Marshall Emberton นั้นเป็นลำโพง Bluetooth พกพายอดฮิตรุ่นหนึ่งของคนไทยครับ เพราะขนาดเล็กพกพาง่าย กันน้ำได้ ที่สำคัญคือดีไซน์สวยได้เอกลักษณ์ของแบรนด์แอมป์เก่าแก่จากอังกฤษด้วย แต่ความลำบากของการซื้อลำโพง Marshall คือของปลอมเยอะมาก และของปลอมระยะหลังๆ ก็ทำออกมาเหมือนของแท้แบบแยกแทบไม่ออก กองบก. แบไต๋ก็โดนของปลอมมา จึงเขียนบทความเล่าให้ฟังว่าของแท้ดูยังไงบ้างครับ
1. Emberton ของแท้ต้องมีสติกเกอร์ Serial Number ในลำโพง
เอกลักษณ์ของ Marshall Emberton คือตัวลำโพงนั้นจะหุ้มด้วยยางซิลิโคน ซึ่งเราสามารถดึงซิลิโคนทั้งหมดออกให้เห็นตัวเครื่องพลาสติกด้านในได้ครับ ซึ่งข้อมูลจากฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Marshall บอกว่าจะต้องมีสติกเกอร์ Serial Number พร้อมบาร์โค้ดอยู่ด้านใต้เครื่อง หลังจากถอดซิลิโคนออกแบบนี้ครับ
ส่วน Marshall Emberton ที่เราได้มานั้นถึงจะดูเหมือนของจริงมาก แต่ก็มี Serial แค่ที่กล่องครับ แกะซิลิโคนของเครื่องออกก็ไม่เจอสติกเกอร์ทั้งด้านบนและด้านล่างของลำโพง
2. ลำโพงของแท้ไฟชาร์จจะวิ่งจากล่างขึ้นบนเสมอ
ข้อมูลนี้ได้มาจากคุณ Joop Raider สมาชิกกลุ่ม Marshall ครับ ซึ่งแจ้งว่าไฟชาร์จของ Marshall จะมีเอกลักษณ์วิ่งจากล่างขึ้นบนเสมอ แม้ว่าแบตเตอรี่จะเต็มแค่ไหนแล้ว ตามวิดีโอนี้
ซึ่งไฟชาร์จของ Marshall Emberton ที่เราได้มานั้นจะมีลักษณะวิ่งจากจุดที่ชาร์จไฟเรียบร้อยแล้วขึ้นไปด้านบนครับ ซึ่งไม่ได้เริ่มจากด้านล่างสุดเหมือนของแท้
สรุป ถ้าเป็นไปได้ให้ซื้อลำโพง Marshall จากศูนย์ไทย
สรุป ซื้อลำโพง Marshall ให้ปลอดภัยที่สุดก็ควรซื้อเครื่องประกันศูนย์ไทยนะครับ ซึ่งแม้ว่าร้านออนไลน์จะบอกว่าลำโพงที่ขายเป็นศูนย์ไทย เราก็ต้องดูรายละเอียดบนกล่องว่ามีสติกเกอร์โฮโลแกรมของ ASH ตัวแทนจำหน่ายในไทยด้วย ถ้าไม่มีก็มีความเป็นไปได้ทั้งเป็นเครื่องหิ้ว และเครื่องปลอม ซึ่งก็ต้องหาวิธีพิสูจน์กันต่อไปครับ
ช่วงนี้ลำโพง Marshall กำลังขาดตลาด ทำให้กระแสตามหาลำโพง Marshall กำลังมาแรงมาก และนั่นก็ทำให้เกิดช่องว่าง ทำให้ของปลอมพากันมาขายให้เกลื่อน ที่สำคัญราคามันใกล้เคียงกับของแท้เอามาก ๆ ซะด้วย!
หลาย ๆ คนที่ไม่เคยจับของแท้มาก่อน เมื่อได้รับของอาจจะไม่คิดอะไรเพราะเข้าใจว่าซื้อของแท้แน่นอน เพราะของปลอมนั้น ปลอมได้เนียนมาก ๆ ปลอมได้แม้กระทั่งกล่องใส่ ในส่วนของตัวลำโพงเอง ถ้าไม่เอาของแท้มาเทียบ ก็แทบจะแยกไม่ออกด้วยเช่นกัน ยิ่งเสียงเพลงที่ออกมานั้น ถ้าไม่เคยฟังของแท้มาก่อน ก็จะไม่รู้จริง ๆ ว่านี่ของปลอมหรือเปล่า บอกได้เลยว่างานปลอมจัดมาครบเครื่องมาก ๆ ครับ
ส่วนวิธีดูเบื้องต้นง่าย ๆ อันดับแรกให้ดูที่สายไฟ เพราะของปลอมจะใส่ห่อมา และให้ลองดูที่ตรงช่วงขั้วเสียบ จะมียี่ห้อของสายอยู่ ของแท้จะใช้ของ I&O เท่านั้น ส่วนของปลอมจะมีหลายแบรนด์มาก ๆ
ที่สำคัญอีกส่วนของตัวแสดงสถานะการชาร์จไฟ ถ้าเป็นของแท้เมื่อเสียบสายเพื่อชาร์จ จะมีไฟวิ่งจากขีดล่างจนถึงขีดบน และเป็นการวิ่งที่นุ่มนวลมาก ๆ แต่ของปลอมจะเริ่มจากระดับแบตที่เหลืออยู่ แล้วค่อยวิ่งไปจนถึงด้านบนสุด
นอกนั้นให้ดูงานประกอบโดยเฉพาะตรง Logo ที่งานของแท้จะดูเนี๊ยบและเนียนกว่า แต่ในส่วนของ Serial No. นั้น ถ้าเป็นตัวสีดำให้ดูที่เลขตัวท้าย ถ้าลงว่า “62683” นี่ปลอมแน่นอน!
ส่วนสีขาวจะเป็นเลข “35877” ซึ่งพวก Serial นั้นถ้าเอาไปเช็กกับทางเว็บ Marshall ก็จะไม่ขึ้นว่าเป็นสินค้าในระบบอยู่แล้ว แต่ล่าสุดเริ่มมีตัว Serial สวมของแท้ออกมาอาละวาดเช่นกัน ดังนั้นการดู Serial อาจจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
ดังนั้นถ้าจะให้ดีที่สุด ควรเลือกซื้อจากร้านที่วางใจได้อย่างเช่น ProPlugin HIFI เพราะเราขายของแท้ จากตัวแทนนำเข้าในประเทศไทยเท่านั้นครับ
สินค้าอะไรก็ตามที่ฮอตฮิต ขายดี เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อจำนวนมาก มักจะมีพ่อค้าหัวใสทำของปลอมออกมาวางขายตบตาผู้ซื้อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่เสมอ โดยเฉพาะกับลำโพงบลูทูธแบรนด์ Marshall ที่มีของปลอมทำออกมาขายหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Emberton, Killburn II, Stockwell II บ้างก็ก๊อปปี้มาเฉพาะดีไซน์ภายนอกแล้วไปแปะตราโลโก้ใหม่วางขายกันแบบดื้อๆ ไม่สนโลก หนักหน่อยก็ก๊อปปี้ทั้งดีไซน์และโลโก้แบรนด์มาแบบ 100% แถมวางขายในราคาใกล้เคียงกับของแท้อีก ซึ่งอย่างหลังนี้นับวันก็ทำออกมาได้เหมือนของแท้มากๆ จนแยกได้ลำบาก มองผ่านๆ แทบจะแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนของแท้ อันไหนของปลอม
ในเมื่อลําโพง Marshall ปลอมยุคหลังๆ ทำออกมาได้แนบเนียนจนน่าตกใจ หลายคนน่าจะเกิดข้อสงสัย เอ๊ะ! ที่เราซื้อมาตั้งหลายพันนี่ของปลอมหรือเปล่าน้า? ไม่ต้องกังวลไปครับ ยังพอมีวิธีดูอยู่ว่าของแท้กับของปลอมต่างกันยังไง ซึ่ง Mercular.com ก็ได้รวบรวมวิธีสังเกตมาให้เรียบร้อยแล้วในบทความนี้ รับรองว่าเอาไปใช้ได้จริง ดูตามนี้ไม่โดนหลอกแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันครับว่ามีวิธีดูลําโพง Marshall ปลอมอย่างไรบ้าง