แพ้ ลน เที่ยวเกาหลี 10 วัน

ปกติปลายเดือนตุลาคม ต้นเดือนพฤศจิกายน แฟนๆ เกาหลีอย่างเราต้องบินไปเที่ยวกันแล้ว แต่เจ้า Covid เลยทำเอาอดเที่ยว ด้วยความคิดถึง Korea i miss you ขอรวมฮิตที่เที่ยวและจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วโซล ที่มือใหม่ก็นั่งรถไฟใต้ดินเที่ยวตามได้ไม่ต้องกลัวหลง ปักหมุด 10 ที่เที่ยวโซลช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ห้ามพลาด และ 5 ร้านหรอยที่ควรตามไปกิน ทั้งร้านดัง ร้านลับ ใครที่มีแพลนเที่ยวแล้วชอบที่ตรงไหน จับใส่เพิ่มในแพลนได้ตามสบาย

แวะ Paradise City ตึกสีทองเข้า Theme ใบไม้เปลี่ยนสีก่อนเข้าเมือง ห่างสนามบินอินชอน 10 นาที มี Shuttle Bus รับส่งฟรี

อินชอนไม่ได้มีแค่สนามบิน!! แลนด์มาร์คที่โคตรคูล Paradise City ถ่าย IG ได้เป็นร้อยรูปห่างสนามบินแค่ 10 นาที เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย แถมมี Shuttle Bus รับ-ส่งฟรีด้วยจ้า!! คือสายถ่ายรูปต้องมานะแกรรร!! 📸✨

โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่นี่ฮิปสุด ตึก The Imprint ผลงานโดย MVRDV ที่ดูแล้วเหมือนตึกถูกดึงขึ้นให้ย่นๆ กลายเป็นทางลอดระหว่างตึก ด้านนึงสีขาวมินิมอลอีกด้านสีทองมันสวยมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายจุดที่มีงานอาร์ตใช้เวลาไม่มากก็ตามเก็บได้ จะแวะเดินทางก่อนเข้าโซลหรือก่อนบินกลับไทยได้สบายๆ

Paradise City
การเดินทาง : จากสนามบินอินชอน ให้มาขึ้นตรงท่ารถ 3B รถจะมาทุกๆ 15–20 นาที ขึ้นลงที่เดียวกันหมด ให้ขึ้นรถ Shuttle Bus ของ Paradise City เท่านั้น
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 05.40–23.40 น.

홍스쭈꾸미 (Hong’s Jjukumi) ฮงจุกึมิร้านปลาหมึกผัดเผ็ดชื่อดังแห่งย่านฮงแด ขวัญใจคนไทยไปกี่รอบก็ต้องไปกิน

ร้าน 홍스쭈꾸미 (Hong’s Jjukumi) ร้านปลาหมึกผัดเผ็ดชื่อดังย่านฮงแดที่ใครมาเที่ยวโซลไม่ไปกินถือว่าพลาด ทีเด็ดคือทางร้านใช้ลูกปลาหมึกยักษ์มาหมักกับซอสเผ็ด gochugaru รสชาติจะเผ็ดๆ หวานๆ ชุดเริ่มต้นอยู่ที่คนละ 13,000 วอน หรือ 300 ร้อยกว่าบาทใครชอบมิกซ์แอนด์แมทซ์ก็สามารถเลือกแบบมีหมูสามชั้น กุ้ง หรือเนื้อด้วยได้เพิ่มเงินนิดหน่อย โดยเค้าจะกินคู่กับใบงาและถั่วงอกแก้เผ็ด ส่วนของป้าสั่งชุดปลาหมึก +เนื้อก็คนละ 15,000 วอน มีน้ำเปล่าและเครื่องเคียงฟรี

วิธีกินแบบโคเรียนสไตล์ เค้าก็จะเอาใบงาวางเสร็จแล้วตักปลาหมึกและเครื่องเคียงใส่และห่อกินคล้ายๆกินเมี่ยงคำบ้านเราเลย ตัวปลาหมึกจะกรุบกรอบเด้งสู้ฟันม้ากก ส่วนตัวซอสก็เผ็ดร้อนกำลังดี พอกินคู่ใบงามันจะมาเบรคกันลงตัวพอดีเป๊ะ ส่วนทีเด็ดที่อร่อยโพด..พอกินได้สักพักสามารถเรียกให้เค้ามาทำข้าวผัดไข่กุ้งตู้มๆได้ เค้าจะเอาข้าวลงไปผัดกับซอสที่เหลือใส่สาหร่าย และไข่กุ้งผัดจนแห้งหน่อยๆ อร่อยม้ากก

