เรื่องนี้มีที่มา จากเรื่องในพุทธประวัติที่ว่า ท้าว สหัมบดีพรหมมาอาราธนาพระพุทธเจ้าให้แสดงธรรมโปรดสัตว์โลก ซึ่งระพุทธเจ้าได้พิจารณาสัตว์โลกอุปมาเหมือนดอกบัวในแง่มุมต่างๆ ก่อน ที่จะตอบรับอาราธนาท้าวสหัมบดีพรหม ส่วนใหญ่เข้าใจว่า ดอกบัวที่พระพุทธเจ้าทรง พิจารณามีด้วยกัน 4 เหล่า บางกลุ่มแย้งว่าที่ถูกมี 3 เหล่า เรื่องนี้สรุปได้ดังนี้ กลุ่มที่บอกว่าบัว 3 เหล่า เพราะอ้างอิงจากพระไตรปิฎก ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนี้มีหลายจุดที่ในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึง พุทธประวัติหลังตรัสรู้ เช่น ใน พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑ (พระไตรปิฏกเล่มที่ ๔ ), ในปาสราสิสูตร และ ในโพธิราชกุมารสูตร ซึ่งสรุปจากพระสูตรได้ว่า ทรงอุปมา สัตว์โลกดังดอกบัว 3 เหล่า (ดอกอุบลในกออุบล ดอกปทุมในกอปทุม หรือดอกบุณฑริกใน กอบุณฑริก) อยู่ในน้ำ 3 ระดับ (คือ ในน้ำ ปริ่มน้ำ และพ้นน้ำ) กลุ่มที่บอกว่าบัว 4 เหล่าเพราะอ้างอิงจาก อรรถกถา ในบุคคล ๔ เหล่านั้น พระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมให้ สำเร็จประโยชน์ในอัตตภาพนี้เท่านั้นแก่บุคคล ๓ ประเภท ในจำนวนบุคคลเหล่านั้น ปทปรมะมี วาสนาเพื่อประโยชน์ในอนาคตกาล โดยสรุปคือสัตว์ใน 3 แดนโลกธาตุแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พอสอนให้บรรลุธรรมได้ (ภัพพบุคคล) และกลุ่มที่สอนให้บรรลุธรรมไม่ได้ (อภัพพบุคคล) คือ พวก ปทปรมะ แต่พอเป็นปัจจัยใน ชาติต่อๆไป ซึ่งในกลุ่มภัพพบุคคลนี้ ได้แก่ อุคฆฏิตัญญู วิปัจจิตัญญู และ เนยยะ. อรรถกถาบอกว่า บุคคลเหล่านี้มีจริต 6 จริต คือ ราคจริต โทสจริต โมหจริต วิตกจริต ศรัทธาจริตและพุทธิจริต. ส่วนกลุ่ม อภัพพบุคคล หรือ ปทปรมะ ซึ่ง ยังแปลว่า มีบทหรือหนทางที่ยาวไกลกว่าจะตรัสรู้ อาจจะมี ทั้งพวกที่ดี เช่น พวกพระโพธิสัตว์, พวกที่ปรารถนาเอตทัตคะ หรือ อัครสาวก, กัลยาณปุถุชน และพวกที่ไม่ดี เช่น พวก มิจฉาทิฏฐิ ก็ได้ ไม่ใช่พวกที่ไม่ดีอย่างเดียว อย่างที่หลายคนเข้าใจ สรุป ความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าเล่าพุทธประวัติด้วย แต่อรรถกถาเป็นแบ่งเป็น 4 เหล่าโดยแบ่งตาม อ้างอิง พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑ (พระไตรปิฏกเล่มที่ ๔ ) ปาสราสิสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=5384&Z=5762) โพธิราชกุมารสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระ สุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=7663&Z=8236) เรามักได้ยินได้ฟังเสมอที่มีผู้พูดว่า “เปรียบด้วยพระพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลเปรียบด้วยดอกบัว ๔ เหล่า” |