คนที่ยังไม่เคยสมัครยูทูปเป็นช่องของตนเอง ในปัจจุบันคนเรามีความทันสมัยในการใช้เทคโนโลยี มีการใช้ยูทูปกันมากขึ้น เพียงแค่เข้าไปใช้งานโดยไม่ได้มีการเข้าสู่ระบบ ในการสร้างช่องเป็นของตนเองนั้น สร้างความสะดวกสบายและตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้งานได้มากขึ้น เนื่องจากทางยูทูปจะแนะนำคลิปที่เรากดดูบ่อยๆ หรือมีเนื้อหาที่คล้ายๆ กันให้กับเรา นอกจากนั้นยังสามารถกดติดตามช่องที่เราสนใจ สร้างเพลย์ลิสต์วิดีโอที่ดูเป็นประจำ อัพโหลดคลิปวิดีโอ แสดงความคิดเห็นและกดไลค์วิดีโอที่เราชื่นชอบเพื่อเป็นการสนับสนุนคลิปวิดีโอที่ดีๆ ให้มีกำลังใจในการสร้างต่อๆ ไป
หลายคนมีความใฝ่ฝันอยากเปิดช่อง YouTube ของตัวเองขึ้นมาสักช่อง เพื่อได้แชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจให้กับผู้คนบนแพลตฟอร์ม หรือบางคนก็หวังที่จะเดินทางสายครีเอเตอร์เป็นอาชีพหลักที่สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองในอนาคตได้หากคุณกำลังมีความคิดแบบนี้อยู่ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี วันนี้ RAiNMaker เรารวบรวม 8 วิธีการสร้างรายได้บน YouTube มาฝากกัน! รับรองว่าเป็นลู่ทางให้เหล่าครีเอเตอร์ทุกคนสามารถนำไปใช้พิชิตเงิน 30 ล้านได้แน่นอน จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
รายได้จากโฆษณา นับว่าเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของเหล่าครีเตอร์ ซึ่งสามารถเลือกรับโฆษณาบน YouTube ได้ และสามารถเลือกตำแหน่งการแสดงทั้งต้น กลาง หรือหลังวิดีโอ โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ YouTube Studio เพื่อเข้าไปตั้งค่าโฆษณา โดยวิธีการนี้ครีเอเตอร์จะสามารถรับเงินผ่าน AdSense ได้
ผู้ติดตามสามารถสมัครเป็นสมาชิกของช่อง ผ่านการชำระเงินแบบรายเดือน และรับสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก เช่น ป้าย อีโมจิ และอื่น ๆ โดยการเปิดใช้งาน YouTube Membership ครีเอเตอร์ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- ผู้ติดตามมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป
- อยู่ในโปรแกรมพาร์ตเนอร์ YouTube
- อายุมากกว่า 18 ปี
- ช่องมีแท็บชุมชน (Community)
- ไม่ใช่ช่องสำหรับเด็ก
ชั้นวางสินค้า หรือการจัดระเบียบชั้นวางสินค้า ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์ที่มีสิทธิ์แสดงสินค้าที่มีแบรนด์อย่างเป็นทางการบน YouTube ได้ และหากช่องได้รับสิทธิ์นี้ก็จะแสดงสินค้าเหล่านั้นในหน้าดูวิดีโอได้ด้วย แต่ไม่สามารถแสดงได้ทุกวิดีโอ ซึ่งสามารถแสดงสินค้าได้สูงสุด 30 รายการ และระบบจัดจัดสินค้าตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคา ความนิยม และความพร้อมในการจำหน่านสินค้า ส่วนการแสดงสินค้านอกชั้นวางสินค้า มีดังนี้
- แท็บร้านค้าในหน้าแรกของช่อง
- ปักหมุดสินค้าในไลฟ์สตรีม
- ใช้ลิงก์อธิบายไปยังร้านค้า
- แสดงสินค้าใน End Screen