홍스쭈꾸미 (Hong’s Jjukumi)
การเดินทาง : เดินออกมาทางสถานี Hongik Univ. ทางออก 8 เดินออกมาเลี้ยวขวาไปในซอยข้างๆ จะเจอ coffe planet ซ้ายมือ เสร็จแล้วเดินขึ้นไปร้านจะอยู่ฝั่งขวามือ หน้าร้านแดงๆ จ้ะ
เวลาเปิดปิด : ร้านเปิดทุกวัน 11:00~03:00 น. / วันอาทิตย์ 11:30~01:00

Kyung Hee University มหาลัยเอกชนชื่อดังของเกาหลีที่เค้าบอกว่าเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี

เที่ยวเกาหลีแต่นึกว่าอยู่ยุโรป!! Kyung Hee University มหาลัยเอกชนชื่อดังของเกาหลีที่เค้าบอกว่าเป็นมหาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี ตัวตึกนี่อลังการแนวโกธิค และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสวยในการชมซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี แถมคนดังๆ ก็เคยมาเรียนที่นี่เพียบ เช่น คุณลุงกงยู / คยูฮยอน Super Junior / ชางมิน TVXQ / จียง Big Bang ฯลฯ ก็จบจากที่นี่ทั้งนั้น

การเดินทางมา Kyung Hee University ก็ไม่ยากมาก แม้ว่าจะแอบอยู่ไกลนิดนึง แต่เชื่อป้าเถอะ ความสวยงามมันรอเราอยู่ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Hoegi เดินมาลง Exit 1 ลงมาจากสถานีรถไฟก็นั่งรถ shuttle bus เขียวๆ เลย ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาทีก็จะมาจอดที่ตรงมหาลัยค่ะ ใช้ T-Money แตะจ่ายบนรถได้เลยนะ

อาคาร Grand Peace Hall เป็นอาหารที่เป็นเหมือน Hall ที่จุคนได้ 4000+ คน เอาไว้จัดโชว์การแสดงต่างๆ ซึ่งจะบอกว่าหน้าตาเหมือนโบสท์ Notre Dame de Paris ที่ฝรั่งเศสมาก ตึกนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเลยถ้ามา ถ่ายไปหลอกเพื่อนว่าอยู่ยุโรปก็เชื่อนะแบบนี้ 555

ตึก University Administration Building ตัวตึกสวยงาม มีเสาโรมันอลังการมาก นี่ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนหลอกว่าอยู่ยุโรปนางก็เชื่อนะเนี่ย เท่าที่ดูตึกของ Kyung Hee University จะเน้นความยิ่งใหญ่ อลังการ สมกับเป็นมหาลัยเอกชน

ระหว่างทางเดินก็เจอมุมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ แสงส่องลงมากระทบกับใบเมเปิ้ลพอดี แม้ว่าจะเข้าช่วงท้ายๆ ของใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่ Kyung Hee University ก็ยังมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเยอะอยู่นะ

ส่วนเขยิบไปอีกนิด Central Library ตรงนี้ก็จะเป็นดงต้นไม้เปลี่ยนสีเลย ส่วนมากเป็นต้นเมเปิ้ลมีทั้ง สีเหลือง สีแดง สีส้มสลับกันไป แถมต้นไม่ได้สูงมาก ใครเที่ยวเกาหลีแล้วชอบถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ต้องไปไกลมาที่นี่เอาอยู่ค่ะ

Kyung Hee University
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Hoegi เดินมาลง Exit 1 ลงมาจากสถานีรถไฟก็นั่งรถ shuttle bus เขียวๆ เลย ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 10 นาที

Nuguna School Uniform เปลี่ยนลุคเป็นสาวไฮสคูลเกาหลี เช่าเหมาวันใส่ไปข้างนอกได้

ไปเที่ยวเกาหลีแต่เบื่อใส่ชุดฮันบกแล้ว อยากหาชุดคอสเพลย์ใหม่ๆ ใส่บ้าง ป้าแนะนำให้ลองไปเปลี่ยนบรรยากาศเช่าชุดนักเรียนเกาหลีก็ดีนะ เค้าจะเนรมิตให้ย้อนวัยใสกลับไปเด็กมัธยมเกาหลีแบบในซีรี่ย์อีกครั้งที่ร้าน NUGUNA SCHOOL UNIFORM นั้นจะอยู่ชั้น 5 ของตึก The Cocolour

