เพื่อการสัมภาษณ์งานที่ประสบผลสำเร็จนั้น การใช้เวลาเพื่อสำรวจตนเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ขั้นตอนและะกระบวนการเตรียมตัวเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามทั้งยากและง่าย คลอบคลุมได้ทุกส่วนสำคัญอย่างแน่นอน
และทั้งหมดนี้ คือ 5 คำถามที่คุณจะต้องตอบตัวเองให้ได้ ก่อนการสำมภาษณ์งานที่กำลังจะเกิดขึ้น
1. จงบอกความความสำเร็จในอดีตที่คุณรู้สึกภูมิใจกับมันมากที่สุด
ความสำเร็จในที่นี้อาจจะเป็นความสำเร็จที่เกี่ยวกับงาน หรือไม่เกี่ยวกับงานก็ได้ เลือกความสำเร็จใดสำเร็จหนึ่งที่เหมาะกับสถาการณ์และคุณเองก็ต้องรู้สึกสบายใจที่จะเล่าให้ฟังด้วย และอธิบายให้ได้ว่าความสำเร็จนี้ส่งผลให้คุณเป็นคนปัจจุบันที่มีความเชี่ยวชาญได้อย่างไร ลองนึกถึงเหตุการณ์ที่คุณได้เป็นตัวแทนในการตัดสินใจและสามารถส่งผลดีต่อทีมของคุณ หรืออะไรคือทักษะที่คุณเองก็ไม่แน่ใจว่าคุณทำได้ดีที่สุดแต่การฝึกฝนอย่างหนักทำให้ทักษะเหล่านั้นของคุณดีขึ้นและสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้ รวมถึงความผิดพลาดในอดีตที่เกิดขึ้น คุณแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไร และเรียนรู้อะไรจากมันบ้าง
2. จงบอก 3 สิ่งที่คุณอยากพัฒนาและทำให้ดีขึ้นในปีนี้
เริ่มจากสิ่งที่มีผลโดยตรงกับการทำงานและชีวิตส่วนตัวของคุณ ลองมองหาสิ่งที่คุณต้องการที่จะพัฒนาให้ดีขึ้น และค้นหาวิธีที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นพัฒนาขึ้นได้จริง ยิ่งคุณทำการบ้านกับคำถามเหล่านี้ ก็จะยิ่งช่วยให้คุณเข้าใจในตัวเองและวิธีการที่จะนำมาปรับใช้ในที่ทำงานได้
และเมื่อหาคำตอบได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือฝึกฝนวิธีการพูดเพื่ออธิบายถึงระดับทักษะของคุณให้ออกมาชัดเจนที่สุด
3. ความสามารถใดที่ทำให้คุณแตกต่างจากผู้อื่น
เป็นที่แน่นอนว่าคุณจะต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คุณโดดเด่นและแตกต่างจากผู้อื่น ลองนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้คุณแตกต่างจากผู้คนรอบตัว คุณอาจมีการเตรียมพร้อมมากกว่าผู้อื่นในหลายๆสถานการณ์ คุณอาจสามารถคาดเดาหรือประเมินสถานการณ์ได้ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง คุณอาจเป็นคนที่มีความว่องไวและมีความคิดที่สร้างสรรค์ หรือเป็นคนที่มีความคิดแบบเป็นลำดับขั้นตอน
ทุกคนล้วนมีความสามารถและมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป หาข้อดีของคุณเองให้เจอและแบ่งปันเรื่องราวกับคนที่สัมภาษณ์คุณ
4. จงบอกสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคุณที่เพื่อนร่วมงานทั้งในปัจจุบันและในอดีตกล่าวถึง
ให้นึกถึงสิ่งดีๆที่เพื่อนร่วมงานเคยพูดเกี่ยวกับตัวคุณ หรือระบุถึงเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของคุณอยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด คุณสามารถถามสิ่งเหล่านี้จากเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือเพื่อร่วมห้องของคุณได้ และเลือกส่วนที่สำคัญเพื่อแบ่งปันเรื่องราว
5. จงบอกเป้าหมายในการทำงานของคุณในอีก 3 หรือ 5 ปีข้างหน้า
แม้คำถามนี้จะเป็นคำถามที่ยาก แต่มันก็เป็นประโยชน์ที่คุณจะได้วางแผนถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้น เมื่อมองย้อนไปในอดีตที่ผ่านมา มีอะไรที่แตกต่างออกไปบ้าง และในอนาคต คุณเองต้องการจะไปยืนที่จุดไหน
มีหลายคำถามที่ทำให้คุณได้เห็นตัวเองว่าพัฒนาและเดินทางมาไกลขนาดไหน ผู้สัมภาษณ์เองอาจไม่ได้ต้องการคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงหนึ่งเดียว เพียงแต่ต้องการทราบถึงความคิดเห็น ทัศนคติ และแรงบันดาลใจที่ใช้ในการขับเคลื่อนการทำงานของคุณ
หากคุณได้ใช้เวลามากพอในการค้นหาคำตอบในคำถามเหล่านี้ให้ได้ คุณจะมีความมั่นใจขึ้นเป็นอย่างมาก กุญแจที่สำคัญคือคุณต้องรู้ว่าตัวเองมาจากไหน ต้องการนำเสนออะไร และที่แห่งไหนคือสถานที่แท้จริงที่คุณต้องการจะไป
หลายคนอยากประสบความสำเร็จในการทำงาน อยากมีเงินเดือนสูง ๆ อยากมีความมั่นคงในการทำงาน
ทั้งนี้ทุกสิ่งที่เราคิด สามารถเป็นจริงได้ ถ้าเรามีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการทำงาน ซึ่งหลายคนอาจจะเคยบ่นจากการทำงานที่หนัก
แต่เชื่อผมเถอะ !! บ่นไปก็มีแต่ความทุกข์ เพราะยังไง ก็ต้องทำอยู่ดี
ดังนั้น ลองเปลี่ยนจากการบ่น !! เป็นตั้งใจทำงานให้ดีขึ้นย่อมดีกว่าครับ
ทั้งนี้ การตั้งใจทำงานจะใช้แรงอย่างเดียวก็คงยากจะก้าวหน้า
แต่ควรมีเครื่องมือในการสร้างมุมคิดให้ก้าวกระโดดเพื่อความสำเร็จในการทำงาน ย่อมดีกว่าจริงไหมครับ !!
คราวนี้ เมื่อเรามีวิธีคิดที่ดี มีความตั้งใจ ความฝันแค่เอื้อมเลยครับ
มาดูเคล็ดลับที่จะทำให้เรามีวิธีคิด สร้างงานให้ประสบความสำเร็จกัน
- สร้างสรรค์งานของตนเองซะ
- สร้างกำลังใจในวันหมดแรง
- ไม่กลัวความผิดพลาด
- ให้เกียรติคนรอบตัว
- ไม่กล่าวโทษสิ่งรอบตัว
1.สร้างสรรค์งานของตนเองซะ
การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ต้องกล้าคิด กล้าแสดงออก ในด้านที่ดี
รู้จักทำงานเชิงรุก มากกว่ารอคำสั่งจากหัวหน้างาน และกล้านำเสนอในสิ่งที่เป็นการพัฒนาการทำงาน
หรือการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้น เพราะหากเรากล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ
ในสิ่งที่ทำให้องค์กรพัฒนา ผมเชื่อว่าโอกาสที่หัวหน้าจะมอบหมายงานที่สำคัญและท้าทาย
ให้เราทำย่อมมีโอกาสครับ และเมื่อโอกาสมาแล้วจงรีบไขว่คว้า อย่าคิดว่าทำไม่ได้
เพราะยิ่งทำงานที่ท้าทายความสามารถของตนเองมากเท่าไหร่ โอกาสในการพัฒนาตนเอง
ก็จะมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และหากวันหนึ่งหัวหน้าต้องโปรโมตการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น
หัวหน้าย่อมต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถ เมื่อนั้นโอกาสย่อมเป็นของเราหากเรา
พัฒนาตนเองมากพอ
2.สร้างกำลังใจในวันหมดแรง
ทุกครั้งที่เราต้องทำงานหนัก ย่อมมีวันที่เราอ่อนล้าหมดแรงจากการทำงาน
เมื่อวันนั้นมาถึง (เราคงหลีกเลี่ยงได้ยาก) ความคิดเชิงลบย่อมเกาะตามตัว
จนยากจะดีดทิ้ง แต่ หากเรามองเชิงบวก เปลี่ยนความคิดในวันที่เราหมดแรง
เจ้าความคิดเชิงลบย่อมถูกทำลายลงได้แน่นอน โดยวิธีคิดเชิงบวกที่ต้องใช้เสมอ
ก่อนก้าวออกจากบ้าน นั่นคือ ให้มองคุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้จากการทำงาน
ถึงแม้การทำงานจะหนัก จะเหนื่อย แต่สิ่งที่ได้ย่อมคุ้มค่าแน่นอน
ลองตั้งคำถามกับตนเองดูนะครับ “ทำงานทุกวันนี้ให้คุณค่าหรือประโยชน์อะไรบ้างกับตัวเรา”
ฝึกคิดในเชิงบวกเยอะ ผมเชื่อว่าเราย่อมมีคำตอบกับตนเองอย่างแน่นอนครับ
3.ไม่กลัวความผิดพลาด
ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ หากเราลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง
เพราะไม่มีคำว่าผิดพลาด หากเรานั่ง ๆ นอน ๆ อยู่นิ่ง ๆ แบบนั้นคงยากจะผิดพลาดจริงไหมครับ !!
แต่จงตระหนักให้ขึ้นใจว่า "ความผิดพลาดนั้นจะต้องไม่ผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า"
แบบนั้นย่อมยากจะมีโอกาสแก้ตัวในครั้งต่อไป เชื่อผมเถอะ !!
การทำงานทุกอย่างหากเรามีการเตรียมตัวที่ดี มีการวางแผนล่วงหน้า
ความผิดพลาดย่อมน้อยลง แต่ก็อย่าคาดหวังว่าจะไม่ผิดพลาด
เพราะต่อให้วางแผนดีแค่ไหน ก็มีโอกาสหลุดได้เช่นกัน
เมื่อผิดพลาด จงรีบปรับปรุงแก้ไขทันที ใช้บทเรียนในความผิดพลาดนำมาสอนตัวเรา
ให้ระมัดระวังในการก้าวต่อไป แต่อย่าพึ่งท้อครับ เพราะการท้อไม่ได้ช่วยอะไร
อยากประสบความสำเร็จต้องลุกให้เร็วและไปต่อ จำไว้ว่าถ้าทางนี้ไม่ได้
ก็ยังมีหนทางให้ก้าวต่อไป ใช้สติในการคิด และย้อนกลับไปมองข้อที่ 2
คุณค่าและประโยชน์ในการทำงาน เราย่อมมีกำลังใจในการก้าวต่อไปครับ
4.ให้เกียรติคนรอบตัว
การทำงานไม่ว่าจะทำงานสิ่งใด ย่อมหนีไม่พ้นคือ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้อง
หรือแม้กระทั่งลูกค้าที่เราติดต่อด้วยเสมอครับ
ดังนั้นการทำงานที่ดีต้องรู้จักมีสัมมาคารวะต่อคนร่วมงานด้วยเสมอและรู้จักการเป็นผู้ให้ก่อนผู้รับ
คำว่าให้ในความหมาย คือการให้ความช่วยเหลือในเรื่องการทำงาน การให้คำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการทำงาน
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงิน เช่นการให้ยืมเงิน
ทั้งนี้ทุกครั้งที่เราเริ่มต้นจากการให้อย่าไปจำเพื่อทวงบุญคุณ
เพราะผมเชื่อว่า คนที่เป็นผู้รับย่อมตอบแทนเราในอนาคตไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าเขาไม่ตอบแทนเรา ก็อย่าไปเสียใจ อย่างที่บอกให้แล้วลืม เราจะมีความสุขครับ
5.ไม่กล่าวโทษสิ่งรอบตัว
การทำงาน เมื่อผิดก็ต้องยอมรับผิด อย่าไปมีข้ออ้างเยอะทำให้ตัวเราขาดความเชื่อถือต่อผู้อื่น
และไม่โทษปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ มาเป็นเหตุหรือข้ออ้างให้เราทำ หรือ ไม่ทำบางสิ่งบางอย่างในการทำงาน
จำไว้ว่า ทำงานให้ดีที่สุดในบทบาทความรับผิดชอบของเรา
ทำให้เต็มที่ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้คนอื่นว่าเราได้ เพราะหากเราทำงานเต็มที่และเกิดผิดพลาด
ผมเชื่อว่าเราจะไม่เสียใจและสามารถยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่หากเราไม่เต็มที่
และเกิดความผิดพลาด เราคงยากจะย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่ผ่านไปแล้วนะครับ
ดังนั้น เมื่อเราผิดพลาด จงเปิดใจยอมรับและหาทางแก้ไข
แต่หากเราทำงานได้ดี ก็อย่าชะล่าใจจงพัฒนางานนั้นให้ดีขึ้นต่อไปครับ
ทั้ง 5 ข้อ ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ
แต่ผมเชื่อว่า หากเราทำทั้ง 5 ข้อที่ผมได้กล่าวไว้ได้ย่อมเป็นพื้นฐานในการต่อยอด
กับสิ่งที่เราลงมือทำที่เรียกว่า “งาน” หรือ แม้กระทั่ง “ชีวิตของเรา” ในอนาคตครับ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร
4 P “Professional People Professional Performance”
(พนักงานมืออาชีพสู่ความสำเร็จในการทำงาน)
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link //line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน