วิธี ทำความ สะอาดกระจกหน้าต่าง

เคยไหมที่ส่องกระจกแล้วมีรอยเต็มไปหมด เห็นแล้วมันขัดตาแล้วก็กวนใจมากๆ เวลาจะส่องกระจกแต่ละทีก็จะเห็นแต่คราบสกปรกไม่ว่าจะเป็นกระจกแต่งหน้าบนโต๊ะเครื่องสำอาง กระจกในห้องน้ำ และกระจกต่างๆ ในบ้าน สำหรับเคล็ดลับทำความสะอาดบ้านวันนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องกระจกกับ 7 เคล็ดลับเช็ดกระจกให้สะอาดใสไร้คราบกวนใจ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีอะไรดีๆ ที่จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้บ้าง

น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูมีประโยชน์ต่อการทำความสะอาดมากขนาดไหน แถมยังสามารถนำมาเช็ดกระจกให้ใสได้ง่าย ๆ โดยนำมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ นำไปพ่นบนกระจก ตามด้วยใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดออก

น้ำยาล้างจา

น้ำยาล้างจานก็ทำความสะอาดกระจกได้เหมือนกัน โดยเริ่มจากผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วยตวง และน้ำยาล้างจานอีก 3 หยด ให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ขวดสเปรย์ เท่านี้ก็ได้น้ำยาเช็ดกระจกแบบง่าย ๆ มาใช้แล้ว

สเปรย์แอลกอฮอล์

สูตรนี้อาจมีขั้นตอนในการทำแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป แค่ผสมแอลกอฮอล์ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่าอีก 1½ ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงในขวดสเปรย์ เขย่าก่อนฉีดลงบนกระจกแล้วเช็ดออกด้วยผ้าชามัวร์ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์

เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดายังเป็นหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการทำความสะอาดกระจก ก่อนอื่นให้นำน้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง มาผสมกับน้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง และเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ ก่อนนำไปทำความสะอาดกระจก

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

เรียกได้ว่าเป็นสูตรทำความสะอาดที่แถมการฆ่าเชื้อโรคมาด้วย แค่ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ถ้วยตวง สบู่น้ำมันมะกอกสกัด 1-2 หยด และน้ำเปล่า 1 แกลลอน เขย่าหรือคนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์เพื่อนำไปฉีดพ่นและทำความสะอาดกระจกในบ้าน รับรองว่ากระจกใสกริ๊ก แถมยังสะอาดสดชื่น ปลอดภัย ไร้เชื้อโรค

น้ำมะนาว

ใช้น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสบู่ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำส้มสายชูอีก ¼ ถ้วยตวง จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ก่อนนำไปฉีดบนกระจกแล้วใช้ผ้าเช็ดตามอีกครั้ง 

น้ำสบู่

เทสบู่เหลว 3 ช้อนโต๊ะลงในขวดสเปรย์ ตามด้วยน้ำเปล่า ปิดฝาให้สนิท แล้วเขย่าผสมให้เข้ากันดี จากนั้นก็นำไปใช้เช็ดกระจกได้เลย

ลองเอาทั้ง 7 วิธีนี้ไปใช้เช็ดกระจกที่บ้านดูนะคะ รับรองเลยว่ากระจกของคุณจะกลับมาใสปิ๊งไร้คราบกวนใจ และสำหรับไอเทมทำความสะอาดต่างๆ ก็สามารถหาซื้อได้ที่บิ๊กซีทุกสาขาหรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้ คลิก

***นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมที่คุณสามารถเลือกสรรค์กันได้เหมือนไปเดินอยู่ในห้างบิ๊กซีเพียงแค่  คลิก คุณช้อปได้ทันทีที่คุณต้องการทุกที่ทุกเวลา***

บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Ashley Matuska. แอชลีย์ มาตุสกาเป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้ง Dashing Maids ผู้ให้บริการทำความสะอาดที่เน้นด้านความยั่งยืนในเดนเวอร์ โคโลราโด เธอทำงานทางด้านนี้มาเกิน 5 ปี

มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ

การเช็ดกระจกหน้าต่าง ฟังดูง่ายๆ ก็แค่เช็ดให้สะอาด แต่บอกเลยว่ายากจะเช็ดให้สะอาดโดยไม่ทิ้งคราบน้ำไว้ จะเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาเช็ดกระจกขายกันเต็มไปหมด แต่จะผสมใช้เองก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้แบบไหน จุดสำคัญอยู่ที่เทคนิกและอุปกรณ์ที่ใช้ ว่าต้องไม่ทิ้งคราบน้ำหรือน้ำยาไว้หลังกระจกแห้งสนิท

ขั้นตอน

1. รวบรวมอุปกรณ์ทำความสะอาด. จะเช็ดกระจกหน้าต่างให้ใสสะอาด ปราศจากคราบน้ำ ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบมือซะก่อน น้ำยาเช็ดกระจกที่ใช้สะดวก ก็มีตั้งแต่น้ำผสมน้ำยาล้างจาน น้ำผสมน้ำส้มสายชู ไปจนถึงน้ำยาเช็ดกระจกสำเร็จรูป ส่วนอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องใช้ก็มี

   • น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาล้างตะกรัน ถ้าคราบติดทนนาน
   • ที่ขูดหรือใบมีดโกน สำหรับขูดสติกเกอร์ เทป สี และยางไม้ออก
   • เครื่องดูดฝุ่น
   • ฟองน้ำหรือผ้าเช็ดแบบไร้ฝุ่น
   • ยางรีดน้ำขอบบางๆ เอาไว้เช็ดให้แห้ง
   • ผ้าขี้ริ้วหรือผ้าไร้ฝุ่นสะอาดๆ สัก 2 - 3 ผืน
   • ถังน้ำใหญ่ๆ

2. ขจัดคราบติดแน่นทนนาน. ถ้าจะเช็ดกระจกโดยไม่ทิ้งคราบน้ำไว้ สำคัญว่าต้องเริ่มจากขจัดคราบและสิ่งสกปรกตกค้างบนกระจกซะก่อน เช่น ดินเกรอะกรัง ขี้นก สติกเกอร์ เทป สี ยางไม้ และอื่นๆ ที่เหนียวติดแน่น

   • คราบและคราบเหนียวฝังแน่น ส่วนใหญ่ขจัดออกได้ด้วยน้ำส้มสายชูกลั่นขาวหรือน้ำยาล้างตะกรัน จะฉีดพ่นน้ำส้มสายชูที่คราบ แล้วทิ้งไว้ 5 นาทีค่อยเช็ดออก หรือเอาฟองน้ำชุบน้ำยาล้างตะกรันให้ชุ่ม มาเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เลอะก็ได้
   • ถ้าจะขจัดคราบเทป สี และคราบเหนียวอื่นๆ ให้ราดน้ำก่อน แล้วใช้ที่ขูดขูดออก โดยถือที่ขูดทำมุม 45 องศากับกระจก แล้วกดลงไปเบาๆ ดันไปข้างหน้า ใต้เทป

3. ดูดฝุ่นที่กระจก. เวลาเช็ดกระจกหน้าต่าง ฟองน้ำจะเก็บฝุ่นและคราบสกปรกที่กระจก พอเช็ดลากไปก็เกิดเป็นคราบได้ แก้ได้ด้วยดูดฝุ่นหรือทำความสะอาดทั้งกรอบ ขอบ และซี่หน้าต่างก่อนเริ่มเช็ด

   • ถ้าเป็นหน้าต่างในบ้าน ให้ใช้หัวแปรงเล็กๆ เสียบต่อกับเครื่องดูดฝุ่น แล้วดูดฝุ่นหน้าต่างทั้งบาน
   • ถ้าเป็นหน้าต่างนอกบ้าน ให้ใช้ท่อยาวเสียบต่อกับเครื่องดูดฝุ่นแบบพกพา หรือจะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงก็ได้