เป็นฟีเจอร์การสร้างรายได้ให้กับช่องผ่านโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube โดยผู้ติดตามของช่องจะสามารถจ่ายเพื่อทำให้ข้อความในช่องแชตสตรีมของตัวเองโดดเด่นกว่าข้อความปกติได้ และยังตรึงข้อความไว้ด้านบนของฟีดแชตได้ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่สตรีมเมอร์สายเกม และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน YouTube ด้วย
ถึงแม้ว่าผู้ใช้ YouTube Premium จะไม่ต้องพบกับโฆษณาคั่น แต่ YouTube ก็ยังคงคำนึงถึงครีเอเตอร์และหาวิธีสร้างรายได้ให้อยู่ดี โดยครีเอเตอร์สามารถรับค่าบริการส่วนหนึ่งจาก YouTube Premium เมื่อมีผู้ที่สมัครใช้บริการรับชมเนื้อหาของตน ซึ่ง YouTube จะแบ่งให้รายได้อิงตามจำนวนสมาชิกที่ดูเนื้อหา และจะได้รับรายได้ในช่วงต้นด้วยเหมือนกับรายได้ที่ได้รับจากโฆษณา
6. Live Streamการสร้างรายได้จากการไลฟ์สตรีมทำได้โดยการเปิดใช้ฟีเจอร์ Suprer Chat ให้สมาชิกมีสิทธิ์พิเศษเข้าถึงช่องได้ ส่วนการโฆษณาบนไลฟ์สตรีม มีวิธีให้เลือกดังต่อไปนี้
- โฆษณาตอนต้นก่อนไลฟ์สตรีม
- โฆษณาตอนกลางระหว่างไลฟ์สตรีม
- โฆษณาแบบดิสเพลย์และโฆษณาซ้อนทับที่จะขึ้นด้านข้าง หรือวางซ้อนเนื้อหา
คือการที่ YouTube ให้เงินสนับสนุนสำหรับการทำ Shorts กับเหล่าครีเอเตอร์เป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3 พันล้านบาท) โดยไม่ต้องผ่านโปรแกรม YouTube Partner ซึ่งในแต่ละเดือนครีเอเตอร์จะสามารถรับโบนัสได้ตั้งแต่ 100-10,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ขึ้นอยู่กับผลงานหรือคอนเทนต์วิดีโอที่แสดงออกมา เช่น ยอดวิวของ YouTube Shorts ในแต่ละเดือน และที่ตั้งคอมมูนิตี้ของกลุ่มเป้าหมาย แต่ทาง YouTube จะตรวจสอบช่องก่อนแจ้งเตือนเกี่ยวกับ Shorts bonus กลับไปยังครีเตอร์ คือ
- ต้องอัปโหลดเฉพาะ Original Shorts บน YouTube ช่วง 180 วันล่าสุด
- คอนเทนต์ต้องเป็นไปตามนโยบายและข้อกำหนดของ YouTube Shorts
- คอนเทนต์ที่มีลายน้ำของแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ จะไม่ถูกนับ
- คอนเทนต์ที่นำมาอัปโหลดซ้ำ หรือไม่ได้เป็น Original Shorts จะไม่ถูกนับ
- การสร้างรายได้จาก YouTube Shorts Fund ต้องอยู่ในประเทศที่ YouTube ประกาศไว้
- อายุของครีเอเตอร์ต้องถึงขั้นต่ำตามที่กำหนดในบัญชี Google และได้รับอนุญาตถูกกฎหมาย
โดยการรับ YouTube Shorts Fund จะต้องีเชื่อมต่อกับบัญชี AdSense ก่อน และตั้งค่าเพื่อรับเงินได้ในช่วงวันที่ 21 และ 26 ของเดือนถัดไป
8. Branded Content, Sponsored Content, Affiliate Marketingอีกหนึ่งช่องทางที่แม้จะไม่ได้ขึ้นกับทาง YouTube โดยตรง แต่เป็นสิ่งที่ครีเอเตอร์สามารถทำเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับช่อง นั่นก็คือการการทำงานร่วมกับแบรนด์อย่างที่เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับทำ Branded Content, Sponsored Content หรือแม้กระทั่งการทำ Affiliate โดยการรับสินค้าหรือบริการมาทำเป็นคอนเทนต์ เพื่อสร้างยอดขายให้กับแบรนด์นั่นเอง