แท่มแถ้มมม..นี่คือห้องแห่งอาณาจักรชุดนักเรียนของ Nuguna School ตู้ทางฝั่งด้านซ้ายก็จะเป็นชุดพรีเมียมแนวเดียวกับรายการเรียลลิตี้โชว์ Produce 101 เป็นแบบ K-POP Style ส่วนด้านขวาจะเป็นยูนิฟอร์มชุดนักเรียนปกติของเกาหลีทั่วไป

เรื่องของชุด ไม่ว่าจะเป็นแบบเบสิคหรือพรีเมียมแนว K-POP ก็มีให้เลือก 2 แบบ
ส่วนในเรื่องไซส์นั้นมีแบ่งเป็น S / M / L

1. เสื้อแขนยาว + เชิ้ต + เสื้อกั๊ก + เนคไท + กระโปรง + กระเป๋าเป้สะพายหลัง
2. เสื้อแขนสั้น + เสื้อถัก + เนคไท + กระโปรง + กระเป๋าเป้สะพายหลัง

ส่วนค่าบริการก็ 90 นาที ชุดธรรมดา 15,000 วอน ชุดพรีเมียม 20,000 วอน / 150 นาที ชุดธรรมดา 20,000 วอน ชุดพรีเมียม 25,000 วอน / เช่า 1 วัน คืนไม่เกิน 19.00 น. ชุดธรรมดา 25,000 วอน ชุดพรีเมียม 30,000 วอน ของป้าไหนๆ มาแล้วทั้งทีเอาชุดพรีเมียมไปเล้ยยย

เขยิบถัดมาด้านในก็จะเจอกับสตูดิโอที่โคตรคิ้วท์ จำลองห้องเรียน มีโต๊ะนักเรียน กระดานดำ ล็อคเกอร์เก๋ๆ แล้วก็มีพวกขาตั้งเซลฟี่ให้ยืมถ่ายรูปฟรีในห้องด้วย ส่วน Locker สีม่วงเป็นที่ใส่ของส่วนตัวของเรา เอาพวกเสื้อผ้า กระเป๋าใส่ฝากของไว้ได้ โดยใครที่พกช่างภาพส่วนตัวไปที่ใช้กล้อง DSLR ถ่ายกับสถานที่ด้านบนเค้าเก็บเพิ่มอีก 5,000 วอนนะจ้ะ

ถ่ายคนเดียวอาจจะไม่สนุก แนะนำลองไปคุยแนะนำตัวดูขอถ่ายกับเพื่อนๆ ก็สนุกไปอีกแบบจ้ะ อย่างคนซ้ายเป็นเกาหลี ส่วนคนขวาเป็นญี่ปุ่น ถ่ายหลายๆ คนก็ดูมีสีสันดี

ในช่วงพีคๆ มันก็จะดูเหมือนห้องเรียนจิงหน่อยๆ 555 มีทั้งสาวเกาหลี สาวญี่ปุ่น มารวมตัวกันถ่ายรูปเล่นในห้องนี้ ที่เห็นแท่งๆ ด้านหลังอันนั้นก็จะเป็นไม้เซลฟี่ เผื่อเอาไว้สำหรับสาวๆ คนไหนที่มาคนเดียว อยากถ่ายแบบส่วนตัวก็ไปหยิบไม้มาตั้งเซลฟี่

NUGUNA SCHOOL UNIFORM
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 น.- 20:00 น.

Ewha Womans University ตะลุยตลาด Edae แหล่งช้อปปิ้งสุดคุ้ม มหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก

Ewha Womans University เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก มาเที่วเกาหลีแล้วห้ามพลาดมาถ่ายกับตึกนี้ Welch -Ryang Auditorium ที่นี่ก็จะเอาไว้แสดงโชว์พวกงานดนตรี งานคอนเสิร์ตบ้าง ตัวตึกมันสวยตรงเป็นตึกแบบโกธิคมีใบไม้เปลี่ยนสีเลื้อยเต็มตึกเลย สวยมาก ขนาดนักศึกษาของที่นี่ป้าเห็นเค้าก็ยังมาถ่ายกันเลยนะ

ส่วนตึกนี้เรียกว่า Ewha Campus Complex (ECC) ดีไซน์เป็นตึกที่เหมือนเจาะลงมาใต้ดิน มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยตั้งแต่ชั้น B1-B3 จะเป็นชั้นที่เป็นห้องเรียนและสำนักงานต่างๆ ของมหาลัย ใครจะเดินดุ่มๆ เข้าไปไม่ได้นะจ้ะ อย่างตอนแรกอีคุณฝาชีนางจะเข้าไปถ่าย ปรากฏว่าห้ามจ้า เค้าอนุญาติให้เฉพาะนักศึกษาหรือบุคลากรที่มีบัตรเข้าได้เท่านั้น

ใครมาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยสุดหลังไม่แพ้ที่อื่นอยู่น้า

และแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วนั่งปล่อยชิวจนพระอาทิตย์ลาลับ ออกจากโซนมหาลัยก็นังมีโซนช้อปปิ้งอีแดที่รอเราไปช้อปอยู่ด้วยนะจ้ะ สาวๆ ต้องกรี๊ดแน่ ของขายถูกๆ เยอะ เสื้อผ้าผู้หญิงสวยๆ นี่ถูกมาก

Ewha Womans University
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Ewha Womans University Station ออก Exit 2 หรือ 3 เดินตรงไปจากสถานีเพียงแค่ 5 นาที

อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทงแดมุน (Dongdaemun History & Culture Park)

ปิดท้ายวันด้วย อุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทงแดมุน (Dongdaemun History & Culture Park) อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวเกาหลีที่ถ่ายรูปสวยและใกล้สถานีรถไฟใต้ดินก็คืออุทยานประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทงแดมุน เพื่อนๆ สามารถแวะมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปสวยๆ บริเวณด้านนอกได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของอวกาศ เพราะตัวอาคารนั้นสวยงามล้ำโลกไปจริงๆภายในอาคารมีทั้งห้องประชุม พื้นที่สำหรับจัด Work Shop คอนเสิร์ต พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมเกาหลี ฯลฯ

กลางคืนสวยมาก เพื่อนๆ สามารถเดินทางมาได้ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2, 4 หรือ 5 แล้วลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park Station และใช้ทางออก 1 ได้ค่ะ

Dongdaemun History & Culture Park
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่ สถานี Dongdaemun History & Culture park ออก Exit 1
เวลาทำการ : บริเวณด้านนอกเปิด 24 ชม. บริเวณด้านในเปิดวันอังคาร — วันอาทิตย์ 10.00–19.00 น.(วันพุธและวันศุกร์เปิด 10.00–21.00 น.)

Sunmine Hengbok Gejang บุฟเฟ่ต์ปูดองเกาหลีแถว ทงแดมุน มีกุ้งดอง กุ้งอบเกลือ ปูทอด ปูเผ็ด ไข่ตุ๋น และฟรี!! มักกอลลี ไวน์ข้าวไม่อั้น คนละ 768 บาท

เดินเที่ยวโซลจนเหนื่อย ก็ได้เวลามาเติมพลังกันบ้าง รอบนี้มาลองพิกัดร้านปูดองใหม่ย่าน ทงแดมุน ป้าจองผ่าน KKDay มา ชื่อร้าน Sunmine Hengbok Gejangไม่ได้มีดีแค่ปูดองแต่มีมักกอลลีหรือไวน์ข้าวเกาหลีไม่อั้นด้วยแกร!! เดินทางไม่ยากอยู่แถวสถานี Dongdaemun History & Culture Park ทางออก 14 เดินอีก 5 นาทีถึง ร้านน่าจะอยู่ประมาณชั้น 3 วิธีใช้ก็โชว์ Barcode ให้เจ้าของร้านแค่นี้

ตัวแพคเกจที่ป้ากิน เป็นบุฟเฟ่ต์ปูดองเกาหลี กุ้งดอง กุ้งอบเกลือ ปูทอด ปูเผ็ด ไข่ตุ๋น พร้อมเครื่องเคียงเพียบ แต่ทีเด็ดคือมีมักกอลลีหรือไวน์ข้าวเกาหลีไม่อั้นด้วยแกร!! และมีข้าว 1 ถ้วย น้ำอัดลมให้ 1 กระป๋อง คนละ 768 บาทเอง แต่ถ้าใครคิดว่าจะมาซัดแค่ปูดอง+ปูเผ็ดเท่านั้น ให้เลือกแพค 521 บาทพอ

ปูดองคือดีม้ากกก เนื้อเยอะ ไม่คาว ร้านนี้จะหั่นเป็นส่วนๆ มาให้เราเลย จะตักเนื้อปูกับข้าวห่อใส่สาหร่ายก็ดี หรือจะกินเปล่าๆ ดูเนื้อสิแกร เนื้อปูตู้มๆ มาก เอาข้าวคลุกกระดองก็อร่อยยย ซัดกันไปเกือบ 10 ตัวจ้า ส่วนกุ้งก็เนื้อหวานเด้งดีไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ที่เพิ่มมาพวกของอื่นๆ ก็เยอะ มีทั้งปูชุบแป้งทอด ปูเผ็ด กุ้งอบเกลืออันนี้ดี เนื้อกุ้งหวานเลย ไข่ตุ๋นก็มี อันนี้สั่งได้ไม่อั้น นอกจากนั้นเค้ายังมีเครื่องเคียงที่ปรุงสำเร็จอีกหลายอย่างเลย ขนมปังทาแยมก็ยังมี 555 สงสัยเอาไว้แก้เผ็ด