4. ฉีดน้ำล้างกระจกด้านนอก. กระจกหน้าต่างนอกตัวบ้าน มักจะฝุ่นเขรอะ เลอะดิน และเศษผงอื่นๆ ที่ปลิวเข้ามาในบ้าน ถ้าอยากจะเช็ดกระจกโดยไม่ทิ้งคราบ มีทางเดียวคือต้องขจัดคราบสกปรกและฝุ่นผงออกให้มากที่สุดซะก่อน

   • ใช้สายยางที่ต่อหัวฉีดแรงๆ ไว้ แล้วฉีดน้ำชะล้างทั้งดิน คราบเหนียว คราบเกรอะกรัง สิ่งสกปรกทั้งหลายออกจากกระจกหน้าต่าง

5. ผสมน้ำยาทำความสะอาด. จะใช้น้ำยาทำความสะอาดไหนก็ได้ กระทั่งน้ำยาเช็ดกระจกแบบไร้คราบ เพราะสำคัญกว่าคืออุปกรณ์และเทคนิคในการเช็ดกระจก ถึงจะออกมาใสปิ๊งได้ ให้เตรียมถังน้ำสะอาด แล้วผสมน้ำยาเช็ดกระจกตามต้องการ สูตรที่แนะนำก็เช่น

   • น้ำส้มสายชูกลั่นขาวกับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากัน
   • น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ต่อน้ำ 1 แกลลอน (ประมาณ 4 ลิตร)
   • น้ำยาเช็ดกระจกสำเร็จรูป

6. เช็ดกระจก. เอาฟองน้ำหรือผ้าไร้ฝุ่น ชุบน้ำยาทำความสะอาดในถังจนชุ่ม จากนั้นยกขึ้นมาบีบเบาๆ ให้พอหมาด ใช้เช็ดกระจกหน้าต่างทั้งบาน โดยออกแรงกดเบาๆ ปาดให้น้ำยาเคลือบทั่วถึง

   • จะเช็ดกระจกในทิศทางไหนก็ได้ตามสะดวก เช่น เช็ดวน เช็ดขึ้นและลง หรือเช็ดกลับไปกลับมาแบบซิกแซก
   • เช็ดกระจกทุกตารางนิ้ว ให้แน่ใจว่าไม่เหลือคราบและสิ่งสกปรก
   • ล้างและเช็ดให้แห้งทีละบานไป อย่าเช็ดทีเดียวพร้อมๆ กัน

7. เช็ดกระจกให้แห้ง. พอลงน้ำยาที่กระจกแล้ว ให้ใช้แถบยางรีดน้ำปาดน้ำออก เริ่มจากด้านบนของหน้าต่าง ปาดยางแนวนอนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ทุกครั้งที่ปาด ให้ใช้ผ้าไร้ฝุ่นเช็ดแถบยางให้แห้งซะก่อน

   • ให้แต่ละครั้งที่ปาด ซ้อนทับรอยเดิมประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) แล้วปาดไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงขอบล่างของหน้าต่าง จนหน้าต่างทั้งบานแห้งสนิท
   • เวลาปาดน้ำจากกระจก แถบยางรีดน้ำต้องแนบไปกับกระจกทุกครั้งที่ปาด
   • ย้ำว่าต้องใช้ยางรีดน้ำแถบใหม่เอี่ยม ยังบางเฉียบอยู่ เพราะการปาดน้ำจากกระจกหน้าต่าง เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ทำให้กระจกสะอาดไร้คราบ

   แอชลีย์ มาตุสกาเป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้ง Dashing Maids ผู้ให้บริการทำความสะอาดที่เน้นด้านความยั่งยืนในเดนเวอร์ โคโลราโด เธอทำงานทางด้านนี้มาเกิน 5 ปี

   

   ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ: กระจกจะออกมาแห้งสนิทไร้คราบ ถ้าเริ่มปาดน้ำจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุม โดยไม่ยกยางรีดน้ำขึ้นจากกระจกเลย แบบนี้จะไม่เหลือน้ำเลอะกระจก ตามด้วยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดตามขอบและมุมกระจกหน้าต่าง เพื่อไม่ให้น้ำยาไหลอยู่ตามกระจกที่เช็ดสะอาดแล้ว

