ปัญหาการใช้งานโน๊ตบุ๊คที่เราซื้อมา คงไม่พ้นเรื่องของแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คเสื่อมสภาพ เพราะแบตเตอรี่นั้น มีอายุการใช้งานที่จำกัด เหมือนแบตมือถือนั่นแหละครับ แต่ว่าจะสามารถใช้งานได้นานแค่ไหน มีความเสื่อมมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเราด้วยครับ แต่ว่าหากเมื่อเราใช้งานโน๊ตบุ๊คไปหลายปีแล้ว อยากจะทราบว่า ตอนนี้คุณภาพของแบตเตอรี่ของเรา ถึงขั้นที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วหรือยัง ? วันนี้เราจะมาบอกวิธีเช็คครับ ด้วยโปรแกรม CPUID HWMonitor ครับ
ก่อนอื่นเลยเราต้องไปดาวโหลดตัวโปรแกรมฟรี ตัวนี้มาก่อนครับ ตามลิ้งค์ //www.cpuid.com/softwares/hwmonitor.html
หน้าเว็บไซต์ของตัวโปรแกรม คือ แบบนี้ครับให้มองหาที่ดาวโหลดตรงนี้ครับ สามารถเลือกได้ 2 แบบ แล้วแต่ความชอบ
การใช้งาน เมื่อเปิดโปรแกรม CPUID HWMonitor
ตัวโปรแกรมจะบอกรายละเอียดของ Hardware ในเครื่องของเรา และที่สำคัญคือ ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊ค จะมีแทปที่เรียกว่าในส่วนของ Battery ให้เราดูด้วยครับให้เราไปเช็คตรงส่วนของรูปแบตเตอรี่(สีเขียวๆ) ซึ่งจะมี Voltages, Capacities, Levels
ให้เราดูตรงในส่วนของ Capacities จะมีรายละเอียด 3 อย่าง ดังนี้
- Designed Capacity = คือ ความจุแบตเตอรี่ที่ออกแบบไว้ ตั้งแต่แรก
- Full Charge Capacity = คือ ความจุแบตเตอรี่ที่เราสามารถชาร์ตได้เต็มที่ ณ สภาพแบตเตอรี่ ขณะนี้ ** ใช้ตรงนี้แหละ เช็คว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือไม่?
- Current Capacity = คือ ความจุแบตเตอรี่คงเหลือ ณ ตอนนี้
*สิ่งที่เราใช้เช็คดูว่าแบตฯ เสื่อมหรือไม่ คือ Full Charge Capacity ซึ่งหากแบตฯไม่เสื่อมเลยสักนิด จะต้องมีค่าเท่ากันกับ Designed Capacity
ตัวอย่าง โน๊ตบุ๊ครุ่นเดียวกันนี้ ที่เอาไปเปลี่ยนแบตเตอรี่มาใหม่แล้ว เราจะสามารถวัดค่าออกมาได้ ดังนี้
ให้สังเกตุ Designed Capacity จะเท่ากับ Full Charge Capacity (หรือใกล้เคียงกัน) ถือว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่ดีนี่ก็เป็นวิธีง่ายๆ สำหรับตรวจสอบ Battery Notebook ของท่าน โดยเฉพาะท่านที่เอาให้ร้านคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ จะได้ทราบว่าเค้าเปลี่ยนให้จริงๆหรือไม่ ? เอาของดี หรือของมือสอง มาเปลี่ยนให้หรือเปล่า? เบื้องต้นก็สามารถใช้วิธีนี้เช็คได้ครับผม สำหรับตัวโปรแกรมนี้ CPUID HWMonitor ก็ยังสามารถใช้ตรวจสอบ Hardware อื่นๆ ได้อีกด้วย ลองไปเล่นดูครับ
BREAKING: ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ประกาศ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ ย้ำสัมพันธ์พี่น้องทหารเหนียวแน่นไม่มีแตกหัก วันนี้ (23 ธ.ค. 65) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เผย บอกลาพลเอกประวิตรแล้ว พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะอยากสานต่องานที่เคยทำมา ย้ำสัมพันธ์พี่น้องทหารเหนียวแน่นไม่มีแตกหัก
สำหรับใครที่สงสัยว่า เอ๊ะ!! แบตเตอรี่โน้ตบุ๊กของเราเสื่อมหรือยัง หรือสุขภาพแบตเตอรี่ตอนนี้มันเป็นยังไงนะ วันนี้ผมขอแนะนำวิธีเช็คแบตเตอรี่โน้ตบุ๊ก Windows 10 แบบง่าย ๆ ให้เพื่อน ๆ ลองใช้งานกันดูครับ
วิธีการเปิดเช็คนั้นง่ายมาก ให้เข้าไปที่ Command prompt (CMD) จากนั้นพิมพ์ข้อความดังนี้
powercfg /batteryreport
เมื่อกด Enter มันจะขึ้นตำแหน่งของโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์รีพอร์ตเอาไว้ ซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์
C:\Users\[username ที่เราตั้งไว้]\battery report.html
เมื่อเข้าไปดูในโฟลเดอร์จะเจอไฟล์หนึ่งชื่อ battery-report เป็น HTML เปิดขึ้นมาจะประกอบไปด้วย
-ข้อมูลพื้นฐาน รายงานชื่อรุ่นของโน้ตบุ๊ก
– ข้อมูลแบตเตอรี่ รายงานชนิดและความจุของแบตเตอรี่
– Recent usage สถานะการใช้งานแบตเตอรี่ จะเก็บข้อมูลใหม่ทุก ๆ 3 วัน
– Battery usage กราฟและตารางแสดงปริมาณไฟที่ออกจากแบตขณะใช้งาน
– Usage history ประวัติการใช้งานระหว่างเสียบสายชาร์จ (ใช้ไฟบ้าน) และการใช้ไฟจากแบต
– Battery capacity history เก็บประวัติความจุของแบตเตอรี่ในการชาร์จแต่ละครั้ง
– Battery life estimates อายุการใช้งานแบตเตอรี่
ส่วนที่ผมจะดูหลัก ๆ มีอยู่ 2 จุด ได้แก่ข้อ 2 และข้อ 7 โดยในข้อ 2 จะดูในส่วนของ Full charge capacity (ความจุสูงสุดที่แบตทำได้) เทียบกับ Design capacity (ความจุสูงสุดของแบตตามที่สเปกระบุไว้) ตัวเลขนี้ถ้าใกล้เคียงกันแสดงว่าแบตยังจุได้ตามปกติ แต่ถ้าค่า Full charge capacity ลดลง แสดงว่าแบตเราเก็บไฟได้น้อยลงแล้วครับ
ส่วนในข้อ 7 ผมจะดูระยะเวลาระหว่างช่อง Full charge เทียบกับ Design capacity ซึ่งควรจะมีค่าใกล้เคียงกันเช่นกัน ถ้าหากค่า Full charge น้อยกว่า แสดงว่าแบตเริ่มเสื่อม และค่านี้นี่แหละที่จะบอกเราได้ว่า ถ้าชาร์จแบตเต็มเราจะใช้งานได้อีกกี่ชั่วโมง (โน้ตบุ๊กตัวเก่าผมที่แบตเสื่อม Design ใช้ได้ราว 6 ชั่วโมง แต่ Full charge ใช้ได้แค่ 1 ชั่วโมงเอง)
และนี่คือวิธีง่าย ๆ ในการดูข้อมูลแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊ก Windows 10 นะครับ ในครั้งหน้าผมจะมีทริคเด็ด ๆ อะไรมานำเสนออีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