เนื่องจากขณะนี้ช่องทาง Contact center 1324 ระบบขัดข้องและกำลังรีบดำเนินการแก้ไขค่ะ
โดยลูกค้าสามารถติดต่อผ่านเบอร์โทร 02-026-6555 , 02-904-2000 ได้ชั่วคราว หรือติดต่อผ่านช่องทาง PowerBuy Facebook Chat, Live chat
เนื่องจากขณะนี้ช่องทาง Contact center 1324 ระบบขัดข้องและกำลังรีบดำเนินการแก้ไขค่ะ
โดยลูกค้าสามารถติดต่อผ่านเบอร์โทร 02-026-6555 , 02-904-2000 ได้ชั่วคราว หรือติดต่อผ่านช่องทาง PowerBuy Facebook Chat, Live chat
ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคา
ใช้คะแนนได้สูงสุด
5994 คะแนน
รายละเอียดสินค้า
ขนาดถังซัก : 9 กิโลกรัม
รอบปั่นหมาด : 700 รอบ/นาที
โปรแกรมการซัก : 6 โปรแกรม
ระบบมอเตอร์ : DIM
ข้อมูลสินค้า
คุณลักษณะ
การจัดส่งสินค้า
SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาบน (9 kg) รุ่น WA90M5110SG/ST
รายละเอียดสินค้า
ขนาดถังซัก : 9 กิโลกรัม
รอบปั่นหมาด : 700 รอบ/นาที
โปรแกรมการซัก : 6 โปรแกรม
ระบบมอเตอร์ : DIM
รายละเอียดสินค้า
ขนาดถังซัก : 9 กิโลกรัม
รอบปั่นหมาด : 700 รอบ/นาที
โปรแกรมการซัก : 6 โปรแกรม
ระบบมอเตอร์ : DIM
ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคา
ใช้คะแนนได้สูงสุด
5994 คะแนน
สาระน่ารู้ กับหน่วยกิโลกรัมของถังซัก
🤔เคยสงสัยไหมว่าความจุถังซักของเครื่องซักผ้ามีหน่วยวัดความจุกันเท่าไหร่นะ. ซึ่งวันนี้เราจะมาสรุปรายละเอียดให้ดูกันว่า หน่วยความจุของถังซักวัดยังไง
.
จากปริมาณผ้าแห้งที่จะนำเข้าเครื่องในการซัก 1 ครั้ง ไม่ได้วัดจากน้ำหนักผ้าตอนผ้าเปียกนะครับ การวัดน้ำหนักผ้าแห้งเป็นกิโลกรัมต่อถังซักจะใช้เกณฑ์การแบ่งน้ำหนักตามประเภทของผ้า มาตรฐานสากลกันไว้ดังนี้ครับ
.
เสื้อทั่วไป
จำนวน 25-30 ชิ้น น้ำหนักจะอยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 36-45 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
กางเกงทั่วไป
9-12ชิ้น น้ำหนักจะอยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 13-16 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
ผ้าปูที่นอน
10-13 ชิ้น อยู่ที่ 5-6.9 กิโลกรัม, 14-17 ชิ้นน้ำหนักจะอยู่ที่ 7-8.9 กิโลกรัม
ส่วนผ้านวมนั้นจะซักได้เฉพาะเครื่องที่มีถังความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไป
.
และนี้คือการดูคร่าวๆ หวังว่าคงพอเป็นแนวทางสำหรับท่านที่กำลังสังสัยเรื่อง การเลือกขนาดถังซักครับ 😁
.
👉นอกจากนี้หากใครสนใจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เรายังมีบริการขาย มีให้เลือกกันหลากหลายขนาด พร้อมบริการให้ครบวงจร สนใจติดต่อได้เลยครับ ☎️โทรเลย . 02-101-2036 , 089 000 4694
ทางเราพร้อมบริการให้ลูกค้าทุกท่านครับ😍
เครื่องซักผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานที่มีไลฟ์สไตล์แบบชีวิตที่เร่งรีบ จึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้มีวางจำหน่ายหลายรุ่นหลายแบบที่แตกต่างกันไป นอกจากเรื่องของประเภทตัวเครื่อง วัสดุที่ใช้ทำ และโปรแกรมการซักที่แตกต่างกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างและส่งผลต่อปัจจัยด้านราคาของเครื่องด้วยก็คือ เรื่องความจุของตัวถังซัก ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีหน่วยวัดความจุเป็นกิโลกรัม แต่ทว่าหน่วยกิโลกรัมที่ใช้วัดนี้เขาพิจารณากันจากน้ำหนักของผ้าตอนเปียกหรือตอนแห้งกันนะ มาหาคำตอบกับเรื่องน่ารู้กันเลยดีกว่า เวลาจะเลือกซื้อจะได้มั่นใจมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันจะเห็นว่าเครื่องซักผ้าได้มีการผลิตออกมาจำหน่ายตามท้องตลาดมีหลากหลายแบบ หลายฟังก์ชั่น หลายขนาด การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของตัวเองหรือใช้ภายในครอบครัว นอกจากเรื่องฟังก์ชั่น การซัก วัสดุและราคาของเครื่องซักผ้าแล้ว อาจจะต้องพิจารณาถึงขนาดเครื่องซักผ้าด้วย ว่าเหมาะสมกับปริมาณเสื้อผ้าที่ซัก และพอดีกับพื้นที่ภายในบ้านหรือไม่ เช่น หากอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก หรือคอนโด อาจมีพื้นที่ไม่มาก ที่จะใช้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ วันนี้จึงมีเทคนิคการเลือกขนาดเครื่องซักผ้า ให้เหมาะกับการใช้งาน และพอดีกับพื้นที่มาแนะนำกัน
วิธีเลือกเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมกับพื้นในบ้าน
ก่อนจะคิดว่าควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหน หรือเลือกรุ่นไหนดี ควรเริ่มสำรวจก่อนว่ามีพื้นที่ภายในบ้าน กว้างสำหรับวางเครื่องซักผ้ามากแค่ไหน
ขนาดพื้นที่ | รูปแบบเครื่องซักผ้า |
พื้นที่ 60 – 48 เซนติเมตร | เครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดใหญ่ |
พื้นที่ 48 – 34 เซนติเมตร | เครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดเล็ก |
พื้นที่ 45 – 40 เซนติเมตร | เครื่องซักผ้าฝาบน |
วิธีเลือกความจุของเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์
ความจุของถังเครื่องซักผ้ามีหลายขนาด บ้างคนก็อาจคิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งคุ้ม แต่จริงๆ แล้วไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็มีข้อเสียต่างกัน ทั้งเรื่องของพื้นที่และเวลาในการซัก สิ่งสำคัญให้สังเกตว่าซักผ้าบ่อยแค่ไหน กี่ครั้งต่อสัปดาห์
ความถี่ในการซักผ้า | ความจุเครื่องซักผ้าที่เหมาะสม |
น้อยกว่า 4 ครั้ง / สัปดาห์ | 5 – 7 กิโลกรัม |
4-6 ครั้ง / สัปดาห์ | 7 – 9 กิโลกรัม |
มากกว่า 6 ครั้ง / สัปดาห์ | 10 กิโลกรัมขึ้นไป |
วิธีเลือกความจุของเครื่องซักผ้าตามจำนวนผ้า
เครื่องซักผ้าแต่ละกิโลฯ ซักผ้าได้กี่ชิ้น? ความจุถังซักของเครื่องซักผ้า จะมีหน่วยวัดความจุเป็นกิโลกรัม ซึ่งเป็นหน่วยวัดน้ำหนักของผ้าแห้ง (ไม่ได้วัดการจากน้ำหนักผ้าตอนเปียก) ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนผ้ากับความจุของถังซักผ้าเป็นกิโลกรัม จะมีการกำหนดมาตรฐานสากลกันเอาไว้ ดังนี้
ความจุของเครื่องซักผ้า | จำนวนชิ้นของผ้าแห้ง |
5-7 กิโลกรัม | ประมาณ 25 – 30 ชิ้น |
7-9 กิโลกรัม | ประมาณ 30 – 45 ชิ้น |
9-11 กิโลกรัม | ประมาณ 50 – 65 ชิ้น |
11 กิโลกรัม | จำนวน 50 ชิ้น ขึ้นไป |
มาตรฐานน้ำหนักของผ้าแต่ละประเภท
ความจุของถังเครื่องซักผ้า อาจเฉลี่ยตามจำนวนชิ้นของผ้าแห้งได้แบบคร่าวๆ ซึ่งตามจริงแล้วผ้าแต่ละประเภทก็มีขนาด ลักษณะ รวมไปถึงน้ำหนักที่ต่างกัน ในการเลือกความจุถังเครื่องซักผ้า อาจต้องคำนวณจากประเภทผ้าที่เราต้องการซักด้วย
- ประเภทเสื้อบุรุษและสตรี : 25 -30 ชิ้น น้ำหนักอยู่ที่ 5 – 7 กิโลกรัม / 35 – 45 ชิ้นน้ำหนักอยู่ที่ 7 – 9 กิโลกรัม
- ประเภทกางเกงบุรุษและสตรี : 9 – 12 ชิ้น น้ำหนักกอยู่ที่ 5 – 7 กิโลกรัม / 13 – 16 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 9 กิโลกรัม
- ประเภทผ้าปูที่นอน : 10 – 13 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 7 กิโลกรัม / 14 – 17 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 9 กิโลกรัม
- ประเภทปลอกหมอน 25 -35 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 6.9 กิโลกรัม, 35 – 45 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 9 กิโลกรัม
ส่วนประเภทผ้านวมนั้นจะสามารถซักได้เฉพาะเครื่องที่มีถังซักความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งถ้ามองเฉลี่ยนกันแบบง่าย ๆ แล้ว โดยทั่วไป ถ้ามีสมาชิกในบ้าน 1 – 3 คน ก็จะมีปริมาณเสื้อผ้าต่อการซัก 1 ครั้งอยู่ที่ 3 – 5 กิโลกรัม ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกความจุของถังซักได้สอดคล้องกับปริมาณผ้าและจำนวนสมาชิกในบ้านมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
รวม 5 คำถามน่ารู้ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
คำถามข้อ 1
Q : เครื่องซักผ้า ที่กำหนดขนาดต่างๆ (10 , 12 , 14 กิโล) คือน้ำหนักของอะไร
A : เป็นน้ำหนักของผ้าแห้งที่สามารถใส่ในถังซักได้
คำถามข้อ 2
Q : เครื่องซักผ้า อบผ้า ถ้าต้องใช้ซักอบผ้านวม หมอน ควรใช้เครื่องกี่กิโลกรัม
A : ขึ้นอยู่กับ ขนาด และ ความหนาของผ้านวม ถ้าผ้านวมไม่หนามาก ใช้ขนาด ประมาณ 7-8 กิโล ก็สามารถซักผ้านวมได้ แต่หากเป็นผืนหนามาก ให้ใช้เครื่องฝาบนขนาด 12 กิโลแทน
คำถามข้อ 3
Q : เครื่องซักผ้ารุ่นฝาหน้า หรือฝาบนดีกว่ากัน
A : ฝาหน้า ฝาบน หลักการทำงานต่างกัน
- ฝาบน ใช้การปั่นน้ำ ให้น้ำผ่านผ้า ไม่ค่อยถนอมผ้า ความสะอาดเป็นรอง เปลืองน้ำ ประหยัดไฟ (ซักเร็ว)
- ฝาหน้า ใช้การปั่นให้ผ้าหมุนไปด้านบนแล้วตกมากระทบน้ำ จึงถนอมผ้ามากกว่า โอกาสที่ผ้าจะพันกันน้อยกว่า ความสะอาดล้ำลึกกว่า ประหยัดน้ำ แต่เปลืองไฟมากกว่า (ซักนานกว่า)
คำถามข้อ 4
Q : ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างไร?
A : น้ำส้มสายชู ไฮเตอร์ เบกกิ้งโซดา หรือผงล้างทำความสะอาดก็ได้ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องซักผ้าแบบมีระบบทำความสะอาดตัวเองแล้วด้วยเช่นกัน
คำถามข้อ 5
Q : เครื่องซักผ้ามีปัญหาปั่นผงซักฟอกไม่เกลี้ยง แก้ไขอย่างไร?
A : อาจจะเกิดจากปัญหาใส่ผ้าแน่นไป น้ำน้อย ซักไม่ทั่วถึง หรือใส่ผงซักฟอกเยอะเกินไป ทางแก้ไขคือควรใส่ผ้าซักและผงซักฟอกให้พอดีกัน
รู้หรือไม่? น้ำหนักของผ้า มีผลต่อการปั่นหมาด
นอกจากเรื่องน้ำหนักของผ้าจะส่งผลต่อเรื่องการเลือกความจุถังซักที่วัดน้ำหนักกิโลกรัมตามประเภทของผ้าแล้ว น้ำหนักของผ้ายังเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาเรื่องของประสิทธิภาพการปั่นหมาดของเครื่องซักผ้าแต่ละเครื่องด้วย
ซึ่งการปั่นหมาดผ้านั้นภายในถังซักมักจะทำอุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศาขึ้นไป หากผ้ามีน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม เครื่องไหนที่มีจำนวนรอบการหมุนปั่นหมาดอยู่ที่ 600 – 700 รอบต่อนาที เวลาที่ใช้เฉลี่ยในการปั่นหมาดก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมากประสิทธิภาพของระบบการปั่นหมาดก็จะดีขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงอาจจะใช้เวลาเฉลี่ยน้อยกว่านั้น
สมมุติว่าเครื่องในสมัยก่อนที่มีจำนวนรอบการหมุนปั่นหมาดอยู่ที่ 1000 – 2000 รอบต่อนาที ผ้า 2.5 กิโลกรัม อาจจะใช้เวลาปั่นหมาดอยู่ที่ 50 นาที แต่ปัจจุบันอาจจะลดลงมาเหลือ 40 – 45 นาที อย่างนี้เป็นต้น แต่ถ้าน้ำหนักผ้าเพิ่มขึ้นไปเครื่องก็อาจจะใช้เวลาปั่นหมาดเท่าเดิมอยู่ที่ 50 นาที ข้อมูลเหล่านี้จึงต้องศึกษาควบคู่กันไปด้วยก็จะทำให้คุณเลือกซื้อกันได้ตรงความต้องการในการใช้งานมากยิ่งขึ้น