8. เช็ดน้ำที่เหลือให้หมด. พอล้างและเช็ดกระจกแต่ละบานแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดน้ำที่ยังหยดหรือเปียกอยู่ตามขอบหน้าต่างหรือพื้นให้แห้ง

   • การเช็ดน้ำที่เหลือให้แห้ง ไม่ได้ช่วยเรื่องคราบน้ำ แค่กันราขึ้นและไม่ให้หน้าต่างแฉะจนผุเท่านั้นเอง

9. ยางรีดน้ำต้องแห้งอยู่เสมอ. ยางรีดน้ำแห้งๆ นี่แหละ อีกปัจจัยสำคัญช่วยให้หน้าต่างสะอาดปราศจากคราบน้ำ ถ้าปล่อยให้ยางรีดน้ำเปียก จะกลายเป็นทิ้งคราบน้ำไว้ที่กระจกแทน พอน้ำแห้งจะเห็นเป็นเส้นเลย

   • ใช้ผ้าแห้งเช็ดยางรีดน้ำทุกครั้งที่ปาดน้ำที่กระจก และทุกครั้งที่เริ่มเช็ดกระจกบานใหม่

10. เปลี่ยนน้ำยาเมื่อจำเป็น. พอน้ำเริ่มสกปรก ไม่ใสและสะอาดแล้ว ให้เทน้ำทิ้งแล้วเติมน้ำยาทำความสะอาดใหม่ ถ้ายังเหลือกระจกต้องเช็ด

    • ถ้าใช้น้ำเก่าที่สกปรกแล้ว จะทิ้งคราบและฝุ่นผงไว้บนกระจก ทำให้กระจกไม่ใสอย่างที่ควร

1. อย่าปาดน้ำแล้วอยู่ๆ ยกแถบยางขึ้นจากกระจก. ตอนใช้ยางรีดน้ำปาดกระจกให้แห้งในแนวนอน จุดสำคัญอยู่ที่แถบยางต้องแนบไปกับกระจกตลอดเวลา ถ้าเผลอยกลอยขึ้นมา จะทิ้งคราบน้ำไว้แน่นอนหลังจากกระจกแห้งแล้ว

   • ถ้าอยากให้แน่ใจว่าแถบยางจะแนบสนิทไปกับกระจก ตอนปาดน้ำจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของกระจก ให้ออกแรงกดเล็กน้อย

2. ต้องใช้น้ำกรองเท่านั้นเวลาเช็ดกระจก. ห้ามใช้น้ำชนิดอื่นๆ ที่มีแร่ธาตุหรือองค์ประกอบอื่นๆ หลงเหลืออยู่ เพราะจะทิ้งรอยและคราบไว้ได้ หลังกระจกแห้งแล้ว

   • เวลาน้ำที่ไม่ใช่น้ำกรองแห้งไปกับกระจก จะทิ้งคราบไว้ เกิดจากตะกอนและแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำ จะเห็นเป็นรอยชัดเจนบนกระจกเลย

3. อย่าหยุดล้างหรือเช็ดกระจกกลางคัน. น้ำยาทำความสะอาดที่ถูกทิ้งไว้ให้แห้งบนกระจก ไม่ทันได้เช็ดออก จะทิ้งรอยหรือคราบน้ำไว้บนกระจก

   • เพราะฉะนั้นห้ามหยุดล้างหรือเช็ดกระจกกลางคันเด็ดขาด ไม่ว่าเวลาใช้น้ำยาหรือยางรีดน้ำก็ตาม
   • พอเริ่มล้างกระจกแล้ว ให้ลงมือจนเสร็จสิ้นขั้นตอนโดยเร็วที่สุด จะได้แน่ใจว่าน้ำยาทำความสะอาดไม่ถูกทิ้งไว้บนกระจกนานเกินไปจนแห้ง

4. อย่าใช้ผ้าซับน้ำอเนกประสงค์มาเช็ดกระจก. เวลาเช็ดกระจกด้วยผ้าซับน้ำอเนกประสงค์ จะเหมือนกับถูทั้งคราบสกปรกและน้ำไปมาบนกระจก ไม่ได้ล้างและเช็ดให้แห้งอย่างที่ควรจะเป็น

