รู้หรือไม่ว่า มอเตอร์ไซค์ ตู้เย็น ก็ส่งกับไปรษณีย์ไทยได้
- รู้หรือไม่ว่า มอเตอร์ไซค์ ตู้เย็น ก็ส่งกับไปรษณีย์ไทยได้
- บริการ Logispost ไปรษณีย์ไทย คืออะไร ?
- เงื่อนไขการใช้บริการ Logispost เป็นอย่างไร
- บริการ Logispost ส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทย ทำอย่างไร?
ต้องยอมรับว่า คนส่วนใหญ่อาจคุ้นเคยแต่การส่งสินค้าขนาดเล็กทางไปรษณีย์ แต่พอถึงคราวที่ต้องส่งสินค้าชิ้นใหญ่ อย่างตู้เย็น เครื่องซักผ้า เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ ให้ถึงมือผู้รับอย่างรวดเร็วทันใจ แบบไม่บุบสลายนั้น ก็ต้องหัวหมุนหาบริการที่รับส่งพัสดุ “ขนาดใหญ่” ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกล
เพราะปัจจุบัน “ไปรษณีย์ไทย” เปิดให้บริการ Logispost ที่รับ-ส่งของใหญ่ทางไปรษณีย์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายไม่ต้องเสียเวลาไปส่งด้วยตัวเอง ทั้งนี้บริการส่งพัสดุถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว และวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบริการส่งของใหญ่ทางไปรษณีย์กันว่า คืออะไร มีเงื่อนไขหรือไม่ ? หากต้องการส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทย ต้องทำอย่างไร ?
บริการ Logispost ไปรษณีย์ไทย คืออะไร ?
เป็นบริการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ หรือมีรูปร่างพิเศษเหมาะกับการขนส่งสินค้าซึ่งมีน้ำหนักมากหรือมีบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถฝากส่งและรอจ่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ผู้รับสะดวก
เงื่อนไขการใช้บริการ Logispost เป็นอย่างไร
1. พัสดุที่ฝากส่งกับไปรษณีย์ไทย ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 200 กิโลกรัม
2. ขนาดของพัสดุที่ว่านี้ ควรมีขนาดไม่เกินด้านละ 150 x 200 x 150 เซนติเมตร (กว้าง x ยาว x สูง)
3. มาตรฐานการนำจ่ายอยู่ที่ประมาณ 5-7 วันทำการ
4. อัตราค่าบริการคิดตามน้ำหนักหรือปริมาตรสิ่งของที่ฝากส่ง (อย่างใดอย่างหนึ่ง) และระยะทางในการจัดส่งสิ่งของ
5. สำหรับพัสดประเภทสินค้าสำเร็จรูป เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น หรือมอเตอร์ไซค์ จะคิดอัตราค่าบริการตามที่ไปรษณีย์ไทยกำหนด
บริการ Logispost ส่งมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทย ทำอย่างไร?
สำหรับการส่งรถมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์นั้น มีรายละเอียดขั้นตอนการฝากส่ง ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมเอกสาร- สำเนาบัตรประชาชนผู้ที่มาดำเนินการ จำนวน 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 2 ชุด
- สำเบาบัตรประชาชนเจ้าของทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 2 ชุด (ใช้ในกรณีที่ชื่อผู้ดำเนินการ ไม่ตรงกับชื่อในเล่มทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์)
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ให้คุณนำมอเตอร์ไซค์ที่ต้องการนำส่งไปยังที่ทำการไปรษณีย์ สาขาที่มีบริการ Logispost ได้เลย
ขั้นตอนที่ 2 : กรอกเอกสารเมื่อเดินทางไปถึงที่ทำการไปรษณีย์ ก็ไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการส่งมอเตอร์ไซค์ จากนั้นคุณจะได้รับ “ใบรับฝากบริการ” มากรอกชื่อ ที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับ ซึ่งไม่ต่างจากการส่งพัสดุทางไปรษณีย์ทั่วไป เพียงแต่ต้องกรอกให้ถูกต้อง และครบถ้วนเท่านั้นเอง
ขั้นตอนที่ 3 : ตรวจสภาพรถพอกรอกเอกสารใบรับฝากบริการเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอน “การตรวจสภาพรถก่อนการจัดส่ง” โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า มอเตอร์ไซค์ที่คุณต้องการนำส่งนั้น มีรอยขีดข่วน แตกหักหรือไม่ ? เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่ปลายทางได้ว่ามีจุดใดของรถมอเตอร์ไซค์ชำรุดเพิ่มเติมหรือไม่
เมื่อตรวจสภาพรถเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการไขกระจกข้างออกเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ในการจัดส่ง และเช็กว่า น้ำมันในถังมอเตอร์ไซค์มีมากเกินไปหรือไม่ หากมีปริมาณมากเกินไปก็จะถูกดูดออก เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่ง
จากนั้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการแพ็กของ โดยเจ้าหน้าที่จะให้คุณเลือกว่า จะห่อหุ้มรถมอเตอร์ไซค์ของคุณด้วยกระดาษและพลาสติกกันกระแทกหรือไม่ หากคุณต้องการปกป้องรถจากรอยขีดข่วนด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนนี้เพิ่ม จำนวน 160 บาท
แต่อย่างไรก็ดี กรณีเกิดความเสียหายในการขนส่ง ทางไปรษณีย์ไทยจะรับผิดชอบสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท
อัตราค่าบริการขนส่งรถจักรยานยนต์ผ่านทางบริการ Logispost มีรายละเอียดดังนี้
- รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องไม่เกิน 150 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,200 บาท ไปจนถึง 2,640 บาท
- รถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องเกิน 150 ซีซี. แต่ไม่ถึง 400 ซีซี. ค่าบริการเริ่มต้น 1,500 บาท ไปจนถึง 3,300 บาท
- รถจักรยานยนต์ BigBike หรือ Chopper ทุกขนาด (ซีซี.) และรถจักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์เกิน 400 ซีซี.ค่าบริการเริ่มต้น 3,300 บาท ไปจนถึง 5,460 บาท
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการจะเพิ่มขึ้นตามระยะทางของต้นทาง-ปลายทาง ที่จัดส่งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 โซน เป็นจังหวัดต่าง ๆ ตามนี้
– โซน 1 : กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ
– โซน 2 : สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
– โซน 3 : นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
– โซน 4 : อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก
– โซน 5 : อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์
– โซน 6 : แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน น่าน ลำปาง แพร่
– โซน 7 : กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา
– โซน 8 : หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น
– โซน 9 : ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช
– โซน 10 : กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาส
ขั้นตอนที่ 5 : รอรับมอเตอร์ไซค์หลังจากชำระค่าบริการ Logispost เรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับรหัสสำหรับตรวจสอบสถานะการจัดส่ง คือ “Tracking Number” เป็นเลข 13 หลัก โดยคุณสามารถนำรหัสที่ได้ไปตรวจสอบผ่าน //track.thailandpost.co.th ก็จะรู้ทันทีว่า ณ ตอนนี้มอเตอร์ไซค์ที่คุณใช้บริการฝากส่งอยู่ที่จุดไหนแล้ว หรือมีการนำส่งเรียบร้อยแล้วหรือยัง
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมอเตอร์ไซค์ถูกส่งถึงปลายทางแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเพื่อให้คุณไปรับของ ซึ่งมอเตอร์ไซค์จะไม่ถูกส่งไปถึงหน้าบ้านเหมือนพัสดุอื่น ๆ นะ คุณจะต้องไปรับรถมอเตอร์ไซค์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่คุณระบุไว้ด้วยตนเอง
READ MORE :
- วันนี้ไปรษณีย์หยุดไหม? เพราะเป็นวันพ่อ 5 ธ.ค. 62 ถ้าส่งของได้ของวันไหน
- เก็บเลขแทรคกิ้ง (Tracking) ไปลุ้นล้าน กับไปรษณีย์ไทย 2020
- วันหยุดไปรษณีย์ ธันวาคม 2562 มีเซอร์ไพรส์ว่า 5 กับ 10 ไม่หยุดจ้า (เปิดรับพัสดุปกติบางสาขา)
- โหลดแอป Track & Trace เพื่อเช็คสถานะพัสดุที่ส่งผ่านไปรษณีย์ไทยได้แล้ววันนี้
- รวมโปรโมชั่นไปรษณีย์ไทย 2562 ที่ไม่ควรพลาด!