จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้าที่พลเมืองแหล่งเรียนรู้หน้าที่พลเมือง สาระเพิ่ม ม.1 (วพ)
| เรื่องที่ 2 การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการพึ่งพาอาศัยกัน
เรื่องที่ 2 การอยู่ร่วมกันในพหุวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันในพหุวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม จะต้องมีการศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศต่างๆ เพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน การปฎิบัติตนต่อกันอย่างเหมาะสม มีดังนี้
- การเคารพซึ่งกันและกัน
- เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนูาย์ ยอมรับความแตกต่างด้านความเชื่อ วัฒนธรรม ภาษา และเชื้อชาติ
- เคารพในสิทธิของกันและกัน
- เคารพในความคิดเห็นของผู้อื่น
- ไม่แสดงกิริยาและวาจาดูหมิ่นผู้อื่น
- แสดงกิริยา วาจา สุภาพ
- ไม่กล่าวลบหลู่ในสิ่งที่เขาเคารพศรัทธา
- ไม่พูดจาล้อเลียน เยาะเย้ยคนที่มีวัฒนธรรมต่างจากเรา
- ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและมีการแบ่งปัน
- มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
- เปิดโอกาสให้คนต่างเชื้อชาติต่างวัฒนธรรม
เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคม
- ให้ความช่วยเหลือ และเข้าร่วมกิจกรรมที่ดี ที่ชาวต่างชาติจัดขึ้น
| เรื่องที่ 2 การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการพึ่งพาอาศัยกัน การปฎิบัติตนอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อกัน คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้สมาชิกในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยเฉพาะสังคมที่มีลักษณะเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เช่นสังคมไทยนั้น สมาชิกในสังคม ยิ่งจำเป็นต้องเรียนรู้การปฎิบัติตน ให้กลมกลืนไปกับความแตกต่าง เพื่อป้องกันความแตกแยกที่อาจเกิดขึ้นตามมา
คุณค่าของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและพึ่งพาอาศัยกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติและพึ่งพาอาศัยกัน ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านต่างๆ ดังนี้ ประโยชน์ต่อตนเอง - ทำให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และรู้สึกปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ
- มีผู้คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อตกยาก หรือประสบกับความยากลำบากจากเหตุการณ์ต่างๆ และทำให้ไม่รู้สึกโดเดี่ยว หรือไร้ที่พึ่งเมื่อเจอปัญหา
- ประสบความสำเร็จในการประกอบหน้าที่การงาน
เพราะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากบุคคลรอบข้าง
ประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ - สังคมเป็นระเบียบเรียบร้อยและสงบสุข ปราศจากปัญหาความแตกแยกขัดแย้งใดๆ
- เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วและยั่งยืน เพราะความสงบสุขในสังคม จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศชาติมีรายได้เพิ่มขึ้น เพียงพอต่อการนำมาปรับปรุงโครงสร้างทางสังคมให้มีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับความเสี่ยงหรือการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์
- ความสุขของคนในชาติเพิ่มมากขึ้น
เพราะมีความอยู่ดีกินดี รู้สึกปลอดภัยในการดำเนินชีวิต มีหน้าที่การงานและรายได้ที่มั่นคง
แนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และการพึ่งพาอาศัยกัน
การเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกันในสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและแตกต่าง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับบุคคลรอบข้าง จะก่อให้เกิดความสุขในการอาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของสมาชิกทุกคน
โดยยึดแนวทางการปฎิบัติ ดังนี้ เคารพซึ่งกันและกัน - แสดงกิริยาที่นอบน้อมต่อกัน
- พูดดีต่อกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง
- ยอมรับในความแตกต่างทั้งความเชื่อ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม เชื้อชาติ ผิวพรรณ เป็นต้น
รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน - เมตตาต่อกัน
- เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงจิตใจของผู้อื่น
- แสดงความห่วงใยต่อบุคคลรอบข้าง
ไม่ซ้ำเติมให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ยากมากขึ้น
- ฝึกใจให้รักในการให้ มากกว่าการรับ
- เสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน - บริจาคทรัพย์สิน หรือสิ่งของช่วยเหลือผู้อื่นที่ยากลำบากหรือประสบภัยต่างๆ
- ช่วยเหลือผู้อื่นทำงาน หรือช่วยงานตามความสามารถของตนด้วยความทุ่มเทและเต็มใจ
- ให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามข้อกำหนด หรือระเบียบของสังคม
มีความซื่อสัตย์ต่อกัน
- แสดงความจริงใจต่อกันทั้งทางกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและรับหลัง
- รักษาสัจจะวาจา ต้องทำให้ได้ตามที่รับปากไว้
- ไม่ทุจริต หรือเอาเปรียบผู้อื่นด้วยกลอุบายต่างๆ
- ไว้วางใจกัน ไม่ระแวงผู้อื่นจนเกิดความเป็นความบาดหมาง
- ฝึกความมีระเบียบวินัยในตนเองให้กลายเป็นนิสัย
ไม่ลบหลู่ดูหมิ่นกัน - ไม่ดูถูกการกระทำ คำพูด หรือความคิดของผู้อื่น
- ไม่แสดงกิริยาหรือวาจาดูถูกศรัทธาความเชื่อ วัฒนธรรม เชื้อชาติ หรือชาติพันธุ์ของผู้อื่น
- เคารพสิทธิมนุษยชน ด้วยการปฎิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม
|
|
งานนำเสนอเรื่อง: "การอยู่ร่วมกันในสังคม"— ใบสำเนางานนำเสนอ:
1 การอยู่ร่วมกันในสังคม
วัตถุประสงค์ -
สามารถวิเคราะห์บุคคลอื่นได้ว่ามีคุณธรรมจริยธรรมใด - สามารถใช้หลักคุณธรรมและจริยธรรมวิเคราะห์ ตัดสิน และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาบางอย่างได้ - สามารถวิเคราะห์ตนเองและผู้อื่นในการทำหน้าที่ตาม ตำแหน่งที่ดำรงอยู่ได้ถูกต้อง
2 การอยู่ร่วมกันในสังคม
เบื้องบน เบื้องหลัง สมณพราหมณ์ เบื้องซ้าย ภรรยา/สามี เพื่อน
มิตรสหาย ตนเอง เบื้องหน้า ครูอาจารย์ ผู้ให้กำเนิด &อุปการะ ลูกน้อง ลูกจ้าง เบื้องขวา เบื้องล่าง
3 หลีกจากอบายมุข 6 (อย่างน้อย)
สัมมาทิฎฐิ ตนเอง ความอดทน เบื้องหน้า
ลักษณะของมิตรแท้ หลีกจากอบายมุข 6 (อย่างน้อย) ผู้ให้กำเนิด &อุปการะ บิดา มารดา บุตร ธิดา ไม่ทำชั่ว ทำดีและสอนให้บุตรทำดี ให้บุตรมีความรู้ เป็นภาระในการหาคู่ครองที่ สมควร - มีทุนให้บุตร เลี้ยงดูบิดามารดา ช่วยทำการงาน ดำรงวงศ์ตระกูล ประพฤติตนเป็นคนดี ทำบุญอุทิศให้บิดามารดา
4 ศิษย์ คนดีและมิตรแท้ ตนเอง สัมมาทิฏฐิ มีความรู้ อดทน ยอมรับและนับถือ
เบื้องขวา ยอมรับและนับถือ คอยช่วยเหลือ เชื่อฟังคำสอน ปรนนิบัติตามควร เรียนด้วยความเคารพ ครูอาจารย์ เป็นต้นแบบที่ดี สอนศิษย์ให้เป็นคนเก่งและดี ยกย่องชมเชยความดีของศิษย์
- ป้องศิษย์จากภัย
5 สงเคราะห์คนข้างเคียงสามี ไม่นอกใจ รักษาทรัพย์ที่สามีหาได้ สามี
ภรรยา เบื้องหลัง ภรรยา/สามี จัดการงานดี ขยัน สงเคราะห์คนข้างเคียงสามี ไม่นอกใจ รักษาทรัพย์ที่สามีหาได้ สามี ยกย่องภรรยา ไม่ดูหมิ่น ไม่นอกใจ มอบอำนาจ
ให้ของแสดงความรักและ ตอบแทนความดี ตนเอง
6 รักษาทรัพย์ของเพื่อน เป็นที่พึ่งมีเพื่อนมีภัย -ไม่ละทิ้งยามวิบัติ
เบื้องซ้าย เพื่อน มิตรสหาย ตนเอง ช่วยเหลือเพื่อน รักษาทรัพย์ของเพื่อน เป็นที่พึ่งมีเพื่อนมีภัย -ไม่ละทิ้งยามวิบัติ -เคารพนับถือพ่อแม่ ญาติเพื่อน มีน้ำใจ ปิยวาจาและจริงใจ
ช่วยเหลือเพื่อน -วางตนสม่ำเสมอ -ไม่หลอกลวง
7
ผู้ใต้บังคับบัญชา/ลูกจ้าง
ตนเอง หัวหน้า/นายจ้าง ผู้ใต้บังคับบัญชา/ลูกจ้าง ให้งานที่เหมาะสม ให้ค่าจ้างที่เหมาะสม - ดูแลยามเจ็บป่วย - ให้รางวัลตามวาระ - ให้หยุดตามโอกาส ลูกน้อง ลูกจ้าง เริ่มงานก่อนนาย - เลิกงานหลังนาย - ไม่ลักขโมย - ทำงานเต็มกำลังอย่างดี - ยกย่องภักดีนาย เบื้องล่าง
8 พระสงฆ์/ผู้สอนศาสนาอื่น
เบื้องบน พระสงฆ์/ผู้สอนศาสนาอื่น สมณพราหมณ์ ศาสนิกชน คิด
พูด ทำต่อท่าน ด้วยจิตเมตตา - ให้การต้อนรับ - ถวายทานเป็นประจำ - ฟังธรรมด้วยความ เคารพ - ห้ามทำความชั่ว - ตั้งอยู่ในความดี ช่วยเหลือด้วยความ เมตตา สอนธรรมะ&อธิบาย ให้ละเอียด - บอกทางสวรรค์ ตนเอง