หมายเลข ID หัวข้อ : 00091220 / ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 14/04/2022
พิมพ์หมายเหตุ:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทีวี ได้เชื่อมต่อและเซ็ตอัปไว้กับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไว้แล้ว
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีวีนั้นมีการอัปเดตด้วยซอฟต์แวร์ระบบ (เฟิร์มแวร์) อันล่าสุดแล้ว
ทำตามขึ้นตอนเหล่านี้เพื่อทำการเซ็ตอัปคุณสมบัติ Wi-Fi Direct :
เปิดโหมด Wi-Fi Direct ของ BRAVIA TV
สำหรับรายละเอียดขั้นตอนการตั้งค่า ให้อ้างอิงกับคำถามที่พบบ่อยต่อไปนี้
วิธีการเซ็ตอัปและใช้คุณสมบัติ Wi-Fi Direct ของ Android TV™/Google TV™ กับอุปกรณ์ ที่้ใช้งาน Wi-Fi Direct ได้
วิธีการเซ็ตอัป และใช้คุณสมบัติ Wi-Fi Direct ของทีวีรุ่นต่าง ๆ (สำหรับเครื่องรุ่นปี 2558 และที่ใหม่กว่า ที่ไม่ใช่ Android TV/Google TV)
วิธีการเซ็ตอัปและใช้คุณสมบัติ Wi-Fi Direct ของทีวีรุ่นปี 2556 และ 2557
วิธีการเซ็ตอัปและใช้คุณสมบัติ Wi-Fi Direct ของทีวีรุ่นปี 2554 และ 2555- ทำการเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ iPad
- เปิดหน้าจอทีวีที่แสดง WPA key (password) ขึ้นมา เพื่อจะใช้ป้อนเข้าไปให้กับอุปกรณ์มือถือนั้น
- เลือกที่ Wi-Fi ใน การตั้งค่า (Settings) ของอุปกรณ์มือถือเพื่อทำการเปิด Wi-Fi
- แตะที่ Direct-xx-BRAVIA บนหน้าจอของอุปกรณ์มือถือเพื่อให้แสดงหน้าจอสำหรับป้อนรหัสผ่าน
ป้อนค่า WPA key (password) ที่แสดงในหน้าจอของทีวี จากนั้นให้แตะที่ เข้าร่วม (Join) - รอสองสามนาทีเพื่อให้มีการเชื่อมต่อกันก่อน และหน้าจอ การตั้งค่า (Settings) จะแสดงขึ้นมา
ถ้าหากมีเครื่องหมายถูก แสดงที่ SSID ในด้านของ อุปกรณ์มือถือ และมีเส้นประแสดงในด้านของทีวี แสดงว่าการเชื่อมต่อนั้นทำได้แล้วตามปกติ
หมายเหตุ: ถ้าหากทำการเชื่อมต่อไม่ได้ ให้ลองทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มีการป้อนค่า WPA Password เข้าไปอย่างถูกต้อง
- เปิดหน้าจอทีวีที่แสดง WPA key (password) ขึ้นมา เพื่อจะใช้ป้อนเข้าไปให้กับอุปกรณ์มือถือนั้น
เมื่อการเซ็ตอัปเสร็จสิ้น มีเดียสามารถจะทำการแชร์ได้ระหว่างอุปกรณ์มือถือและทีวี โดยการใช้แอปพลิเคชันเช่น ซอฟต์แวร์ iMediaShare สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงข้อมูลในวิธีการหาแอปพลิเคชัน Wi-Fi Direct เฉพาะในอุปกรณ์มือถือของท่าน ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Apple ที่ //www.apple.com หรือติดต่อกับร้านตัวแทนค้าปลีกอุปกรณ์มือถือของท่าน
* Apple, iPhone และ iPad เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc., ที่จดทะเบียนไว้ใน U.S. และประเทศอื่น ๆ และภูมิภาคต่าง ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบและแก้ไขเมื่อทีวีต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้
วันที่ปรับปรุงล่าสุด : 2022-07-13
ดูหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณบนจอทีวี นั่นหมายความว่าคุณสามารถดูรายการโปรดของคุณขณะที่คุณเดินทางกลับบ้าน แล้วดูต่อบนจอขนาดใหญ่ทันทีที่คุณเดินผ่านประตูบ้านเข้ามา
Screen Mirroring คืออะไร
Screen mirroring เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณส่งหน้าจออุปกรณ์มือถือไปยังจอทีวี และรับชมบนจอทีวีขนาดใหญ่ แอพ SmartThings
