ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 กองกำลังของจักรวรรดิญี่ปุ่นได้เปิดฉากโจมตีอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ ทำให้สหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 มันเป็นวันที่จารึกไว้ในความทรงจำทั่วโลก แต่มีน้อยคนที่รู้ว่าในวันเดียวกันนั้น ปฏิบัติการที่เด็ดขาดไม่แพ้กันของกองกำลังญี่ปุ่นกำลังก่อร่างสร้างสงครามในที่อื่น ๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องการให้ผู้คนรู้เรื่องราวของพวกเขามากขึ้นเช่นกัน

ศัตรูที่กลายเป็นพันธมิตร

กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปยังพม่าและคาบสมุทรมาเลย์ และจำเป็นต้องเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวผ่านทางท่าเรือในไทย ผู้นำของญี่ปุ่นขออนุญาตจากรัฐบาลไทยเพื่อยกพลขึ้นบก ถึงแม้นายกรัฐมนตรีไทยไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพมหานครและไม่สามารถติดต่อได้ แต่ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยกพลขึ้นบกอยู่ดี

ในเวลาเดียวกัน กองทหารของจักรวรรดิญี่ปุ่นหน่วยอื่น ๆ กำลังข้ามเข้ามาในไทยจากทางตะวันออก ในขณะที่บางส่วนก็รุกเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษซึ่งก็คือประเทศมาเลเซียในตอนนี้

ทหารไทยได้สู้กลับเพื่อเป็นการปกป้องซึ่งเป็นการรบที่ดุเดือดมากพอ ๆ กับระยะเวลาที่สั้นมาก ผู้นำไทยตกลงภายในไม่กี่ชั่วโมงยอมให้ญี่ปุ่นผ่านผืนแผ่นดินไทย และต่อมาในเดือนนั้นก็เข้าร่วมกับกองกำลังญี่ปุ่นและกลุ่มอักษะ

ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ของการสู้รบ มีรายงานว่าทหารและตำรวจของไทยอย่างน้อย 100 นายเสียชีวิต นอกเหนือจากทหารญี่ปุ่นหลายสิบนาย

ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ
จุดยกพลขึ้นบกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ร่องรอยการต่อสู้ในทางใต้ของไทย

ประกาศหยุดยิงมาถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ช้ากว่าบริเวณชายฝั่งทะเลอื่น ๆ ส่งผลให้มีรายงานการต่อสู้ที่กินเวลานานกว่า 30 ชั่วโมง กองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกบริเวณที่เป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศไทย ในตอนที่วางอาวุธมีคนไทยมากกว่า 40 คนและชาวญี่ปุ่นไม่ทราบจำนวนเสียชีวิต ฐานทัพนี้ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 กองทัพอากาศเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น

คุณสุมาลี โพศรี ภัณฑารักษ์กล่าวว่า เธอต้องการให้ผู้คนเข้าใจความเจ็บปวดของสงคราม

“ฉันอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ได้เรียนรู้ว่าสงครามเป็นสิ่งไม่ดี” เธออธิบาย

ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ
สุมาลี โพศรี ภัณฑารักษ์ ณ พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 กองทัพอากาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ไกลออกไปทางใต้ที่จังหวัดชุมพร ซากสะพานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้น

ซากสะพานแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ดูวิดีโอ 03:42

ทหารหนุ่ม

การรบต้านของไทยในจังหวัดชุมพรมีนักสู้วัยรุ่นประมาณ 30 คน หนึ่งในนั้นคือคุณเจริญ มหาเจริญ ที่ได้บันทึกประสบการณ์นั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่คนสุดท้ายในการต่อสู้ และเขาต้องการให้แน่ใจว่าประวัติศาสตร์จะไม่ถูกลืม

“ผู้บังคับบัญชาของเราสั่งให้ทหารยุวชนลงไปทางฝั่งตะวันตกที่มีทุ่งนาและต้นมะพร้าว เราซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นมะพร้าวระหว่างการยิง การต่อสู้เริ่มต้นเวลา 07.00 น. และทวีความรุนแรงขึ้น ทหารญี่ปุ่นมีอาวุธที่ดีกว่าเรา พวกเขามีปืนกล เรามีแต่ปืนขนาดเล็กเท่านั้น ในวันนั้น กองกำลังของพวกเขาข้ามคลองจากทางตะวันตกมาล้อมเรา ผู้บังคับบัญชาของเราขอให้เราเตรียมพร้อมโจมตีโดยพูดว่า 'ตามฉันมา' และต่อมาเขาก็ถูกยิงเสียชีวิต”

ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ
คุณเจริญ มหาเจริญ ให้สัมภาษณ์กับ NHK เกี่ยวกับประสบการณ์การเป็นทหารยุวชน

