(1) ���ǹ����稨�ԧ�����ػ�ӹǹ �������駹Ӥ�������ʹ͵���ز���ҡó��ա���ͧ�����ʹ�����ç���˹觹�¡�Ѱ����� �Ѱ����� ��Ҫԡ��Ҽ��᷹��ɮ� ��Ҫԡ�ز���� ��иҹ��Ż���ͧ�٧�ش ��¡���٧�ش ������á�����͡��� ����Ǩ�Һ����蹴Թ�ͧ�Ѱ��� �ͧ��иҹ��Ůա� �ͧ��иҹ����ͧ�٧�ش ���˹���ӹѡ���ҡ�÷��� �ͧ��¡���٧�ش ����ç���˹��дѺ�٧ ��м���ç���˹���蹵����衮���ºѭ�ѵ� Show (2) ���ǹ����稨�ԧ �����ػ�ӹǹ �������駷Ӥ����������ѧ��¡���٧�ش����ͧ��յ����Ůա�Ἱ�����ҭҢͧ����ç���˹觷ҧ������ͧ �ó��ռ����������ͧ���¹�����Թ����ҭҡѺ����ç���˹觹�¡�Ѱ����� �Ѱ����� ��Ҫԡ��Ҽ��᷹��ɮ� ��Ҫԡ�ز���� ���͢���Ҫ��á�����ͧ��������¼Դ���� ��зӤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ��Ҫ��õ�������š������ҭ� ���͡�зӤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ�����ͷب�Ե���˹�ҷ������������� ��������ѧ�Ѻ�Ѻ�óշ��ؤ�Ŵѧ��������ͺؤ������繵�ǡ�� ����� ���ͼ��ʹѺʹع���� (3) ���ǹ����ԹԨ���������˹�ҷ��ͧ�Ѱ�����¼Դ���� ��зӤ����Դ�ҹ�ب�Ե���˹�ҷ�����͡�зӤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ���Ҫ��� ���ͤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ��㹡���صԸ��� (4) ��Ǩ�ͺ�����١��ͧ��Ф����������ԧ �����駤�������¹�ŧ�ͧ��Ѿ���Թ���˹���Թ�ͧ���˹�ҷ��ͧ�Ѱ �����駵�Ǩ�ͺ��������¹�ŧ�ͧ��Ѿ���Թ���˹���Թ�ͧ����ç���˹觷ҧ������ͧ (5) ��˹���ѡࡳ������ǡѺ��á�˹����˹���Ъ�������дѺ�ͧ���˹�ҷ��ͧ�Ѱ���е�ͧ��蹺ѭ���ʴ���¡�÷�Ѿ���Թ���˹���Թ (6) ��˹���ѡࡳ������Ըա����蹺ѭ���ʴ���¡�÷�Ѿ���Թ���˹���Թ�ͧ���˹�ҷ��ͧ�Ѱ ��С���Դ�ºѭ���ʴ���¡�÷�Ѿ���Թ���˹���Թ�ͧ����ç���˹觹�¡�Ѱ���������Ѱ����� (7) ��§ҹ�š�õ�Ǩ�ͺ ��мš�û�Ժѵ�˹�ҷ����������ѧࡵ��ͤ���Ѱ����� ��Ҽ��᷹��ɮ� ����ز���� �ء�� ��й���§ҹ����͡������������� (8) �ʹ��ҵá�ä������ ���͢���ʹ��е�ͤ���Ѱ������Ѱ��� ��� ���ͤ�С�����õ�Ǩ�Թ�蹴Թ ��������ա�û�Ѻ��ا��û�Ժѵ��Ҫ��� �����ҧἹ�ç��âͧ��ǹ�Ҫ��� �Ѱ����ˡԨ ����˹��§ҹ�ͧ�Ѱ ���ͻ�ͧ�ѹ��л�Һ������÷ب�Ե���˹�ҷ�� ��á�зӤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ���Ҫ��� ���͡�á�зӤ����Դ��͵��˹�˹�ҷ��㹡���صԸ��� (9) ���Թ����������դ�������ͤӾԾҡ�����¡��ԡ�����ԡ��Է�������͡����Է�����˹�ҷ��ͧ�Ѱ����ѵ�����حҵ����Է�Ի���ª�� �����͡�͡����Է����ؤ�������Ԫͺ���¡�������������º�ͧ�ҧ�Ҫ����ѹ���˵�������������ҧ�Ҫ��� (10) ���Թ������ͻ�ͧ�ѹ��÷ب�Ե �����������ҧ��ȹ�����Ф�ҹ�������ǡѺ���������ѵ���ب�Ե �����駴��Թ�������ЪҪ����͡�����ؤ������ǹ����㹡�û�ͧ�ѹ��л�Һ������÷ب�Ե (11) ��������繪ͺ㹡���觵���ŢҸԡ�� (12) �觵�駺ؤ�����ͤ�кؤ�����ͻ�Ժѵ�˹�ҷ����������Ѻ�ͺ���� (13) ���Թ�����蹵��������Ҫ�ѭ�ѵԻ�Сͺ�Ѱ�����٭���ѭ�ѵ����ͷ�衮������蹡�˹�������ӹҨ˹�ҷ��ͧ��С������ �. �. � 㹪�鹹�� ���� ความเป็นมาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 1 (13 กรกฎาคม 2544 - 24 มิถุนายน 2552) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 หมวด 6 รัฐสภา ส่วนที่ 8 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยที่มาตรา 199 และมาตรา 200 ได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการอื่นอีกสิบคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือการละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรืออันไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคี และเสนอแนะมาตรการการแก้ไขที่เหมาะสม รวมทั้งอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเป็นการเสนอแนะนโยบายและข้อสเนอแนะในการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี หรือการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย ความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนการจัดทำรายงานประจำปีเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ และต่อมาได้มีพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2542 ความเป็นมาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 2 (25 มิถุนายน 2552 – 19 พฤศจิกายน 2558) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ชุดที่ 2 จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 (มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2550) ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกหกคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว กสม. ชุดที่ 2 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2552 ครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ความเป็นมาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (20 พฤศจิกายน 2558 – 24 พฤษภาคม 2564) โดยที่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด 2 และให้องค์กรอิสระ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ประกอบกับได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 48/2557 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 เรื่อง การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง กำหนดว่า ในกรณีที่จำเป็นต้องสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแทนตำแหน่งว่าง ให้ดำเนินการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่เคยดำเนินการสรรหามาแล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และหากในการสรรหาดังกล่าวไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งใด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องมีในคณะกรรมการสรรหาด้วย ให้คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ ดังนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ชุดที่ 3 จึงได้ดำเนินการสรรหาตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งต่อมา พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่วุฒิสภา โดยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ชุดที่ 3 เข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี นับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว และครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ผู้ทำหน้าที่แทนผู้ปฏิบัติหน้าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นการชั่วคราว ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 เพื่อรอให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ มีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติขอลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย (วันที่ 5 เมษายน 2558) นายชาติชาย สุทธิกลม (วันที่ 1 มิถุนายน 2562) นางอังคณา นีละไพจิตร และนางเตือนใจ ดีเทศน์ (วันที่ 31 กรกฎาคม 2562) เป็นเหตุให้มีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีกี่องค์กรมี๕ องค์กร คือ 1. คณะกรรมการการเลือกตัง (กกต.) 2. ผู้ตรวจการแผ่นดิน 3. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 4. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) และ 5. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ข้อสังเกต องค์กรอัยการ ไม่ใช่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรของผู้บริโภคตามมาตรา ๔๖ ไม่ใช่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการองค์กรอิสระมีจำนวนองค์กรละกี่คนองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรแรกที่เราจะมารู้จักในวันนี้ คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือที่เรียกติดปากว่า “กกต.” กกต. ประกอบด้วย กรรมการจำานวน 7 คน มีวาระการดำารงตำาแหน่ง 7 ปี และดำารงตำาแหน่งได้เพียงวาระเดียว ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ตามคำาแนะนำาของวุฒิสภา กกต. จำานวน 7 คน มาจากการสรรหา 2 ช่องทาง ดังนี้
องค์กร อิสระ ตาม รัฐธรรมนูญ 2550 มี อะไร บ้าง1. สถานะองค์กรรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้แบ่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญเป็น 2 ประเภท ประเภทแรก คือ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 4 องค์กร คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และอีกประเภทหนึ่ง คือ องค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ 3 ...
องค์กรอิสระมีวาระการดำรงตำแหน่งกี่ปี *องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นให้มีความอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นไป ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย มีวาระการดํารงตําแหน่งเจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดํารงตําแหน่งได้เพียงวาระเดียว
|