และ Smart View ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับสมาร์ททีวี Samsung ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือ HDMI ได้อีกด้วย นอกจากนั้น ตั้งแต่รุ่นปี 2020 เป็นต้นไป คุณยังสามารถทำมิเรอร์โทรศัพท์ของคุณได้ง่ายๆ เพียงแค่แตะบนทีวี เนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น ภาพถ่าย วิดีโอ และแอพบนสมาร์ทโฟนของคุณจะแสดงบนจอขนาดใหญ่และสร้างความประทับใจได้มากยิ่งขึ้น
ในการทำมิเรอร์หน้าจอแบบไร้สาย จะต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi เข้ากับทีวีของคุณ สำหรับทีวีที่ไม่ใช่สมาร์ททีวี
คุณจะต้องใช้อุปกรณ์สำหรับการแคสต์ เช่น Samsung AllShare Cast, Chromecast หรือ Amazon Firestick
หมายเหตุ: ขั้นตอนการแชร์หน้าจอไปยังทีวีจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของทีวีและอุปกรณ์ คำแนะนำต่อไปนี้ใช้สำหรับการแชร์หน้าจอของอุปกรณ์มือถือไปยังทีวี Samsung
การเชื่อมต่อโดยใช้ SmartThings Click to Expand
SmartThings เป็นฮับของ Samsung สำหรับควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม และสามารถดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์ Android และ iOS SmartThings
สามารถตรวจจับและเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติกับทีวีส่วนใหญ่ของ Samsung ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ถ้าทีวีของคุณผลิตก่อนหน้านี้ ให้ลองเชื่อมต่อด้วยแอพ Smart View แทน
ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่อสมาร์ททีวี Samsung และอุปกรณ์ของคุณเข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
ขั้นตอนที่ 2 ดาวน์โหลดแอพ SmartThings ไปยังอุปกรณ์ของคุณ
หมายเหตุ: ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ Samsung คุณอาจมีแอพ SmartThings ติดตั้งไว้แล้ว (ต้องอัพเดต)
ขั้นตอนที่ 3 เปิดแอพ
SmartThings
ขั้นตอนที่ 4 แตะที่ เพิ่มอุปกรณ์
อุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ได้จะถูกแสดง ถ้าคุณไม่พบอุปกรณ์ของคุณ ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เปิดอยู่ ถ้ายังไม่แสดง ให้ลองปิดและเปิดอุปกรณ์อีกครั้ง และรีสตาร์ทแอพ SmartThings
ขั้นตอนที่ 5 เลือกทีวีของคุณ หรือสแกนหาทีวีของคุณที่อยู่บริเวณใกล้
คียง
ขั้นตอนที่ 6 แตะที่ทีวีของคุณและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์
ตอนนี้ทีวีเชื่อมต่อกับ SmartThings แล้ว
และคุณสามารถใช้อุปกรณ์เป็นรีโมทอันที่สองสำหรับทีวี นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ Smart View เพื่อมิเรอร์ภาพถ่าย ภาพยนตร์ และเพลงจากอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 7 แตะที่ทีวีที่คุณเชื่อมต่อ และแตะที่ตัวเลือกเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 8 เลือก หน้าจอมิเรอร์ (Smart View)
หมายเหตุ: ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณอยู่ใกล้กับทีวีเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อได้
การเชื่อมต่อโดยใช้ Smart View Click to Expand
แอพ Samsung Smart View ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเนื้อหาคอนเทนต์ที่เก็บไว้บนมือถือและพีซีโดยแสดงผลบนสมาร์ททีวีของ Samsung
นอกจากนี้คุณยังสามารถควบคุมทีวีโดยใช้อุปกรณ์ของคุณเป็นรีโมทอันที่สองได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่ออุปกรณ์/พีซีและทีวีของคุณเข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
