เคยไหม บางทีซื้อฮาร์ดดิสตัวใหม่ม เสียบแล้ว เช็คในไบออสแล้วก็เจอ แต่พอเข้าหน้าวินโดว์กลับมองไม่เห็น คืออะไร ? พังหรือเปล่า อย่าพึ่งรีบเอาไปเคลม มาอ่านเราก่อน
ทีจริงมันไม่ได้พังนะ แต่ฮาร์ดดิส หรือ Flash storage หลาย ๆ รุ่นที่ไม่ได้ออกแบบมาให้เสียบแบบ USB จะต้องมีการฟอแมตก่อนเริ่มใช้งาน ถึงจะทำให้ Windows นั้นมองเห็น Drive ดังกล่าวในหน้า This PC
วิธีฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์ใหม่ใน Windows 10
- คลิก Start
- พิมพ์ว่า Create and format hard disk partitions แล้วกดคลิกที่อันบนสุด
- เลื่อนหา Disk ตัวที่เราพึ่งใส่เข้าไป แล้วกดที่ format โดยสังเกตที่ความจุ (ความจุเต็ม หรืออาจมีชื่อของแบรนด์ เช่น WD, Seagate )
4.ในช่อง Value label ให้เราตั้งชื่อว่าจะเป็น Drive อะไร จากนั้นเลือก NTFS
5.ในหัวข้อ Allocation unit size เลือก Default
6.กดดิ๊กที่ Perform a quick format แล้วกด OK เท่านี้ Windows ก็จะเห็น Drive ที่เรานำเข้าไปต่อใหม่แล้ว
จะฟอร์แมตคอมพิวเตอร์ได้ ต้องลบข้อมูลทั้งหมดใน hard drive ให้เกลี้ยง แล้วติดตั้งระบบปฏิบัติการลงไปใหม่ คอมของคุณจะได้กลับเป็นค่าโรงงาน เหมาะมากเวลาคอมเกิดแฮงก์แบบเกินเยียวยา หรือเวลาคุณจะขายต่อหรือบริจาคเครื่อง ทำตามขั้นตอนข้างล่างนี่ได้เลย เพื่อฟอร์แมตคอมพิวเตอร์ Windows 7 หรือ Mac OS X ของคุณ
-
1
Backup ข้อมูลซะก่อน. พอฟอร์แมตเครื่องแล้ว ไฟล์กับข้อมูลทั้งหมดของคุณจะหายไป ส่วนโปรแกรมนั้นไม่สามารถ back up ได้ ต้องติดตั้งใหม่ลูกเดียว เพราะฉะนั้นไฟล์ไหนที่คุณอยากเก็บไว้ ไม่ว่าจะเอกสาร ไฟล์เพลง ไฟล์รูป และคลิปต่างๆ ต้อง backup ไว้ในที่ปลอดภัยซะก่อน
- จะ backup ด้วยแผ่น DVD, CD, external hard drive, flash drive หรือเก็บไว้ใน cloud ก็ได้ ตามแต่ปริมาณข้อมูลของคุณ
-
2
ตั้ง BIOS ให้ boot เครื่องขึ้นมาจาก CD. โดยรีสตาร์ทเครื่อง แล้วเข้าไปที่หน้า setup ตอนที่มีโลโก้โผล่ขึ้นมา จะมีคีย์ที่ต้องกดแสดงขึ้นมา ซึ่งต่างกันไปตามยี่ห้อคอม แต่คีย์ยอดนิยมก็คือ F2, F10, F12 และ Del
- พออยู่ในเมนู BIOS แล้วให้เลือกเมนู Boot เปลี่ยนลำดับอุปกรณ์ซะ เครื่องจะได้ boot ขึ้นมาจากแผ่น CD ก่อนจะชิง boot จาก hard drive จากนั้นให้เซฟการตั้งค่าแล้วออกไป เครื่องก็จะรีสตาร์ทเอง
- ถ้าคุณติดตั้งจาก flash drive ต้องตั้งให้ BIOS นั้น boot เครื่องจาก removable storage แทน
-
3
เริ่ม Setup เครื่องได้เลย. ถ้าใส่แผ่น CD และตั้งค่า BIOS ถูกต้องแล้ว คุณจะเห็นข้อความที่บอกว่า "Press any key to boot from CD…" ก็ให้กดคีย์ในคีย์บอร์ด แล้วขั้นตอน setup เครื่อง Windows 7 จะเริ่มขึ้นเอง
- ระบบของคุณอาจเปิดโปรแกรม setup ขึ้นมาโดยอัตโนมัติก็ได้ โดยที่คุณไม่ต้องกดคีย์ใดๆ
-
4
รอไฟล์ Windows โหลด. พอเสร็จแล้วจะมีโลโก้ Windows 7 ปรากฏขึ้นมา ตอนนี้จะยังไม่มีไฟล์ไหนในคอมถูกเปลี่ยนแปลงอะไร ข้อมูลของคุณจะถูกลบในขั้นตอนต่อๆ ไป
-
5
ปรับแต่งค่าต่างๆ ตามต้องการ. จะมีตัวเลือกขึ้นมาให้คุณเปลี่ยนภาษา รูปแบบเวลาและค่าเงิน ไปจนถึงคีย์บอร์ดหรือวิธีป้อนข้อมูล ให้เลือกตามความเหมาะสม แล้วคลิก Next ได้เลย
-
6
คลิก Install Now. ห้ามคลิก Repair Computer เด็ดขาด ถึงคุณจะบอกว่าที่ติดตั้ง Windows ใหม่นี่ก็เพื่อซ่อมคอมก็เถอะ พอคลิกแล้ว Setup จะเริ่มโหลดไฟล์ที่จำเป็นเพื่อดำเนินการต่อ
-
7
อ่านและยอมรับเงื่อนไขการใช้งานซะก่อน. จะไปยังขั้นตอนต่อไปได้ คุณต้องยืนยันก่อนว่าได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขการใช้งานของ Microsoft แล้ว ใช้เวลาอ่านดูสักหน่อย จะได้รู้สิทธิ์และข้อจำกัดในการใช้งานของคุณ
-
8
เลือกติดตั้งแบบ Custom. จะได้ติดตั้งใหม่ทั้งหมดได้ การฟอร์แมตคอมพิวเตอร์คือการล้างข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง จะได้ติดตั้งใหม่ตั้งแต่ต้น เลือกแล้วจะมีตัวเลือกลบ disk ขึ้นมา
-
9
ลบ partition. จะมีหน้าต่างถามว่าคุณจะติดตั้ง Windows ที่ไหน การจะติดตั้งใหม่ทั้งหมดได้ คุณต้องลบ partition เก่าก่อน แล้วเริ่มใหม่แบบขาวสะอาด ให้คลิกที่ "Drive options (advanced)" คุณจึงจะสามารถลบแล้วสร้าง partition ใหม่ได้
- ให้เลือก partition ของระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่ แล้วคลิกปุ่ม Delete
- ถ้า hard drive ของคุณมีหลาย partition ดูให้ดีว่าลบถูกอัน เพราะถ้าลบผิดจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลมาได้เลย
- ยืนยันว่าต้องการลบจริงๆ
-
10
เลือก Unallocated Space แล้วคลิก Next. คุณไม่จำเป็นต้องสร้าง partition ใหม่ก่อนติดตั้ง Windows 7 เพราะจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ
-
11
รอให้ Windows ติดตั้งไฟล์เสร็จ. เปอร์เซ็นต์ที่อยู่ถัดจาก Expanding Windows files จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานถึง 30 นาที
- พอเสร็จแล้ว Windows จะรีสตาร์ทเครื่องเอง
- Setup จะเริ่มต้นอีกครั้ง โดยมีข้อความบอกว่า Setup กำลังอัพเดท registry settings อยู่
- จากนั้น Setup จะปรับแต่งบริการต่างๆ ของเครื่อง เหมือนทุกครั้งที่คุณเริ่มใช้งาน Windows แต่คราวหน้าจะกลับไปทำงานที่เบื้องหลังเหมือนเดิม
- จะมีหน้าต่างบอกว่า Windows กำลังจะติดตั้งเสร็จสิ้น พอเสร็จแล้วเครื่องก็จะรีสตาร์ทเอง
- ตอนนี้ Setup ก็จะโหลด driver แล้วเช็ค video settings. ขั้นตอนนี้คุณแค่เอนหลังรออย่างเดียว
-
12
ใส่ user name กับ computer name. username ของคุณเอาไว้ใช้ล็อกอินเข้าใช้คอม จะเป็นบัญชีเฉพาะสำหรับคุณ ส่วน computer name เป็นชื่อที่เครื่องของคุณไว้ใช้แสดงบนเครือข่าย
- คุณเพิ่มผู้ใช้อื่นได้ในภายหลัง โดยใช้ control panel ใน Windows 7
- Windows จะถามหา password ซึ่งก็ไม่ได้บังคับแต่ควรจะใส่ไว้ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้คอมเครื่องนี้ร่วมกันกับคนอื่น ถ้าคุณไม่อยากใส่ password ก็แค่ปล่อยช่องนี้ว่างไว้ แล้วคลิก Next
-
13
ใส่ key ของคุณ. หรือก็คือ 25 ตัวอักษรที่มาพร้อมกับ Windows ของคุณตอนซื้อ ให้ติ๊กที่ "Automatically activate Windows when I’m online" ไว้เลย คราวหน้าต่อเน็ตเมื่อไหร่ Windows จะได้ตรวจสอบคีย์เองอัตโนมัติ
-
14
เลือกวิธีการอัพเดท Windows. เพื่อให้แน่ใจว่า Windows ของคุณจะทำงานได้เสถียรและปลอดภัย เราแนะนำให้เลือกตัวเลือกที่ 1 หรือ 2 ก็ได้ โดยตัวเลือกแรกจะติดตั้งทุกการอัพเดทโดยอัตโนมัติ ส่วนตัวเลือกที่ 2 จะขึ้นเตือนบอกคุณเวลามีอัพเดทใหม่ๆ
-
15
ตั้วเวลาและวันที่. ปกติก็จะเป็นวันเวลาที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะมันเชื่อมต่อกับ BIOS ของคุณ แต่คุณสามารถเปลี่ยนได้ถ้ามีอะไรผิดพลาด อย่าลืมติ๊กช่องข้างบนถ้าคุณอยู่ในประเทศที่มีเวลา Daylight Savings
-
16
ตั้งค่าเครือข่าย. ถ้าคอมของคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายใดอยู่ จะมีตัวเลือกให้ระบุเครือข่าย โดยทั่วไปให้เลือก Home หรือ Work network แต่ถ้าเป็นคอมสาธารณะ ให้เลือก Public network คนที่ใช้เน็ตมือถือขอให้เลือก Public network ไว้ก่อน
- หลังจากนี้ Windows จะเริ่มเชื่อมต่อคอมของคุณกับเครือข่ายโดยอัตโนมัติ
-
17
ยินดีต้อนรับสู่หน้าจอ desktop. พอหน้าจอสุดท้ายโหลดเสร็จ คุณก็จะพบกับหน้าจอ desktop ของ Windows 7 แปลว่าขั้นตอนการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โฆษณา
-
1
Backup ข้อมูลซะก่อน. พอฟอร์แมตเครื่องแล้ว ไฟล์กับข้อมูลทั้งหมดของคุณจะหายไป ส่วนโปรแกรมนั้นไม่สามารถ back up ได้ ต้องติดตั้งใหม่ลูกเดียว เพราะฉะนั้นไฟล์ไหนที่คุณอยากเก็บไว้ ไม่ว่าจะเอกสาร ไฟล์เพลง ไฟล์รูป และคลิปต่างๆ ต้อง backup ไว้ในที่ปลอดภัยซะก่อน
- จะ backup ด้วยแผ่น DVD, CD, external hard drive, flash drive หรือเก็บไว้ใน cloud ก็ได้ ตามแต่ปริมาณข้อมูลของคุณ
-
2
Reboot เครื่อง Mac ของคุณก่อน. ระหว่างเครื่องกำลัง reboot ให้กดคีย์ Command + R ค้างไว้ จะเป็นการเปิดเมนู Recovery ขึ้นมา จากนั้นเลือก Disk Utility แล้วคลิก Continue
-
3
ฟอร์แมต disk. เลือก hard drive ที่ต้องการจากกรอบซ้ายมือใน Disk Utility จากนั้นเลือกแถบ Erase ในเมนูที่ขยายลงมาของ Format แล้วเลือก Mac OS Extended (Journaled) ใส่ชื่อลงไปตามต้องการจากนั้นคลิก Erase
- ตอนนี้ข้อมูลทั้งหมดใน disk ก็จะถูกลบหายไป เพราะงั้นอย่าลืม back up ไฟล์สำคัญๆ ไว้ให้ดี
- ปิด Disk Utility หลังจากขั้นตอนการล้างข้อมูลเสร็จสิ้น
-
4
มาเริ่มติดตั้ง Mac OS X กัน. เช็คดูให้ดีว่าต่อเน็ตเรียบร้อย จากนั้นให้เลือก Reinstall Mac OS X คุณต้องยืนยัน license ซะก่อนโดยใส่ Apple ID กับ password ของคุณ พร้อมกดยอมรับข้อตกลงในการใช้งาน
-
5
เลือก disk ที่จะติดตั้ง. ตัวติดตั้งจะถาม disk ที่คุณต้องการเลือกติดตั้ง OS ลงไป ให้เลือก disk ที่คุณเพิ่งลบไปด้วย Disk Utility
-
6
รอจนกว่าการติดตั้งจะเสร็จสิ้น. Mac OS X จะเริ่มติดตั้งโดยอัตโนมัติ คุณแค่รอเฉยๆ ได้เลย อาจมีการ reboot เครื่องบ้างระหว่างการติดตั้ง และพอเสร็จสิ้น หน้าจอ desktop ก็จะปรากฏขึ้นมา
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 45,707 ครั้ง