แต่ทีเด็ดคงเป็นอันนี้!! ตอนแรกเดินไปดูเอ..น้ำอะไรหว่า เกาหลีเค้ากินน้ำเต้าหู้ด้วยเหรอ พอตักขึ้นมาเท่านั้นแหละ มันคือ…มักกอลลีหรือไวน์ข้าวเกาหลีจ้า ตักกินได้ไม่อั้นเล้ยยย เย็นเจี๊ยบ ดูจากรีแอคจากรูปก็จะรู้ว่าฟีลกู้ดดดสุดๆ กินแล้วก็จะแก้มเลือดฝาดนิดๆ เป็นการเที่ยวโซลที่จะอารมณ์ดีหน่อยๆ เอ้า…คอนแบ!!

Sunmine Hengbok Gejang
การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park ออกทางออก 14 เดินอีก 5 นาทีถึง
เวลาเปิดปิด : จันทร์-ศุกร์: 10:30–23:00 น. (Last order : 21:30 น.)
เสาร์-อาทิตย์: 10:30–22:30 น. ( Last Order : 21:00 น.)

Seoul Forest Park สวนป่าใจกลางกรุงโซล ไฮไลท์อยู่ที่ดงต้นแปะก๊วยที่สวยเหมือนพรมสีเหลือง

หนึ่งในสวนสาธารณะที่สวยสุดของโซลช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้องยกให้ Seoul Forest Park ด้วยความใหญ่อลังการเป็นอันดับสามของเกาหลี เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย เวลาพีคที่นี่จะช่วงซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสีก็ได้ภาพสวยแน่นอน เพราะมีต้นไม้พร้อมใจมากกว่า 400,000 ต้น สวยตาแตกมากๆ

นอกจากนั้นก็ยังเดินทางง่าย นั่งรถไฟใต้ดินถึง เดินไม่เยอะมาก ถ้าใครชอบความเหลืองของดงต้นแปะก๊วย มาที่นี่ไม่มีผิดหวังได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน ปีที่ป้าไป แม่ตอนนั้นใบจะเริ่มร่วงไปแล้ว แต่ได้ความสวยงามอีกแบบคือ พื้นนี่เหมือนปูด้วยพรมสีเหลืองเลยแม่ ใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อย่าลืมเอาที่นี่ลงแพลนด้วย

ป.ล. อะไรๆ ก็สวย เสียอย่างเดียว กลิ่นลูกแปะก๊วยนี่ทำเสียมู้ดโรแมนติกไปบ้าง 55

Seoul Forest Park (서울숲)
การเดินทาง : นั่ง Subway สายสีเหลืองมาลงที่สถานี Seoul Forest ออกทางออกที่ 3 ได้เลยเดินเข้ามาลึกๆ หน่อย จะเจอดงต้นแปะก๊วยเยอะๆ

เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วภูเขาที่สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Park) และขึ้นไปคล้องกุญแจที่หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คเมืองโซล ไม่ว่ามือใหม่หรือสาย Advance ก็ชอบไปกัน นอกจากจะไปชมวิวสวยๆ มุมสูงของกรุงโซลกันที่ หอคอยเอ็นโซล แล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ สวนสาธารณะนัมซาน (Namsan Park) ที่นี่ก็พีคไม่แพ้กันเพราะต้นไม้ทั้งภูเขานี่ไล่เปลี่ยนสีแดง-เหลืองกันสวยม้าก ถ้าใครมีแฟนอย่าลืมแวะมาคล้องกุญแจรักกันนะเพราะมีความเชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่จะรักกันไปตลอดกาล แต่ถ้าใครไม่มีแฟนแค่ขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของกรุงโซลแบบ 360 องศาก็ฟินแล้ว

N Seoul Tower
เวลาเปิดปิด : N Seoul Tower และ เคเบิ้ลคาร์ 10:00–23:00 น.
ค่าเข้าชม N Seoul Tower : ผู้ใหญ่ 9,000 วอน / นักเรียนและเด็ก 7,000 วอน