ขั้นตอนที่ 2 เลื่อนแผง Quick Panel บนโทรศัพท์ลงมา และเปิด Smart View
ขั้นตอนที่ 3 คุณจะเห็นอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ได้ แตะที่ทีวีของคุณ
หมายเหตุ: ถ้าคุณไม่เห็นทีวีของคุณ
ให้แตะที่สัญลักษณ์รีเฟรชเพื่อค้นหาอีกครั้ง ถ้าคุณยังคงไม่เห็นทีวีของคุณ ให้ตรวจสอบว่าทีวีเปิดอยู่และเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันกับอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 4 เลือกภาพถ่ายของฉัน วิดีโอของฉัน หรือเพลงของฉัน
ขั้นตอนที่ 5 เลือกเนื้อหาคอนเทนต์ที่คุณต้องการเล่นบนทีวี
ตอนนี้อุปกรณ์และทีวีของคุณเชื่อมต่อแล้ว การเชื่อมต่อนี้จะถูกจดจำและสร้างขึ้นทุกครั้งที่คุณเปิดแอพ Smart View ตอนนี้คุณสามารถควบคุมทีวีผ่านทางแอพ Smart View
และเล่นเนื้อหาคอนเทนต์จากอุปกรณ์ของคุณ
ถ้าภาพมิเรอร์มีขนาดเล็กบนหน้าจอ คุณสามารถเปลี่ยนอัตราส่วนกว้าง-ยาวได้
ขั้นตอนที่ 1 ไปที่ Smart View > แตะที่ตัวเลือกเพิ่มเติม (สามจุดแนวตั้ง)
ขั้นตอนที่ 2 แตะที่การตั้งค่า > อัตราส่วนกว้าง-ยาวของโทรศัพท์
ขั้นตอนที่ 3 เลือกเต็มหน้าจอบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเพื่อให้ภาพแสดงเต็มหน้าจอ
หมายเหตุ: ระบบจะขอให้คุณอนุญาตการเชื่อมต่อหรือป้อนรหัส PIN ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของคุณ
การเชื่อมต่อโดยใช้ Airplay Click to Expand
การดูภาพถ่ายและวิดีโอผ่านทาง AirPlay
ขั้นตอนที่ 1 เปิดแอพภาพถ่าย
ขั้นตอนที่ 2 ค้นหาภาพถ่ายหรือวิดีโอที่คุณต้องการแชร์
ขั้นตอนที่ 3 แตะไอคอนแชร์ที่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอ
ขั้นตอนที่ 4 แตะที่ AirPlay
ขั้นตอนที่ 5 แตะทีวีที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
ขั้นตอนที่ 6 ถ้ามีพร้อมต์ปรากฏขึ้น ให้ป้อนรหัสที่แสดงบนทีวีลงในอุปกรณ์ Apple ของคุณ
การเล่นเสียงผ่านทาง AirPlay
ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรมเล่นเพลงบนอุปกรณ์ Apple ของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 เลือกเพลง
ขั้นตอนที่ 3 แตะไอคอน Airplay
ขั้นตอนที่ 4 แตะทีวีที่คุณต้องการเชื่อมต่อ
ขั้นตอนที่ 5 ถ้ามีพร้อมต์ปรากฏขึ้น ให้ป้อนรหัสที่แสดงบนทีวีของคุณลงในอุปกรณ์ Apple
การค้นหาการตั้งค่า AirPlay
ขั้นตอนที่ 1 ไปที่การตั้งค่า
ขั้นตอนที่ 2 ไปที่ทั่วไป
ขั้นตอนที่ 3 เลือกการตั้งค่า Apple AirPlay
หมายเหตุ: ทีวีและอุปกรณ์ Apple ของคุณจะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
การเชื่อมต่อโดยใช้ Tap View Click to Expand
Tap View เป็นฟีเจอร์ใหม่ในปี 2020 เพียงแค่เอาโทรศัพท์ของคุณแตะเข้ากับทีวี ก็จะมิเรอร์หน้าจอได้ทันที
การตั้งค่าที่จะต้องจัดเตรียมล่วงหน้า
ตรวจสอบว่าฟังก์ชั่น Smart View ของทีวีเปิดอยู่ (การตั้งค่า > ทั่วไป > ตัวจัดการอุปกรณ์ภายนอก > ตัวจัดการการเชื่อมต่ออุปกรณ์ > การแจ้งเตือนการเข้าถึง)
วิธีการตั้งค่า Tap View บนโทรศัพท์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 1 บนโทรศัพท์ของคุณ ให้เปิดโมบายล์แอพ SmartThings และแตะที่ไอคอนเมนู (เส้นแนวนอนสามเส้น)
ขั้นตอนที่ 2 แตะไอคอนการตั้งค่า แล้วไปที่ แตะเพื่อดู, แตะเพื่อเสียง แตะที่สวิตช์เพื่อเปิด
ขั้นตอนที่ 3 นำเอาโทรศัพท์ไปไว้ใกล้กับทีวี แล้วแตะที่ อนุญาต
ในการแจ้งเตือนการตรวจพบโทรศัพท์ เมื่อปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
หมายเหตุ:
- พร้อมใช้งานเฉพาะในทีวีตั้งแต่รุ่น TU7000 ขึ้นไป (รวมถึงทีวี Lifestyle/Outdoor) และ Samsung Galaxy ตั้งแต่ที่เปิดตัว (Android 8.1 ขึ้นไป)
- เพื่อที่จะใช้ Tap View ให้อัพเดตแอพ SmartThings เป็นเวอร์ชั่น 1.745 หรือสูงกว่า สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google play Store หรือ Apple App store
- เมื่อคุณเริ่มทำมิเรอร์ คุณจะต้องยกเลิกโหมดประหยัดพลังงานในโหมดพลังงาน
การเชื่อมต่อด้วยอะแดปเตอร์ HDMI Click to Expand
ถ้าคุณประสบปัญหาในการเชื่อมต่อไร้สาย คุณอาจลองใช้อะแดปเตอร์ HDMI เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับทีวีของคุณ อะแดปเตอร์ HDMI ของแท้จาก Samsung มีจำหน่ายแยกต่างหาก และช่วยให้สามารถรองรับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB-C
ถ้าคุณใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่มีพอร์ต USB-C คุณสามารถค้นหาอะแดปเตอร์ของบริษัทอื่นที่สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ไม่รับประกันเรื่องประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่อสาย HDMI เข้ากับอะแดปเตอร์ HDMI
ขั้นตอนที่ 2 เชื่อมต่อปลายอีกด้านหนึ่งของสาย HDMI เข้ากับพอร์ต HDMI บนทีวีของคุณ
ขั้นตอนที่ 3 เชื่อมต่ออะแดปเตอร์ HDMI เข้ากับพอร์ต USB บนอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 4 เปิดทีวี
และเปลี่ยนอินพุตเป็นพอร์ต HDMI ที่คุณกำลังใช้งาน
การแคสต์หน้าจอ Netflix และ YouTube Click to Expand
บางแอพอย่างเช่น Netflix และ YouTube มีฟังก์ชั่นแคสต์หน้าจอแบบในตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการแชร์สิ่งที่คุณกำลังดูระหว่างจอเล็กและจอใหญ่
ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่ออุปกรณ์และทีวีเข้ากับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
ขั้นตอนที่ 2 ดาวน์โหลดแอพที่เข้ากันได้ไปยังอุปกรณ์และทีวีของคุณ
ขั้นตอนที่ 3 ล็อกอินหรือสร้างบัญชี ลงชื่อเข้าใช้บัญชีเดียวกันบนทั้งทีวีและอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 4 เปิดเนื้อหาคอนเทนต์ที่คุณต้องการดูผ่านทางอุปกรณ์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 5 แตะไอคอน Cast
หมายเหตุ:
ตำแหน่งของไอคอน cast จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแอพที่คุณใช้และการวางแนวของโทรศัพท์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 6 เลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการใช้ดูเนื้อหาคอนเทนต์
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ร้านค้าออนไลน์
เช็คโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy S22Series / Fold3 / Flip 3 และรุ่นอื่นๆ แอดไลน์ เพื่อสนทนากับพนักงานของเราทันที
Samsung Members
ลงทะเบียนผลิตภัณฑ์เพื่อรับความช่วยเหลือ และสิทธิ์ประโยชน์อีกมากมาย
พร้อมดูแลคุณถึงที่ด้วยบริการ Door to Door Service สะดวก ซ่อมไว ได้เครื่องเร็ว
สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์สวมใส่
ดูเพิ่มเติม
- หน้าหลัก หน้าหลัก
- ความช่วยเหลือและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ซัมซุง ความช่วยเหลือและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ซัมซุง
- โทรทัศน์/เครื่องเสียง/วิดีโอ โทรทัศน์/เครื่องเสียง/วิดีโอ