“พลังพิเศษในมือคุณ ด้วยชิปที่ประมวลผลเร็วที่สุดใน iPhone 14 อย่าง A15 Bionic และจอภาพที่ใหญ่ที่ใหญ่ 6.1 นิ้ว แบบขอบจรดขอบ พร้อมโหมดกลางคืนบนกล้องทุกตัว สว่างสุด ๆ สดใสสุด ๆ คมชัดสุด ๆ กับเทคโนโลยีจอภาพ OLED 60Hz ที่ดีที่สุดบน iPhone 14 ที่ช่วยให้ภาพสวยงาม แม้จะอยู่ในกลางแดดจ้า แถมยังช่วยประหยัดพลังงาน ผลิตจากไทเทเนียมทำให้ทนต่อการตกกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี iPhone ถนัดเรื่องการทำหนัง เพราะ iPhone 14 จะช่วยให้คุณถ่ายวิดีโอที่มีความคมชัดละเอียดระดับ 4K อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Dolby Vision ที่ทำให้การถ่ายตอนกลางคืนมีสีสัน แสงเงาคมชัด สวยงาม กล้องที่ล้ำไปหมดเพื่อรูปถ่ายที่ดูดีไปหมด ด้วยการอัปเกรดกล้องตัวหลักเลนส์ Wide ที่มีความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซล และเปิดตัวกล้องหน้าแบบออโต้โฟกัสพร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.9 ทำให้ iPhone 14 ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้คมชัดยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ชิปที่สร้างขีดจำกัดใหม่ iPhone 14 มาพร้อมชิป A15 Bionic ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็ว ทั้งยกระดับกล้องให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Neural Engine แบบ 16-Core และช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพบน iPhone 14 ทำไมต้อง iPhone เพราะไม่มีโทรศัพท์ไหนเหมือน iPhone 14 ประสิทธิภาพระดับอัจฉริยะ ชิปที่ออกแบบโดย Apple ใน iPhone 14 จะช่วยให้คุณทำทุกอย่างได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ iPhone 14 ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บรักษาข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ทนทานและคงมูลค่ายาวนาน เนื่องจาก iPhone 14 สร้างมาให้ทนทานและคงมูลค่าการใช้งานได้ยาวนานกว่าสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ด้วยแบตเตอร์รีใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เปรียบเทียบ หา iPhone 14 ที่เหมาะสำหรับคุณ”
iPhone 14
พิเศษ สำหรับลูกค้าเซเรเนดแพลทินัม และ โกลด์
สำหรับลูกค้าปัจจุบันรายเดือน
ลูกค้าเปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน
หรือ เปิดเบอร์ใหม่
สำหรับลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม
รับส่วนลดสูงสุด 19,500 บาท
เงื่อนไขการใช้บริการ
3.5นิ้วจอ IPS-LCD 24-bit640 x 960 พิกเซล
Apple A4 ความเร็ว 1.0 GHz
หน่วยความจำ
RAM 512 MB
ROM 8/16/32 GB
แบตเตอรี่
1,420 mAh Li-ion
ข้อมูลมือถือ Apple iPhone 4 8GB - แอปเปิ้ล
- เปิดตัวครั้งแรก 3 ตุลาคม 2011 (สยามโฟนฯ)
- สถานะ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
- วางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2011 (ตุลาคม 54)
- ราคาเปิดตัว 17,900 บาท (ตุลาคม 54)
จอแสดงผล (Display)
- สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
- จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี)
- กว้าง 3.5 นิ้ว (แนวทะแยง)
- ความละเอียด 640 x 960 พิกเซล
(330 ppi)
วัสดุตัวเครื่อง (Body)
- หน้าจอกระจก
- Gorilla Glass
- กรอบสแตนเลสสตีล
- มีสีให้เลือก (Colors) : black, white
เครือข่าย (Network)
- ใช้งาน Micro-SIM
- เทคโนโลยีรับ/ส่งข้อมูล 2G, 3G: HSDPA 7.2 Mbps
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
- iOS 4
- CPU : Apple : A4
- ความเร็ว : 1.0 GHz
- GPU : PowerVR SGX535
- 8/16/32 GB (ตัวเครื่อง) RAM 512MB,
กล้องหลัง (Rear Camera)
- กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- - ไฟแฟลช LED
- - แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging) - โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)
กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด VGA
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
- บันทึกวิดีโอกล้องหลัง
- - ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
- ไม่มีบันทึกวิดีโอกล้องหน้า
เซ็นเซอร์ (Sensor)
- ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
เชื่อมต่อ
- การหาตำแหน่ง: Assisted GPS
- WiFi 802.11b/g/n
- - เชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์โดยตรง (Wi-Fi Direct)
มัลติมีเดีย
- ระบบเสียง
- - ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จ
- แบตเตอรี่ Li-ion 1,420 mAh (Standard Battery)
- การใช้งานแบตเตอรี่
- เปิดรอรับสาย GSM 300 ชั่วโมง (Standby Time)
- สนทนาต่อเนื่อง GSM 14 ชั่วโมง (Talk Time)
- สนทนาต่อเนื่อง 3G 7 ชั่วโมง (Talk Time)
- ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Video playback time)
- ฟังเพลงต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง (Music playback time)
เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืน วันนี้เรามีตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบระหว่าง Google Pixel 4 กับ iPhone 11 Pro มาให้ได้ชมกัน ทดสอบในสภาพแสงและพื้นผิวที่หลากหลาย
Google เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปเมื่อคืน แน่นอนว่าสิ่งที่รอคอยกันก็คือ Pixel 4 สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด สเปกก็เป็นตามที่ข่าวหลุกเป๊ะทุกประการ แต่มีสิ่งที่ว้าวของรุ่นนี้ก็คงจะเป็นฟีเจอร์ Project Soli เพียงโบกมือสามารถสั่งการต่าง ๆ ได้
แน่นว่าเมื่อพูดถึง Pixel ต้องนึกถึงเรื่องการถ่ายภาพ เพราะสามารถชนะสมาร์ตโฟนจากค่ายอื่น ๆ มาหลายปี ครั้งนี้แม้จะใช้กล้องสองตัวเท่านั้น แต่กูเกิลบอกว่า เรามีซอฟแวร์ที่ดีกล้องเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว แต่คู่แข่งที่สำคัญในตอนนี้คงหนีไม่พ้น iPhone 11 Pro ที่พกกล้องหลังมาถึง 3 ตัว
ทางเว็บไชต์ the verge ได้เปรียบเทียบภาพของ Pixel 4 และ iPhone 11 Pro ไว้ โดยถ่ายในเวลาเดียวกัน ใกล้เคียงกันมากที่สุด เพื่อให้ได้ภาพที่เหมือนกันมากที่สุด ใช้การถ่ายในโหมดอัตโนมัติของแอปกล้องเท่านั้น ภาพที่ออกมาส่วนใหญ่จะถ่ายในแสงธรรมชาติ วันที่แดดจัด และวันที่มีเมฆมาก
ครั้งนี้จะไม่มีการทดสอบ Night Mode, การซูม ที่อยู่ใน Pixel 4 เนื่องจากต้องตรวจสอบคุณสมบัติเหล่านี้ก่อนว่ากล้องทั้งสองตัวทำอะไรได้บ้าง
รายละเอียดกล้องของ Pixel 4
- เลนส์หลักความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ /1.7 ถ่ายมุมกว้างได้ 77°
- เลนส์ telephoto ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ / 2.4, ถ่ายมุมกว้างได้ 52°
- กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
รายละเอียดกล้องของ iPhone 11 Pro
- เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงƒ / 1.8
- เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ/2.4 ถ่ายมุมกล้าง 120°
- เลนส์ telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง ƒ / 2.0
ในสวนสาธารณะ สังเกตแสงระหว่างต้นไม้และนักปั่นจักรยาน แสงที่รอดผ่านใบไม้ ต้นไม้ แม้แต่ภาพที่จับนักปั่นก็ทำได้ดี มือถือทั้งสองรุ่นถ่ายออกมาได้ดีในที่ที่แสงธรรมชาติ
ภาพต่อมาถ่ายวัตถุที่มีสีสันผสมกับแสงในตอนกลางวัน จะสังเกตเห็นว่า พิกเซล 4 ปรับแสงจากเพดานได้ดีกว่า มีความอิ่มตัวน้อยกว่าไอโฟน
อีกหนึ่งภาพที่น่าสนใจคือเบาะสีเหลือง สังเกตว่าสีเหลืองของฟัซซี่ดูคมชัดขึ้นมากใน iPhone 11 Pro เมื่อซูมเข้ามันยากที่จะเห็นความแตกต่างของทั้งสองรูปนี้
เส้นผมและใบหน้า ในพิกเซล 4 ทำงานได้ดีกว่ามากในการถ่ายภาพใบหน้าเคราและรายละเอียดผิว สีค่อนข้างเย็นและมืดเล็กน้อย แต่ iPhone นั้นดูอบอุ่น ออกเหลืองนวลเกินไป
เส้นผม ทำการทดสอบมากมายในสภาพแสงที่หลากหลาย แต่ Pixel 4 ทำงานได้ดีกว่าในการรับสีที่ถูกต้อง แม้ว่ารายละเอียดจะคล้ายกันมากเมื่อซูมเข้าทั้งภาพ
และทั้งหมดคือภาพตัวอย่างที่ทาง theverge ได้ทำการทดสอบเพียงเบื้องต้นเท่านั้น สรุปจากภาพถ่ายทั้งหมดจะเห็นว่าทำออกมาได้ดี ถ้าไม่สังเกตถึงรายละเอียดจริง ๆ ซูมดูใกล้ ๆ ทาง iPhone 11 Pro ให้ภาพที่อิ่มตัวด้วยโทนสีที่เย็นกว่า ส่วน Pixel 4 นั้นจะให้ภาพที่ดูอบอุ่นกว่า
ที่มา : theverge
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ความเห็น
>