- พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547มีกี่หมวด กี่มาตรา
- 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 6 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- 9 หมวด 87 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 7 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ก. 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- ข้อใด ไม่ได้หมายถึง”วิชาชีพบัญชี”
- วิชาชีพในด้านการทำบัญชี
- วิชาชีพในด้านการศึกษาและเทคโนโลยีการบัญชี
- วิชาชีพในด้านการวางระบบบัญชี
- เป็นวิชาชีพบัญชีทุกข้อ
ตอบ ง. เป็นวิชาชีพบัญชีทุกข้อ
“วิชาชีพบัญชี” หมายความว่า วิชาชีพในด้านการทำบัญชี ด้านการสอบบัญชี ด้านการบัญชีบริหาร ด้านการวางระบบบัญชี ด้านการบัญชีภาษีอากร ด้านการศึกษาและเทคโนโลยีการบัญชี และบริการเกี่ยวกับการบัญชีด้านอื่นตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
- สภาวิชาชีพบัญชีมีฐานะเป็นอะไร
- มหาชน ค. เอกชน
- นิติบุคคล ง. หน่วยงานอิสระ
ตอบ ข. นิติบุคคล
มาตรา ๖ ให้มีสภาวิชาชีพบัญชี มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพบัญชี
- ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชี
- กำหนดจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
- กำหนดมาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี และมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี
- รับรองหลักสูตรการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการและการศึกษาต่อเนื่องในด้านต่างๆของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
- เป็นหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชี
ตอบ ง. เป็นหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชี
มาตรา ๗ สภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ส่งเสริมการศึกษา การอบรม และการวิจัยเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี
(๒) ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก จัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ระหว่างสมาชิก
(๓) กำหนดมาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี และมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี
(๔) กำหนดจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
(๕) รับขึ้นทะเบียนการประกอบวิชาชีพบัญชี ออกใบอนุญาต พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
(๖) รับรองปริญญาหรือประกาศนียบัตรในวิชาการบัญชีของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการรับสมัครเป็นสมาชิก
(๗) รับรองความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพบัญชี
(๘) รับรองหลักสูตรการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการและการศึกษาต่อเนื่องในด้านต่าง ๆ ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
(๙) ควบคุมความประพฤติและการดำเนินงานของสมาชิกและผู้ขึ้นทะเบียนอันเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพบัญชีให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพบัญชี
(๑๐) ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้บริการวิชาการแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชี
(๑๑) ออกข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(๑๒) เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
(๑๓) ให้คำปรึกษาและเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายและปัญหาของวิชาชีพบัญชี
(๑๔) ดำเนินการอื่นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชีตามพระราชบัญญัตินี้
- สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีมีกี่ประเภท
- 5 ประเภท ค. 3 ประเภท
- 4 ประเภท ง. 2 ประเภท
ตอบ ข. 4 ประเภท
มาตรา ๑๒ สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีมีสี่ประเภท ดังนี้
(๑) สมาชิกสามัญ
(๒) สมาชิกวิสามัญ
(๓) สมาชิกสมทบ
(๔) สมาชิกกิตติมศักดิ์
- สมาชิกสามัญต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ากี่ปี
- ไม่ต่ำกว่า 30 ปี ค. ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- ไม่ต่ำกว่า 25 ปี ง. ไม่ต่ำกว่า 18 ปี
ตอบ ค. ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- สมาชิกสมทบต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ากี่ปี
- ไม่ต่ำกว่า 30 ปี ค. ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
- ไม่ต่ำกว่า 25 ปี ง. ไม่ต่ำกว่า 18 ปี
ตอบ ง. ไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของสมาชิกกิตติมศักดิ์
- ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพบัญชีและปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547
- แสดงความคิดเห็นในการประชุมใหญ่
- ออกเสียงลงคะแนนในการประชุมใหญ่
- ชำระค่าบำรุงสมาชิกหรือค่าธรรมเนียม
ตอบ ค. ออกเสียงลงคะแนนในการประชุมใหญ่
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญมีดังต่อไปนี้
(1) แสดงความคิดเห็นในการประชุมใหญ่
(2) ออกเสียงลงคะแนนในการประชุมใหญ่
(3) เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับแต่งตั้ง เป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งอื่นอันเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพบัญชี
(4) สมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนเข้าชื่อเสนอร่างข้อบังคับต่อสภาวิชาชีพบัญชีได้
(5) สมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคนเข้าชื่อกันทำหนังสือร้องขอให้นายกสภาวิชาชีพบัญชีเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้
(6) ชำระค่าบำรุงสมาชิกหรือค่าธรรมเนียม
(7) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพบัญชีและปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547
(8) สิทธิและหน้าที่อื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
สมาชิกวิสามัญ
สมาชิกสมทบ และสมาชิกกิตติมศักดิ์ มีสิทธิและหน้าที่ตาม (1) (6) (7) และ (8)