การเดินทางรถเมล์ : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานี Myeongdong Station และใช้ทางออกที่ 3 แล้วขั้นรถบัสเบอร์ 5 (Namsan Circular Shuttle Bus №05) ที่สถานีเมียงดง ประตู 3 ได้เลย

การเดินทางโดย Cable Car : จากสถานี Myeong-dong Station วออกที่ทางออก 2 หรือ 3 จากนั้นให้เดินไปต่อด้วยกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) ที่ Palgakjeong เดินประมาณ 10 นาที

ค่ากระเช้าไป-กลับ ผู้ใหญ่ 8,000 วอน / เด็ก 5,000 วอน

강남 돼지상회 (คังนัม ทเวจีซังฮเว) บุฟเฟ่ต์หมูย่างที่คุ้มและอร่อยที่สุดในฮงแด

บุฟเฟ่ต์หมูย่างไก่ทอดยืนหนึ่งฮงแด ขอยกให้เป็นหนึ่งร้านเด็ดประจำทริปเน้ 강남 돼지상회 (คังนัม ทเวจีซังฮเว) กินจุกๆ เริ่มต้นแค่ 12,900 วอนเด้อ หมูนี่มาเต็ม มีทั้งหมูสามชั้น, คอหมู, สันคอหมู, คางหมู แถมซุปเต้าเจี้ยว หนังหมู 🐷 เครื่องเคียงไม่อั้น! ซัดกันได้ 2 ชั่วโมงเต็ม ส่วนใครจ่ายเพิ่มอีก 2,000 วอน ได้ไก่ทอดเพิ่มด้วยแม่ เห้ยย ไก่ทอดเจ้านี้ไม่ไก่กานะ ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว ชอบไม่ชอบป้ามาเบิ้ล 2 รอบเลยจ้า

ร้านนี้เค้ามีทั้งหมด 3 แพคเกจ เลือกได้ตามใจชอบ
✅ แพค A : บุฟเฟ่ต์หมูอย่างเดียว 12,900 วอน/คน
✅ แพค B : บุฟเฟ่ต์หมู + ไก่ทอดไม่อั้น 14,900 วอน/คน
✅ แพค F : บุฟเฟ่ต์หมู + ไก่ทอดไม่อั้น +ข้าว+บะหมี่เย็น+ น้ำอัดลม กินได้หมดไม่อั้น 16,900 วอน

강남 돼지상회 (คังนัม ทเวจีซังฮเว)
การเดินทาง : ออกสถานี Hongik Univ. ทางออก 9 เดินตรงมาข้ามถนนมาฝั่งร้าน SPAO เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนเห็นร้าน Tous Les Jours เลี้ยวซ้าย เดินตรงจนเห็นร้าน Emart แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปจะเห็นร้านอยู่ตรงซ้ายมือ หน้าร้านป้าย เป็นรูปหมู 2 ตัว
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 11:30–24:00 น.

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

พระราชวังเคียงบกกุง แลนด์มาร์กสำคัญที่เที่ยวโซลของเกาหลีที่เดินทางมาได้ง่ายมาก ด้วยรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี Gyeongbokgung Palace Station และใช้ทางออกที่ 5 พระราชวังเคียงบกกุงสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 ในอดีตภายในพระราชวังมีอาคารและตำหนักต่างๆ มากกว่า 200 หลัง แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น

แนะนำไหนๆ มาแล้ว ควรเช่าฮันบกมาใส่ถ่ายรูปกัน ข้อดีคือใส่ฮันบกไม่เสียค่าเข้านะจ้ะ ไปชมความงามของพระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon) ศาลาเคียงฮวยรู (Hyangwonjeong) พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อซึมซับความเป็นเกาหลีที่แท้ทรูได้

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
เวลาทำการ :
มกราคม-กุมภาพันธ์09:00–17:00 น. / มีนาคม — พฤษภาคม 09:00–18:00 น. / มิถุนายน — สิงหาคม 09:00–18:30 น. / กันยายน — ตุลาคม 09:00–18:00 น. / พฤศจิกายน — ธันวาคม 09:00–17:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)

ค่าเข้า :ผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป) 3,000 วอน/เด็ก (7–18 ปี)1,500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าฟรี

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 3 ลงที่สถานี Gyeongbokgung Palace Station ทางออก 5 จากนั้นเดินตรงไปอีก 100 เมตร

ไก่ทอดเกาหลี MUBANNA CHONDAK (무봤나 촌닭) อีกหนึ่งร้านอร่อยที่ราคาไม่แรง แถมเครื่องเคียงไม่อั้น

มาที่นี่ก็อยากมากินอะไรแปลกๆ บ้างนอกจาก บอนชอน เคียวชอนบ้านเรา สรุปเลยมาได้ลอง ไก่ทอดอีกหนึ่ง Chain ร้านดังในเกาหลี MUBANNA CHONDAK (무봤나 촌닭) เปิดขายกันมาตั้งแต่ปี 1999 มีสาขาทั้งที่โซลและปูซาน

อย่างจานนี้เป็นไก่ทอดแบบ Mix เป็นไก่ทอดธรรมดา + ไก่ซอสเผ็ด ตัวไก่ที่นี่เค้าจะทอดมากรอบๆ เลยนะ ก็อร่อยไปอีกแบบ ส่วนเครื่องเคียงไชเท้าดอง และกะหล่ำปลีราดน้ำสลัด ตักได้เองไม่อั้นจ้า จานนี้แค่ 10,000 วอน หรือ 300 บาท!! เท่านั้น บ้านเราได้ไก่ไม่กี่ชิ้นเองนี่ได้มาเพี้ยบบบ แอบเห็นในทีวีในร้าน เห็นมีซีรี่ย์มาถ่ายที่ร้านนี้ด้วยนะ ไม่ธรรมดาๆ

ส่วนจานนี้เด็ดมากกกก ไก่ทอดราดชีสกะทะร้อน!! รสชาติออกเผ็ดๆ หน่อยแต่ชีสเจ้มจ้นสุดๆ มีกุ้งตัวเล็กๆ มีต๊อกอยู่ในซอสนั้นด้วย ดี๊ดี ดึงทียืดๆ แนะนำเลยจ้า ส่วนจานนี้ราคา 20,000 วอน หรือ 600 บาท กินกัน 4 คนสบายๆ นะ ใครคอกินไก่ทอดเกาหลีแกล้มเบียร์แนะนำให้มาลอง ไม่แพงเลย ป้าชอบตรงเครื่องเคียงตกได้ไม่อั้น ยังไงอิ่มแน่นอนจ้า

ไก่ทอดเกาหลี MUBANNA CHONDAK (무봤나 촌닭)
การเดินทาง : จิงๆ มีหลายสาขานะ นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Sinchon ทางออก 1 หรือ 4 แล้วเดินตรงเข้ามา เดินข้ามถนนเข้าซอยร้าน Nature Republic เดินตรงไปเรื่อยๆ ร้านอยู่ติด 7–11 ตรงข้ามเป็น Baskin Robbin ป้ายหน้าร้านสีแดงๆ มีรูปไก่ติดอยู่

ไปเดินเล่นที่พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace) และถนนจองดองกิล ขึ้นไปถ่ายรูปมุมสูงแบบไม่ต้องใช้โดรนที่ หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory)

อีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในโซลที่สวยอลังและไปง่ายสุด!! คือ พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)ใบไม้เปลี่ยนสีคือสวยตาแตกมาก ข้างๆมีถนนจองดองกิล ที่คนเกาหลีบอกว่าโรแมนติกสุดๆ ตัวถนนจะโค้งเลียบกำแพงวัง น่าชวนอปป้ามาเดินจับมือที่สุด

ใครอยากถ่ายภาพมุมสูง แต่ไม่มีโดรนก็ทำได้ ที่หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory) จะอยู่ชั้น 13 ที่อาคารศาลากลางกรุงโซล (Seoul City Hall Seosomun building) มุมถ่ายจะอยู่ตรงร้านกาแฟ จะมีมุมกระจกให้ถ่ายมุมสูงของวังได้จ้า จะถ่ายมุมเผลอหรือซูมถ่ายวังก็เริ่ด ไหนๆ เข้าฟรีก็อย่าลืมอุดหนุนกาแฟเค้าด้วยน้า

พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1, 2 ลงที่สถานี City Hall Station ใช้ทางออกที่ 1

หอชมวิวจองดง (Jeongdong Observatory)
เวลาเปิดปิด : 09:00–18:00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1, 2 ลงที่ City Hall Station ใช้ทางออกที่ 1

จุดชมวิว : ตึกนี้อยู่ข้างๆถนนเลียบวัง อยู่บนชั้น 13 ของอาคาร the Seoul City Hall Seosomun Building

สวนฮานึล (Haneul Park) ทุ่งดอกหญ้าสีทองที่โคตรชิคฮิปสเตอร์ เห็นมุมของเมืองโซลแบบ 360 องศา