   • จริงๆ แล้วกระจกหน้าต่างไม่ได้เรียบเนียนอย่างที่เห็น เป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณใช้ผ้าเช็ดกระจกให้แห้ง จะยังเหลือทั้งน้ำและน้ำยาอยู่ตามจุดต่างๆ ของกระจก ทำให้เกิดคราบได้
   • ถ้าเป็นยางรีดน้ำจะเหมาะนำมาเช็ดกระจกให้แห้งแบบไม่ทิ้งคราบไว้มากที่สุด เพราะไม่ใช่การซับน้ำจากอีกที่แล้วลากไปไว้ที่จุดอื่นแทน

5. อย่าเช็ดกระจกด้วยหนังสือพิมพ์. คนส่วนใหญ่นิยมใช้หนังสือพิมพ์เวลาล้างและเช็ดกระจกให้แห้ง แต่บอกเลยว่าจะเลอะเทอะ และมักทิ้งคราบไว้ด้วย 2 สาเหตุก็ตาม

   • ข้อแรกคือหนังสือพิมพ์จะลากสิ่งสกปรก น้ำ และน้ำยาไปมา เหมือนผ้าซับอเนกประสงค์
   • ข้อสองคือหมึกพิมพ์จะซึมออกมา ทิ้งคราบดำๆ ไว้ทั่วกระจกไปหมด

6. อย่าใช้ขวดฉีดพ่น. ใช้ขวดแบบฉีดพ่นแล้วน้ำยาจะติดกระจกไม่ทั่วถึง ตรงนั้นมาก ตรงนี้น้อย แถมรับประกันไม่ได้ว่าจะลงน้ำยาแล้วทำความสะอาดกระจกได้ทุกตารางนิ้ว ถ้าล้างกระจกไม่ทั่วถึง ก็จะมีบางส่วนเป็นคราบแน่นอน

   • จะดีกว่าถ้าใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำยาให้ชุ่ม เพราะสามารถลงน้ำยาที่กระจกได้ทั่วถึง ปาดเคลือบไปทั่วทั้งบาน

1. ให้เช็ดกระจกวันที่ฟ้าครึ้มหน่อย. หนึ่งในสาเหตุทำกระจกเป็นคราบ ก็คือตัวน้ำยาทำความสะอาดเองนั่นแหละ จะเกิดขึ้นเมื่อทิ้งน้ำยาทำความสะอาดไว้บนกระจกนานเกินไปจนแห้ง ถ้าลงน้ำยาแล้วไม่รีบเช็ดออก ก็เกิดคราบแน่นอน

   • ถ้าเป็นวันที่แดดจ้า น้ำยาทำความสะอาดจะแห้งเร็วเกินไป ไม่ทันได้เช็ดออกก็แห้งแล้ว ทำให้มีความเสี่ยงสูงมากว่ากระจกจะเป็นคราบ
   • ป้องกันได้โดยรอเช็ดกระจกในวันที่แดดร่ม ฟ้าครึ้มหน่อย

2. เลือกวันที่ลมสงบ. กระแสลมก็เป็นอีกปัจจัยทำน้ำยาแห้งคากระจกก่อนเวลาอันควร ทำให้เกิดคราบไม่พึงประสงค์ ให้รอเช็ดกระจกในวันที่ลมไม่แรง จริงๆ แล้วไม่ค่อยมีลมได้ยิ่งดี

   • นอกจากลมแรงแล้วทำให้น้ำยาแห้งเร็ว ยังจะเป่าเศษผงและฝุ่นฟุ้งเกาะกระจกที่อุตส่าห์เพิ่งเช็ดด้วย

3. เลือกวันที่ฝนไม่ตก. นอกจากฝนก็คือน้ำดีๆ นี่เองแล้วยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุ มลภาวะ สิ่งสกปรก และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ที่ทิ้งคราบและรอยเปื้อนบนกระจกที่เพิ่งเช็ดได้ ป้องกันได้โดยเปลี่ยนมาเช็ดกระจกวันที่ฝนไม่ตกแทน