- ใครเป็นประธานในคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี
- เลขาธิการสภาวิชาชีพบัญชี ค. นายกสภาวิชาชีพบัญชี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ง. ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ตอบ ค. นายกสภาวิชาชีพบัญชี
มาตรา ๒๒ ให้มีคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี ประกอบด้วย
(๑) นายกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิกสามัญ
(๒) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชีทุกด้าน ประธานคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชี และประธานคณะกรรมการจรรยาบรรณ
(๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งนายกสภาวิชาชีพบัญชีและกรรมการโดยตำแหน่งตาม (๒) มีมติแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับวิชาการบัญชีสองคน และผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านกฎหมายหนึ่งคน
(๔) กรรมการซึ่งที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งจากสมาชิกสามัญ มีจำนวนไม่เกินห้าคน
ให้เลขาธิการสภาวิชาชีพบัญชีเป็นกรรมการและเลขานุการ และจะให้มีผู้ช่วยเลขานุการก็ได้ตามความจำเป็นและตามมติของคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี
- คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีมีวาระการดำรงตำแหน่งกี่ปี
- 3 ปี ค. 1 ปี
- 2 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ก. 3 ปี
มาตรา ๒๓ นายกสภาวิชาชีพบัญชี และกรรมการตามมาตรา ๒๒ (๓) และ (๔) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี
- ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชี
- บริหารกิจการของสภาวิชาชีพบัญชีให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
- จัดให้มีการประชุมใหญ่
- เสนอร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชีในกิจการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิชาชีพบัญชี
- กำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี
ตอบ ง. กำหนดและปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี
มาตรา ๒๘ ให้คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) บริหารกิจการของสภาวิชาชีพบัญชีให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
(๒) กระทำกิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชีตามพระราชบัญญัตินี้
(๓) เสนอร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชีในกิจการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิชาชีพบัญชี
(๔) จัดให้มีการประชุมใหญ่
(๕) ออกระเบียบเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
- คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชี มีจำนวนเท่าใด
- ไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 11 คน ค. 12 คน
- ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 10 คน ง. 10 คน
ตอบ ก. ไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 11 คน
มาตรา ๓๓ ให้มีคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์เกี่ยวกับการบัญชี มีจำนวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคนแต่ไม่เกินสิบเอ็ดคน และผู้แทนกรมการประกันภัย ผู้แทนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้แทนกรมสรรพากร ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นกรรมการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี
- มาตรฐานการบัญชีต้องจัดทำเป็นภาษาใด
- ภาษาอังกฤษ ค. ภาษาอังกฤษและภาษาไทย
- ภาษาไทย ง. ภาษาใดก็ได้
ตอบ ข. ภาษาไทย
- ผู้ใดจะเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต้องได้รับใบอนุญาตจากใคร
- สภาวิชาชีพบัญชี
- คณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชี
- คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ ก. สภาวิชาชีพบัญชี
มาตรา ๓๘ ผู้ใดจะเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต้องได้รับใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพบัญชี
- ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
- เป็นสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญ
- ผ่านการทดสอบหรือฝึกอบรมหรือฝึกงานหรือเคยปฏิบัติงานเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชีมาแล้วตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
- กรณีเป็นสมาชิกวิสามัญซึ่งเป็นคนต่างด้าวต้องเป็นผู้มีความรู้ภาษาไทยดีพอที่จะสามารถสอบบัญชีและจัดทำรายงานเป็นภาษาไทยได้ และมีภูมิลำเนาในประเทศไทย
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๓๙ ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง แต่ในกรณีเป็นสมาชิกวิสามัญซึ่งเป็นคนต่างด้าวต้องเป็นผู้มีความรู้ภาษาไทยดีพอที่จะสามารถสอบบัญชีและจัดทำรายงานเป็นภาษาไทยได้ และมีภูมิลำเนาในประเทศไทย และเมื่อได้รับใบอนุญาตแล้วต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวด้วย จึงจะปฏิบัติงานเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้
(๒) ผ่านการทดสอบหรือฝึกอบรมหรือฝึกงานหรือเคยปฏิบัติงานเกี่ยวกับวิชาชีพบัญชีมาแล้วตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(๓) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เนื่องจากกระทำความผิดตามมาตรา ๒๖๙ มาตรา ๓๒๓ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์เว้นแต่ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี กฎหมายว่าด้วยผู้สอบบัญชี หรือกฎหมายว่าด้วยการกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ เฉพาะที่เกี่ยวกับการรับรองงบการเงินหรือบัญชีอื่นใดอันไม่ถูกต้องหรือทำรายงานเท็จหรือความผิดตามหมวด ๕ และหมวด ๖ แห่งพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ต้องคำพิพากษาหรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(๔) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๕) มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี