสุริย์ฉาย
ผิด เพราะในบาทแรกมีคำเปรียบ
ว่า สุริยกานต์ อยู่แล้ว ดังนั้นในบาทสุดท้ายก็ไม่น่าจะมีคำเปรียบที่ซ้ำซ้อนกันอีก
เลือกตอบข้อ ค. ยิ่งแสงสุริยะแคล้ว เลิศล้ำแสงฉาย
ผิด เพราะในบาทแรกมีคำเปรียบ
สุริยกานต์อยู่แล้ว ดังนั้นในบาทสุดท้ายก็ไม่น่าจะมีคำเปรียบที่ซ้ำซ้อนกันอีก
เลือกตอบข้อ ง. ฉาบแผ่นดินให้แผ้ว พ่างพื้นพิมานสถาน
ถูก เพราะใช้คำได้เหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อความข้างต้น
ข้อ 8)
เลือกตอบข้อ ก. กาพย์ยานี
ถูก เพราะถ้าอ่านเป็นกาพย์ยานี จะแบ่งวรรคได้ดังนี้
เอ๊ ! ใครนะช่างคิด ประดิษฐ์จรวดนำวิถี
ชาติใดหากไม่มี ไว้ใช้คงเสียเปรียบจัง
ประเทศมหาอำนาจ หลายชาติต่างอยากเด่นดัง
สร้างจรวดเก็บเข้าคลัง อาวุธอย่างอเนกนับ
เลือกตอบข้อ ข. กลอน
ผิด เพราะข้อบังคับการส่งสัมผัสของกลอน
กำหนดให้คำที่ ๘ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑๑
แต่ข้อความนี้ใช้จัดระเบียบของกลอนไม่ได้
เลือกตอบข้อ ค. ร่าย
ผิด เพราะถ้าเป็นร่ายสุภาพ คำท้ายวรรค คือคำที่ ๕ จะต้องส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของ วรรคต่อไปทุกวรรค ซึ่งข้อความนี้นำไปจัดระเบียบเป็นร่ายไม่ได้
เลือกตอบข้อ ง. กาพย์ฉบัง
ผิด เพราะข้อบังคับของ กาพย์ฉบัง คำที่ ๖ ต้อง ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๑๐ ข้อความนี้จึงใช้จัดระเบียบเป็นกาพย์ฉบังไม่ได้
ข้อ 9)
เลือกตอบข้อ ก. ๕ คำ
ผิด เพราะจำนวนคำไม่ครบตามตำแหน่งที่บังคับไว้ในฉันทลักษณ์
เลือกตอบข้อ ข. ๖ คำ
ถูก เพราะฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพบังคับคำเอก
ไว้ตรงตำแหน่งดังนี้
ไทยยงคงศักดิ์ด้วย ดวงดี เด่นฤา
ฤาปะเหมาะเคราะห์ปี ศาจคุ้ม
ลำพังชะตามี ก็อาจ อับนอ
เพราะพิรัชภัยคลุ้ม คลั่งล้อมรอบคาม
เลือกตอบข้อ ค. ๔ คำ
คำตอบ ผิด เพราะจำนวนคำไม่ครบตามตำแหน่งที่บังคับไว้ในฉันทลักษณ์
เลือกตอบข้อ ง. ๓ คำ
ผิด เพราะจำนวนคำไม่ครบตามตำแหน่งที่บังคับไว้ในฉันทลักษณ์
ข้อ 10)
เลือกตอบข้อ ก.ตาเสือเสือผาดผ้าย หนีทาง
ผิด เพราะคำว่า ผาดผ้าย เป็นคำที่มีความหมายตรงกับเนื้อความ แปลว่า เคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่คำ โทโทษ ที่ เปลี่ยนรูปคำมาจากคำว่า พ่าย