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คุณเจริญอายุ 98 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับ NHK เกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา เขาไม่สามารถพูดได้มากนักเนื่องจากปัญหาสุขภาพและสามารถพูดได้เพียงประโยคสั้น ๆ เท่านั้น: "ไม่กลัว…ไม่อยากสู้กันเอง…ถูกบังคับ"

คุณเจริญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ปัจจุบันที่จังหวัดมีอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์เพื่อระลึกถึงการรบต้านครั้งนั้น ที่ประจวบคีรีขันธ์คุณเฉลิมพล อภัยรีซึ่งเคยเป็นครูสอนชั้นมัธยมปลาย ได้เปลี่ยนบ้านของเขาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวเพื่อรำลึกถึงการสู้รบ ในช่วงใกล้จะครบรอบ 80 ปี เขาได้ไปเยี่ยมโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งซึ่งเขาเคยสอนซึ่งเขาได้พูดเกี่ยวกับนักเรียนที่นั่นในช่วงสงครามที่ช่วยขนย้ายเสบียงสำหรับการสู้รบ หนึ่งในนั้นเสียชีวิตในการต่อสู้

ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ
คุณเฉลิมพล อภัยรีอธิบายการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของเขา

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 80 ปีพอดีของการสู้รบ ประชาชนในภาคใต้ของไทยได้เข้าร่วมพิธีรำลึก งานได้จัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ จุดที่กองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก คุณเซโตะ มาซาโอะอายุ 90 ปี เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วม เขาเกิดที่ประเทศไทย พ่อของเขาทำงานให้กับกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ
คุณเซโตะ มาซาโอะได้พูดคุยกับ NHK เกี่ยวกับความทรงจำในสงครามของเขา

เขานึกย้อนไปถึงสมัยที่เป็นนักเรียนประถม เขาไปตกปลากับพ่อของเขา “ผมจับปลาได้เยอะมาก” เขาบอก “แต่พ่อผมจับไม่ได้” คุณเซโตะกล่าวว่า เขาสังเกตเห็นว่าพ่อของเขากำลังใช้ตะกั่วถ่วงและตัววัดแทนที่จะเป็นเหยื่อล่อติดที่ปลายสายเบ็ด และมารู้ภายหลังว่าพ่ออาจจะกำลังวัดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยกพลขึ้นบกของญี่ปุ่น เมื่อสงครามปะทุ พ่อของเขาไปที่คาบสมุทรมาเลย์เพื่อทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทหาร ตัวคุณเซโตะเองก็มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมทางทหารสำหรับนักเรียนรุ่นเยาว์ แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นการต่อสู้ก็ตาม

คุณเซโตะกล่าวว่า ความหวังของเขาคือการที่ผู้คนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์บทนี้กันมากขึ้น เขากล่าวว่า มีคนในญี่ปุ่นไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ และเขาเชื่อว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และสิ่งที่เกิดขึ้น จะทำให้มิตรภาพลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะสาเหตุใด

การที่โซเวียตประกาศสงครามกับญี่ปุ่นในวันที่ 8 สิงหาคม 1945 เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นตัดสินประกาศยอมแพ้สงคราม เนื่องจากมิได้จัดสรรกำลังไว้เพียงพอสำหรับต้านทานการรุกจากภาคพื้นทวีป ด้วยญี่ปุ่นทุ่มกำลังไปที่การป้องกันเกาะมาตุภูมิเป็นสำคัญ

เพราะเหตุใดญี่ปุ่นซึ่งแพ้สงครามโลกจึงสามารถพัฒนาประเทศจนกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้

การเมืองที่ดีและระบบเศรษฐกิจที่ดีกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ ญี่ปุ่นยังมีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูง และมีการเปิดตลาดอุตสาหกรรมสู่นานาชาติในช่วงปีค.ศ. 1960 ภาคอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของญี่ปุ่นกลายเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจประเทศ ...

เหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นกับประเทศญี่ปุ่นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ (ค.ศ. 1939-1945) ญี่ปุ่น ในฐานะประเทศผู้แพ้สงครามเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อกองบัญชาการสูงสุดของสัมพันธมิตร หรือ SCAP (The Supreme Commander for the Allied Powers) ที่มีอเมริกาเป็นผู้นำ ได้เข้ามามีบทบาทในนโยบายการปกครองญี่ปุ่น ทั้งด้านการเมือง, เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ อยู่ประมาณ 7 ...

ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่มีทหาร

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามต่อสหรัฐอเมริกา ทำให้สหรัฐเข้ามาควบคุมกำลังทหารของญี่ปุ่น และทำให้ญี่ปุ่นต้องร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่โดยมีข้อห้ามว่า ไม่อนุญาตให้ญี่ปุ่นทำสงครามกับประเทศใด ๆ เลยเว้นแต่กระเพื่อป้องกันประเทศตนเอง ที่สำคัญคือไม่มีศาลทหารและกระทรวงกลาโหม