เดินงงในดงดอกหญ้า!! หนึ่งในสวนดงดอกหญ้าที่สวยที่สุดนั่นคือ สวนฮานึล ซึ่งตั้งอยู่ใน World Cup Park โดยสวนฮานึลจะตั้งอยู่ด้านบนเนินเขา จะนั่งรถของสวนขึ้นไปหรือใครจะบริหารขาก็เดินขึ้นไปก็ตามแต่สะดวก

แต่แนะนำให้ขึ้นรถไปดีกว่า ส่วนวิธีขึ้นเขาใครแข็งแรง อยากเดินจับมือพิสูจน์รักก็เดินขึ้นบันไดโลด เพื่อนป้าบอกประมาณเกือบ 300 ขั้น แต่ถ้าใครเน้นสั้น กระชับ ประหยัดแรง ก็เดินไปซื้อตั๋วรถกอล์ฟ ไป-กลับ คนละ 3000 วอน ตกไม่ถึง 100 บาทสบายๆ

พื้นที่คือใหญ่มาก ตอนแรกยังคิด มาเดินถ่ายรูปกับดอกหญ้าเนี่ยนะ บ้านเราก็มี แต่ไม่ใช่จ้า ข้างบนคือต้นดอกหญ้าสูงเท่าเรา คนเกาหลีจะชอบมาถ่ายรูปมันจะละมุนๆ นอกจากนั้นยังมีหลายโซนสามารถเดินเล่นถ่ายรูปกับดอกหญ้าสวยๆ ที่พลิ้วไสวไปตามสายลมได้อย่างเต็มที่นอกจากดงดอกหญ้าแล้วยังมีสวนดอกไม้สวยๆ ด้วยนะ

ใครอยากได้รูปแสงสวยๆ ควรมาเช้าๆ หรือไม่ก็รอแสงเย็นซัก 4–5 โมงเลย จะได้ฟีลลิ่งแสงส้มละมุน แต่ถ้ามาเที่ยงๆ อาจจะต้องหามุมถ่ายนิดนึงเพราะแสงอาทิตย์จะตรงหัว ถ่ายรูปหน้าจะเป็นเงาๆ ดังนั้นต้องเผื่อเวลานิดนึงเนาะ ขนาดวันที่ป้ามานี่รอต่อคิวขึ้นรถกอล์ฟประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง แนะนำให้คนนึงไปซื้อตั๋วอีกคนไปต่อคิวรอรถกอล์ฟจะได้ประหยัดเวลาจ้ะ

สวนฮานึล (Haneul Park)
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำตาล ลง world cup stadium station ทางออก 1 เดินตามอาจุมม่าไปโล้ด ประมาณ 10 นาที
เวลาทำการ : ทุกวัน 09:00–18:00 น.
ค่ารถ : เที่ยวละ 1,500 วอน

ร้านลับๆ 조개창고 (โชเกชางโก) บุฟเฟ่ต์สารพัดหอย สดๆ จากในตู้ คุ้มสุดใน 3 โลก คนละ 25,500 วอน ไม่จำกัดเวลากิน!!!

เปลี่ยนแนวกันบ้าง ใครขาซีฟู้ดพกน้ำจิ้มซีฟู้ดไปจะต้องฟิน 조개창고 (โชเกชางโก) ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างลับๆ ที่มีหอยสดๆ 10 ชนิดจากในตู้ให้เราเลือกหยิบมาปิ้งเอง สดกว่านี้ก็ต้องไปจับเองแล้วจ้า ไม่ว่าจะหอยเชลล์ หอยเป่าฮื้อ หอยนางรม หอยกาบตัวใหญ่เวอร์ ปกติไปกินตลาดปลาคงโดนกันอ่วมแต่กินที่นี่จ่ายแค่ 25,500 วอนพอ แถมจะนั่งกินเท่าไหร่ก็กินไป ไม่จำกัดเวลาด้วย!!

นอกจากบรรดาหอยต่างๆ ยังมีหมู เนื้อ ไส้กรอก ลูกชิ้น ผัก ของเสียบไม้อีกหลายสิบอย่างให้เราเลือกตักมาย่างกันได้ ข้อดีคือมี 2 เตา แยกย่างกันได้ระหว่างหอยกับพวกหมู ในตัวบุฟเฟ่ต์นี้รวมน้ำเปล่าไว้ให้ แต่จะไม่รวมข้าว บะหมี่ ถ้าอยากได้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ส่วนเครื่องดื่มอื่นๆ น้ำอัดลม โซจู นี่หยิบมาเสร็จแล้วให้ใส่ขวดที่กินเสร็จในตระกร้าเขียวเพื่อเอาไปคิดเงินตอนจะกลับด้วยนะ