เสื้อผ้าขึ้นรา ทํา อย่างไร

เสื้อขาวขึ้นรา ทำอย่างไรดี ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยย

คืออยู่คอ แล้วเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ตระกร้าไว้ตรงระเบียง ไม่อยากไว้ในห้องเพราะกลัวห้องเหม็น

กองๆๆรวมๆๆกัน แล้วประเด็นคือฝนตกติดต่อกัน 3วัน4คืน เราก็เห็นว่ามันเปียก แต่ก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร

จึงปล่อยไว้ พอถึงเมื่อวานเราจะซักผ้า ก็ปกติดี แต่เหลือบไปเห็นชุดขาวสองตัว ราขึ้นน่ากลัวมาก ขนลุก

แบบตกใจมากก เกิดอะไรขึ้นกับเสื้อ 2 ตัวนี้ ซึ่งเป็นเสื้อขาวทั้งคู่ ชุดอื่นไม่มีราขึ้นเลย เราไม่รู้ทำไง

เลยใส่เครื่องซักผ้าขาวรวมกันให้หมด ใส่โอโม่ ขจัดครบแบคทีเรีย 99.9% และน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ ดาวนี่ ตามปกติ

หวังว่า คราบราบนผ้าจะหายไป และจะได้ผ้าขาวสะอาด หอมๆๆ กลับคืนมา  พอเครื่องซักผ้าซักเสร็จผลไม่ได้เป็นตามคาดด

มันฝังแน่นติดบนเสื้อผ้าของชั้น อย่างแน่นหนา ชั้นอยากจะร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ภาพผงซักฟอกที่ใช้แล้ว ไม่ได้ช่วยเรื่องเชื้อรา แต่ช่วยเรื่องเชื้อแบคทีเรีย หรอ?

ภาพน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยแต่เรื่องความหอมอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยฆ่าเชื้อไรเลยทั้งสิ้น ชั้นมโนไปเอง

หลังจากที่เอาออกจากเครื่องซักผ้าแล้ว คราบเชื้อรามันยังอยู่ เราเลยหาในกูเกิล

เจอวิธี คือ ใส่ไฮเตอร์ แช่ไว้ 1 คืน เรารีบไปซื้อไฮเตอร์มาวันนั้น เพื่อกะจะมาแช่ไว้คืนนี้

ภาพไฮเตอร์รุ่นนี้ ที่ใช้กันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ผลของมันคือออ ไม่ฆ่าเชื้อรา จ้าาาาา เศร้าาา

ผลก็คือ ผ่านไปหนึ่งคืน ไม่ช่วยไรกูเลยย  มันไม่หายยย มันยังเกาะติดแน่น ตามเนื้อผ้าเหมือนเดิม

ลืมไปว่ามี บรีส ลิคควิกชนิดน้ำเข้มข้น เลยทาป้ายทิ้งไว้ ก่อนแช่ไฮเตอร์ ด้วยซ้ำนะ พลังสองเท่า แต่ไมเป็นแบบนี้

ภาพบรีสกูไม่ช่วยไรกูเลยย หลงเชื่อมานานว่าฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 99% ไมมันม่ออกอ่ะ อีเชื้อราบ้า

และต่อไปนี้มันมีวิธีไหนที่จะหายแล้วบ้าง  ตอนนี้ไม่รู้ทำไงแล้ว เอาออกมาตากให้มันโดนแดด กะว่ามันจะหายไป

ขาวสะอาดเหมือนใหม่ เหมือนเดิม เค้าไม่อยากทิ้งเสื้อผ้าอ่ะ คือผ้าดีมาก สภาพก็ยังดี ใส่นอนสบายสุดๆๆๆ ไม่นะไม่ทิ้ง

