นายจ้างหรือบริษัทที่มีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) ซึ่งนายจ้างจะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนอย่างเคร่งครัด
นายจ้างหรือบริษัทที่มีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ซึ่งนายจ้างจะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนอย่างเคร่งครัด
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม
รับพนักงานใหม่-พนักงานลาออก บริษัทต้องทำอะไรบ้าง
- 1. แจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างที่สำนักงานประกันสังคมหรือผ่านออนไลน์ภายใน 30 วัน
- 2. แจ้งลาออกจากงานภายใน 15 วันของเดือนถัดไป
ขั้นตอนการขึ้นทะเบียน-แจ้งลาออกพนักงาน ทำอย่างไร
1. เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
2. นายจ้างทำการลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต มีอีเมล์ตอบกลับให้พิมพ์แบบ สปส.1-05
3. ยื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
4. เจ้าหน้าที่จะทำการอนุมัติ USER PASSWORD ให้แก่นายจ้าง โดยจะตอบกลับทางอีเมล์
ทั้งนี้ นายจ้างสามารถดำเนินการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือระบบ e-service ได้เลยเพื่อความสะดวกในการทำงาน
ที่มาข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม
ที่มาภาพ : AFP
- เกาะติดข่าวที่นี่
- Website : www.tnnthailand.com
- Facebook : TNNONLINE
- Facebook Live : TNN LIVE
- Twitter : TNNONLINE
- Line : @TNNONLINE
- Youtube official : TNNONLINE
- Instagram : TNN_ONLINE
- Tiktok : @TNNONLINE
สำนักงานประกันสังคม เตือนนายจ้างแจ้งขึ้นทะเบียนลูกจ้างทุกครั้งที่ลูกจ้างมีการแจ้งเข้าทำงาน ภายใน 30 วัน และแจ้งออกจากงาน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง โดยส่งข้อมูลผ่าน www.sso.go.th เพื่อความสะดวก รวดเร็วแก่นายจ้าง นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการติดตามนายจ้างให้แจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 ว่า สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการกับนายจ้างที่ไม่ได้แจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยกฎหมายได้กำหนดให้นายจ้าง ซึ่งมีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) โดยนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำหรับนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน หรือกรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ทั้งนี้ นายจ้างสามารถทำธุรกรรมงานทะเบียนผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service ได้ที่ www.sso.go.th ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคม ได้มีมาตรการ ดำเนินการกับนายจ้างที่ไม่ได้แจ้งการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนไม่ตรงตามกฎหมายกำหนด โดยออกหนังสือเชิญพบ หากพบนายจ้างมีเจตนายังหลีกเลี่ยง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอความร่วมมือให้นายจ้างปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์สูงสุด
16 พ.ย. 2564 เวลา 3:55 น. 24.9k
ประกันสังคม แจ้งเตือนหน้าที่ "นายจ้าง" ต้องแจ้งเข้า-แจ้งออก-จ่ายเงินสมทบเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน ไม่ปฏิบัติเคร่งครัด มีความผิดตามกฏหมาย
สำนักงานประกันสังคม แจ้งข้อปฏิบัติ "นายจ้าง"จะต้องแจ้งขึ้นทะเบียน และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตน ดังนี้
- นายจ้างที่มีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1️คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส. 1-03) โดยนายจ้างมีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างภายใน 30 วัน นับตั้งแต่มีการจ้างงาน
- กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน นายจ้างก็มีหน้าที่ต้องแจ้งการออกจากงานพร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน โดยใช้หนังสือแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส. 6-09) ภายใน 15 ของเดือนถัดไปจากเดือนที่ลูกจ้างลาออก
- กรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมให้กับลูกจ้าง นายจ้างจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- กรณีนายจ้างจ่ายเงินสมทบประกันสังคมล่าช้า เกินวันที่ 15 ของเดือนถัดไป นับจากเดือนที่จ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง จะต้องจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือน นับจากวันที่ครบกำหนด เช่น ค่าจ้างงวดเดือนมีนาคม นายจ้างจะต้องหักเงินสมทบและนำส่งประกันสังคม ภายในวันที่ 15 เมษายน แต่นายจ้างจ่ายเงินสมทบประกันสังคม ในวันที่ 30 เมษายน ดังนั้น นายจ้างจะต้องจ่ายเงินเพิ่มร้อยละ 2 เป็นเวลา 15 วัน (ครึ่งเดือน)
- กรณีนายจ้างจ่ายเงินสมทบประกันสังคมไม่ครบถ้วน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน ของเงินสมทบที่จ่ายขาด
ทั้งนี้ นายจ้างสามารถแจ้งขึ้นทะเบียน และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือ e-service ตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
- นายจ้างทำการลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต มีอีเมล์ตอบกลับให้พิมพ์แบบ สปส.1-05
- นำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ
- เจ้าหน้าที่จะทำการอนุมัติ USER PASSWORD ให้แก่นายจ้าง โดยจะตอบกลับทางอีเมล์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง