หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่องการทำงานในชีวิตประจำวัน Show
การทำงานเพื่อการดำรงชีวิตจำเป็นต้องมีทักษะกระบวนการที่ดี และมีจริยธรรม คุณธรรมในการทำงาน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ 1. หลักการทำงานเพื่อการดำรงชีวิตการทำงานในชีวิตประจำวันล้วนประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความสามารถหลากหลาย จึงจำเป็นต้องอาศัยหลักการทำงาน 6P เข้ามาาประยุกต์ใช้เพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จ หลักการ 6P มีดังนี้2. หลักการทำงานให้ประสบความมสำเร็จในการทำงานให้ประสบความสำเร้จนั้น เราจำเป็นต้องมมีการปรับปรุงพัฒนาวิธีการทำงานอยู่เสมอ โดยอาศัยกระบวนการ PDCA 4ขั้นตอน ได้แก่ P (Plan) D (Do) C (Check) A (Act) และหลักการ ” D-E-V-E-L-O-P” ซึ่งมีดังนี้ D = Development E = Endurance V = Versatile E = Energetic L = Love O = Organizing P = Positive Thinking
3. ทักษะในการทำงาน3.1 ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ประกอบไปด้วยลักษณะ 4 ประการ ดังนี้
3.2 ทักษะการจัดการงาน มีทั้งหมด 8 ประการ ดังนี้
-บอกรายละเอียดงานที่ทำ 2. การให้คำแนะนำต่องานที่มอบหมาย -เครื่องมือและอุปกรณ์ 3. การติดตามผลงาน -เปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับสิ่งที่ควรจะเป็น 4. การให้คำชมเชย -ตั้งอยู่บนข้อมูลที่ปรากฎ 5. การแก้ปัญหที่ดี -เมื่อมีค่าต่างไปจากสิ่งที่คาดหมาย 6. การชี้แนะตักเตือน -พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 7. การให้ความช่วยเหลือ -ให้ความร่วมมือ 8. การรายงานผล -การส่งผ่านข้อมูลที่สำคัญไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องในองค์กร 3.3 ทักษะการแสวงหาความรู้การแสวงหาความรู้เกิดจากความพยายามศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งการเรียนรู้ประเภทต่่างๆ เพื่อนำมาใช้พัฒนาตนเอง ทักษะการแสวงหาความรู้ประกอบไปด้วยขั้นตอนดังนี้ ขั้นที่ 1 การวางแผน โดยวิเคราะห์สถานะการ 5W1H ไว้ล่วงหน้า ได้แก W = Who ใครเป็นผู้สืบค้นหาความรู้W = What จะสืบค้นเรื่องอะไรW = Where จะสืบค้นที่ไหนW = when จะสืบค้นเมื่อไหร่W = Why จะสืบค้นเพราะเหตุใดH = How มีวิธีการอย่างไร
ขั้นตอนที่ 2 การดำเนินการสืบค้น ดำเนินการสืบค้นตามแผนที่กำหนดไว้ โดยเลือกสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่มีข้อมูลถูกต้อง และน่าเชื่อถือ เช่น หนังสือที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ เว็บไซต์ขององค์กรที่น่าเชื่อถือ ขั้นตอนที่ 3 การรวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากแหล่งการเรียนรู้หลาย ๆ แห่ง นำมาจัดเก็บให้เป็นระบบ เพื่อสะดวกในการสืบค้น และสามารถเลือกใช้ข้อมูลให้เหมาะสมกับงานได้สะดวก รวดเร็ว ขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ พร้อมทั้งตรวจสอบความทันสมัยของข้อมูลต่าง ๆ ให้น่าเชื่อถือมากที่สุด ขั้นตอนที่ 5 การบันทึกจัดเก็บข้อมูล บันทึกจัดเก็บข้อมูลที่ถูกต้องให้เป็นระบบ โดยอาจจัดเก็บรูปแบบ สมุดบันทึก แฟ้มเอกสาร แผ่นซีดี เป็นต้น เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล อีกทั้งสามารถปรับปรุงข้อมูลและนำไปใช้งานได้สะดวก 3.4 ทักษะกระบวนการทำงานมีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้ 1. การวิเคราะห์งาน คือ การที่ผู้เรียนสามารถแจกแจงที่จะทำว่าเป็นงานประเภทใด หรือลักษณะใด ต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์อะไรบ้าง มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร กล่าวคือ ฝึกให้ผู้เรียนมองงานโดยภาพรวมออกมาว่าจะต้องทำอย่างไร 2. การวางแผนในการทำงาน คือ การให้ผู้เรียนสามารถวางแผนว่าจะใช้กำลังงานในการทำงานอย่างไร จะทำคนเดียวหรือต้องทำหลายคน ถ้าทำหลายคนจะแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรในการทำงานครั้งนี้ ต้องใช้เงินในการลงทุนมากน้อยอย่างไร ตลอดจนกำหนดวิธีการทำงานให้เป็นขั้นตอนจนงานสำเร็จ 3. การปฏิบัติงาน คือ การให้ผู้เรียนได้ทำงานตามลำดับขั้นตอนที่วางแผนไว้ ฝึกให้มีลักษณะนิสัยที่ดี ในการทำงาน เช่น พูดจาสุภาพ เหมาะสม มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขยัน อดทนซื่อสัตย์ ฯลฯ และสามารถตรวจสอบการทำงานของตนเป็นระยะ ๆ 4. การประเมินผลการทำงาน คือการให้ผู้เรียนได้ประเมินผลทั้งการวางแผนก่อนการทำงาน ขณะปฏิบัติงานและเมื่องานสำเร็จแล้ว โดยขั้นตอนในการวางแผนก่อนการทำงาน ให้ประเมินว่าได้วางแผนไว้รอบคอบรัดกุมหรือไม่จะต้องเตรียมอะไรบ้าง ตรวจสอบดูแผน ที่วางไว้ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ขณะปฏิบัติให้ประเมินว่าวิธีการทำงานเป็นอย่างไรบ้างมีข้อบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงอย่างไร และเมื่องานสำเร็จให้ประเมินว่าผลงานที่ออกมาเป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรือไม่มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อจะได้แก้ไขและปรับปรุงผลงานของตนให้ดีขึ้น 3.5 ทักษะการทำงานร่วมกันประกอบไปด้วยปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. การสื่อความหมาย ที่จัดเจนและหมาะสม ซึ่งทำให้ทุกคนกล้าาที่จะเปิดใจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จนเกิดความเข้าใจและนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขั้น 2. การมีภาวะผู้นำ กำารทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ควรส่งเสริมให้สมาชิกทุกคนได้มีโอกาสแสดงความเป็นผู้นำ เพื่อให้ทุกคนเกิดความรู้สึกว่ได้รับการนอมรับ และปรารถนาที่จะร่วมงานกันอีก 3. การตัดสอนใจ เมื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเห็นและร่วมตัดสินใจแล้ว สมาชิกย่อมเกิดความผูกพันที่จะทำในสิ่งที่ตนเองได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น 4. การกำหนดกติกาหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ การทำงานร่วมกันให้บรรลุเป้หมายนั้นควรเปิดโอกาสให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการกำหนดกติกา ที่นำมใข้ร่วมกัน 5. การมีส่วนร่วมในการประเมินผลการทำงานของกลุ่ม ควรมีการประเมินผลเป็นระยะ โดยสมาชิกทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการประเมินผล เพื่อให้สมาชิกได้ทราบความก้าวหน้ของงาน ปัญหาหรืออุปสรรค์ที่เกิดขัึ่น รวมทั้งพัฒนากระบวนการทำงาน หรือการปรับปรุงแก้ไขร่วมกัน 3.6 ทักษะกระบวนกรแก้ปัญหาขั้นตอนที่ 1 เข้าใจสภาพการณ์ ขั้นตอนที่ 2 กําหนดปัญหาให้ถูกต้องชัดเจน โดยใช้วิธีการเล่าเรื่องหรือการเขียนบรรยายสภาพปัญหาด้วยถ้อยคำสั้น ๆ ที่สื่อสารอย่างตรงประเด็น ได้ใจความ จากนั้นจึงระบุเป้าหมายของสภาพการณ์ที่เราอยากให้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้แก้ปัญหานั้นไปแล้ว ขั้นตอนที่ 3 วิเคราะห์สาเหตุสําคัญ 1. ตรวจหาสาเหตุ ขั้นตอนที่ 4 หาวิธีแก้ที่เป็ นไปได้ ความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่จําเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทําให้ได้วิธีแก้ปัญหาที่มีความหลากหลายมากมาย ซึ่งจะเป็ นผลดีต่อการแก้ปัญหา เพราะยิ่งมีตัวเลือกมากเท่าไร ก็ะยิ่งมีโอกาสได้วิธีแก้สุดท้ายที่ดีมากขึ้นเท่านั้น ขั้นตอนที่5 เลือกวิธีแก้ที่ดีที่สุด โดยทำการเปรียบเทียบทางเลือกของการแก้ไขปัญหาทั้งหมด หาข้อดีและข้อเสียของแนวทางหรือวิธีการแต่ละรูปแบบเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการทำงานน้อยที่สุด ขั้นตอนที่ 6 วางแผนปฏิบัติ ถึงเวลาที่จะต้องลงมือปฏิบัติ จะต้องรู้ว่า ต้องทําอะไร ขั้นตอนที่ 7 ติดตามประเมินผล ตรวจสอบความคืบหน้าของการทำงานที่ได้วางแผนและปฏิบัติงานไปตามนั้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ทราบว่ามีปัญหาและอุปสรรค์ใดที่เกิดขึ้นจาการทำงานหรือไม่ งานสำเร้จลงได้ตามเป้าหมายหรือไม่
|