ชุดนี้เลย ใส่สบายมาก ขอบอก ทำไมมันต้องขึ้นราด้วยย

ซูมให้ดูชัดๆๆๆๆๆ ขยะแขยงสุดด

ไม่นะเสื้อตัวโปรดของชั้นนน

จะจัดการกับมันอย่างไรดี ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

และตัวที่สอง ห่านคู่

ซูมราห่านคู่  ทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมเปนแบบนี้

คือเชื้อรามันฝังแน่นน่ากลัวมากกกอ่ะ

การที่ราจะขึ้นเสื้อผ้าได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด ยิ่งถ้าเราเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในที่อับชื้น หรือไม่ได้ตากให้แห้งสนิทก่อนที่จะเก็บแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ เราสามารถมองเห็นเชื้อราได้จากจุดสีแปลกๆ ที่ขึ้นอยู่บนเนื้อผ้านั่นเอง หากคุณต้องการจะกำจัดเจ้าเชื้อราออกจากเสื้อผ้า ก็จะต้องซักล้างหรือถูส่วนราด้วยสิ่งที่ทำความสะอาดได้ เช่น น้ำยาขจัดคราบ ผงซักฟอก บอแรกซ์ หรือเบกกิ้งโซดา

1. 1

   ขัดเอาเชื้อราออกด้วยแปรงสีฟัน. หยิบแปรงสีฟันเก่าๆ มาสักอันแล้วใช้ขนแปรงขัดเชื้อราออกจากผ้า ขัดให้ออกได้มากที่สุดไปเลย[1] หลังจากขัดเสร็จก็ให้ทิ้งแปรงนั้นไปทันที

   • นำไปขัดในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หรือไปนอกบ้าน/นอกอาคารได้เลยยิ่งดี สปอร์เชื้อราสามารถเดินทางผ่านอากาศในบ้านแล้วลอยไปติดผ้าชิ้นอื่นได้ ดีไม่ดีคุณอาจสูดเข้าปอดไปเองเลยด้วยซ้ำ

2. 2

   ใช้น้ำยาขจัดคราบ. เมื่อคุณขัดเอาเชื้อราออกไปได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ให้ใช้น้ำยาขจัดคราบเทลงไปในส่วนที่เชื้อราเกาะอยู่นั้นได้เลย[2] โดยน้ำยาขจัดคราบจะต้องใช้เวลาแช่อยู่บนผ้าก่อนสักครู่นะ ฉะนั้นให้รออย่างน้อยสัก 30 นาที ก่อนจะนำผ้าไปซัก

   • น้ำยาขจัดคราบมักมีขายทั่วไปอยู่แล้ว ลองหาซื้อที่แผนกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตามร้านขายของชำใกล้บ้าน หรือซุปเปอร์มาร์เกต ห้างสรรพสินค้าทั่วไปได้เลย

3. 3

   ซักผ้าด้วยน้ำร้อน. ใช้เครื่องซักผ้าที่สามารถซักผ้าในปริมาณมากได้ แล้วให้เลือกโหมดของการซักผ้าจำนวนมาก รวมถึงให้ตั้งอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ "น้ำร้อน" อย่าใส่อย่างอื่นนอกจากผ้าที่ต้องการซักเพื่อกำจัดเชื้อราลงไป ไม่อย่างนั้นสปอร์เชื้อราอาจไปติดกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นเอาได้[3]

   • ถ้าเครื่องซักผ้าของคุณประมาณโหมดของการซักตามน้ำหนักผ้าที่ใส่จริง ให้ใส่พวกผ้าชิ้นเก่าๆ หรือผ้าขนหนูลงไปเพื่อเพิ่มน้ำหนักแทน

4. 4

   ใส่น้ำส้มสายชูลงไปขณะซักผ้า. เมื่อเครื่องซักผ้าเติมน้ำลงไปแล้ว ให้ใส่น้ำส้มสายชูผสมน้ำไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อราจะถูกกำจัดออกไปอย่างแน่นอน โดยให้เทน้ำส้มสายชูใสปริมาณ ¾ ถ้วย (177 มล.) ลงไปในผ้าที่จะซักในเครื่องเลย[4]

   • นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเชื้อราที่ติดบนผ้าได้อีกด้วย

   เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

   ซูซาน สต็อกเกอร์เป็นเจ้าของบริษัท #1 Green Cleaning Company ในซีแอตเทิล เธอโด่งดังในย่านนั้นด้วยการบริการที่โดดเด่น เคยชนะรางวัล Better Business Torch Award for Ethics & Integrity ในปี 2007 และการที่เธอสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิประโยชน์สำหรับลูกจ้าง และการทำความสะอาดแนวรักษ์โลก

   Susan Stocker
   ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ

   ผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยว่า: การซักผ้าในน้ำร้อนพร้อมกับน้ำส้มสายชู จะช่วยฆ่าสปอร์เชื้อราไปได้ถึง 80% และยังช่วยขจัดกลิ่นของราได้เช่นกัน โดยให้เทน้ำส้มสายชูลงไปบนผ้าที่จะซักตรงๆ และไม่ต้องใช้ผงซักฟอกใดๆ ทั้งสิ้น เติมน้ำร้อนลงไปในเครื่อง จากนั้นก็กดหยุดชั่วคราวให้ผ้าแช่อยู่ในน้ำสักชั่วโมงหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยซักอีกครั้งด้วยผงซักฟอกธรรมดาและน้ำที่ปราศจากคลอรีน

5. 5

   ตากผ้าด้วยลมและแดด. คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเชื้อราถูกกำจัดออกไปได้อย่างสิ้นเชิงแล้วหรือยัง จนกว่าผ้าจะแห้งแล้วกลับมามีสีปกติตามเดิม ฉะนั้นต้องผึ่งผ้าให้แห้งบนพื้นผิวเรียบๆ หรือนำไปแขวนไปพาดกับราวแล้วผึ่งลมให้แห้งเสียก่อน[5]

   • ถ้าเป็นวันที่อากาศแจ่มใส ก็สามารถนำผ้าไปตากแดดด้านนอกได้เลย พระอาทิตย์จะให้ความร้อนกับผ้า ซึ่งจะช่วยฆ่าและกำจัดเชื้อราใดๆ ก็ตามบนเสื้อผ้าออกให้ด้วย
   • หลีกเลี่ยงที่จะใช้เครื่องอบผ้า รอจนกว่าผ้าจะแห้งเอง เพื่อดูว่ามีเชื้อรา สีแปลกๆ หรือกลิ่นแปลกๆ หลงเหลืออยู่หรือไม่ การเอาผ้าที่มีเชื้อราไปอบในเครื่องอบผ้า ทำให้สปอร์เชื้อราอาจติดอยู่ในเครื่องอบผ้าต่อไปได้[6]

   โฆษณา

1. 1

   ใช้เครื่องซักผ้าที่ซักด้วย"น้ำร้อน" เมื่อไรก็ตามที่อยากจะจัดการกับเชื้อราที่ติดบนเสื้อผ้า หรือผ้าอื่นๆ ก็ตาม ให้ซักด้วยน้ำร้อนเสมอ. น้ำร้อนจะทั้งฆ่าและกำจัดเชื้อราได้ ขณะที่น้ำอุ่นและน้ำเย็นจะไม่ส่งผลใดๆ กับเชื้อราเลย[7]

   • ใช้น้ำยาฟอกขาวกับเสื้อผ้าสีขาวเท่านั้น เพราะมันอาจทำให้ผ้าสีมีสีที่ซีดลงหรือไปล้างสีของผ้าสีเอาได้ ถ้ามีเชื้อราขึ้นที่ผ้าสี บางทีคุณอาจต้องลองวิธีอื่นดูแล้วล่ะ

2. 2

   ใส่น้ำยาซักผ้าลงไป. เมื่อเติมน้ำร้อนลงไปในเครื่องจนเกือบเต็มพอจะซักผ้าแล้ว ให้ใส่น้ำยาซักผ้าเท่าที่จะใช้ลงไปได้เลย[8]

3. 3

   ใส่น้ำยาฟอกขาวลงไป. เมื่อน้ำยาซักผ้าเริ่มขึ้นฟอง ให้เทน้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วย (237 มล.) ตามลงไปในน้ำ[9] ถ้าเครื่องซักผ้าของคุณมีช่องพิเศษสำหรับใส่ "น้ำยาฟอกขาว" โดยเฉพาะ ก็เทใส่ในช่องนั้นไปเลยก็ได้

   • ต้องดูวิธีใช้ประกอบด้วยว่าจะต้องใช้น้ำยาฟอกขาวเท่าไรต่อผ้าหนักเท่าไร หากฉลากของน้ำยาฟอกขาวบอกว่าควรใช้น้ำยามากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณ 1 ถ้วย ก็ควรทำตามคำแนะนำนั้นๆ นะ

4. 4

   เดินเครื่องซักผ้าตามปกติ. เมื่อคุณใส่น้ำยาซักผ้ากับน้ำยาฟอกขาวลงไปแล้ว ให้เดินเครื่องเพื่อเติมน้ำ จากนั้นก็ใส่ผ้าที่มีเชื้อราขึ้นตามลงไปได้เลย เมื่อผ้าซักเสร็จแล้ว เชื้อราก็จะถูกกำจัดออกไปแล้วล่ะ[10]

   • ถ้าหลังซักเสร็จแล้วเชื้อรายังอยู่ อย่าเพิ่งนำไปตากล่ะ การตากไม่ได้ช่วยกำจัดเชื้อราออกไปได้หรอกนะ

   โฆษณา

1. 1

   เริ่มด้วยตั้งโหมดเครื่องซักผ้าให้ใช้น้ำร้อน. น้ำร้อนมีประสิทธิภาพที่สุดในการกำจัดคราบเชื้อราออกจากเสื้อผ้าของคุณ จากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าที่มีเชื้อราขึ้น กับผงซักฟอกที่ใช้ตามปกติลงไปในถังซักผ้าได้เลย[11] โดยอย่าซักผ้าอื่นรวมกับผ้าที่มีเชื้อราขึ้นในคราวเดียวกันล่ะ

2. 2

   ละลายบอแรกซ์ ½ ถ้วยเข้ากับน้ำร้อน. เติมน้ำร้อนจัดลงไปในหม้อหรือชามผสม เทบอแรกซ์ลงไป ½ ถ้วย (118 มล.) แล้วใช้ช้อนหรือเครื่องครัวอื่นๆ คนให้บอแรกซ์ละลายเข้ากับน้ำร้อนด้วยดี[12]

3. 3

   ใส่ส่วนผสมเมื่อครู่ลงไปในถังซักผ้า. เมื่อบอแรกซ์ละลายเข้ากับน้ำร้อนในชามแล้ว ให้ค่อยๆ เทสารละลายนั้นลงไปในเครื่องซักผ้า[13]

4. 4

   เดินเครื่องซักผ้าตามปกติ. น้ำที่ล้างผ้าครั้งสุดท้ายก็จะล้างเอาสารละลายทำความสะอาดเหล่านี้ที่ใช้กำจัดเชื้อราออกไปหมดนั่นเอง[14]

   • ตากผ้าให้แห้งหลังจากที่ซักเรียบร้อยแล้ว

   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ขณะใช้ผงซักฟอก (หรือน้ำยาขจัดคราบชนิดอื่นๆ) โปรดระวังอย่าให้เข้าตาหรือสัมผัสกับผิวหนัง
• ถ้าคุณกำจัดเชื้อราออกเองไม่ได้ แนะนำให้ไปส่งซักที่ร้าน การส่งซักถือเป็นการกำจัดเชื้อราออกจนหมดจดอย่างมีประสิทธิภาพ[15]

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,787 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม