ราคาค่าบริการ ตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษี (ตรอ.) ราคา พ.ร.บ. และราคาค่าบริการฝากต่อภาษี หรือเสียภาษี ของ ตรอ. เมืองยอง (ในกรณีที่ฝากให้เราต่อภาษีให้) ซึ่งราคาค่าตรวจสภาพรถ และค่า พ.ร.บ. เป็นราคามาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เช่น จะตรวจสภาพอย่างเดียว หรือทำพ.ร.บ. อย่างเดียวก็ได้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line : @m2277 ราคา พ.ร.บ. รถประเภทต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เราควรทำ พ.ร.บ. ให้ถูกประเภท เช่น ถ้ารถใช้ส่วนตัว ควรทำแบบส่วนบุคคล และถ้ารับจ้าง หรือปล่อยให้เช่า
ก็ควรทำในราคารับจ้าง เพื่อความคุ้มครองสูงสุดต่อผู้ใช้รถ สอบถามเพิ่มเติม หรือทำ พ.ร.บ. ออนไลน์ได้ที่ Line : @m2277
ค่า พ.ร.บ. รถยนต์ และรถจักรยานยนต์
ค่าพรบ. รถบัส รถโดยสาร (ส่วนบุคคล)รถโดยสาร 15 – 20 ที่นั่ง 2,203 บาท
รถโดยสาร 20 – 40 ที่นั่ง 3,438 บาท
รถโดยสาร เกิน 40 ที่นั่ง 4,018 บาท
ค่าพรบ. รถบัส รถโดยสาร (สำหรับรับจ้าง)
รถโดยสาร 15 – 20 ที่นั่ง 3,739 บาท
รถโดยสาร 20 – 40 ที่นั่ง 7,155 บาท
รถโดยสาร เกิน 40 ที่นั่ง 8,080 บาท
รถบรรทุก 3 ถึง 6 ตัน 1,310 บาท |
รถบรรทุก 6 ถึง 12 ตัน 1,408 บาท |
รถบรรทุก เกิน 12 ตัน 1,826 บาท |
ค่าพ.ร.บ. รถบรรทุก หกล้อ สิบล้อ (สำหรับรับจ้าง) |
รถบรรทุก 3 ถึง 6 ตัน 1,967 บาท |
รถบรรทุก 6 ถึง 12 ตัน 2,127 บาท |
รถบรรทุก เกิน 12 ตัน 2,718 บาท |
ค่าบริการอื่นๆ ของเรา เช่น ฝากโอน ย้าย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์ แจ้งเสริมกระบะข้าง แจ้งเสริมตู้บรรทุก แจ้งต่อเติมรถ แจ้งเสริมแหนบ แจ้งติดคอกสเตนเลส แจ้งเสริมรั้ว แจ้งติดตั้งโครงหลังคา ติดตั้งโครงเหล็ก ติดตั้ง Carry Boy และอื่นๆ
อัพเดทข้อมูลสำหรับท่านที่ต้องการต่อทะเบียนหรือภาษีรถยนต์ประจำปี 2564 เพื่อที่ท่านจะสามารถเตรียมเงินต่อทะเบียนเท่าไรหรือเงินสำหรับเสียภาษีรถยนต์ประจำปี สามารถตรวจเช็ก วิธีคำนวณภาษีรถยนต์ปี 2564 ที่ผู้ใช้รถต้องรู้ ได้ผ่านสูตรคำนวณดังต่อไปนี้
ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. สิ่งที่รถทุกคันต้องมี
พรบ.ทำไมกฎหมายบังคับให้ต้องทำด้วย
หลายๆ คนที่ใช้รถยนต์กันอยู่เป็นประจำย่อมรู้ดีว่าในทุกๆ ปีนั้นเราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของรถยนต์ที่สำคัญๆ อยู่ประมาณ 3 ส่วนด้วยกันก็คือ
- ค่าพ.ร.บ.
- ค่าภาษีรถ
- ค่าประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
ซึ่งแต่ละอย่างนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก และก่อนหน้านี้เราได้เคยพูดถึงเรื่องของ พ.ร.บ. กันไปแล้ววันนี้เราจึงจะมาพูดถึงเรื่อง ภาษีรถยนต์กันว่ามีความจำเป็นอย่างไร ทำไมเราต้องมีการต่อภาษีรถของเรา และเคยสงสัยกันไหมว่าเราจะคำนวณภาษีส่วนนี้ล่วงหน้าด้วยตัวเองได้ไหม เพื่อที่จะได้เตรียมเงินให้พร้อม เมื่อถึงเวลาจ่ายจะได้ไม่ลำบาก หากอยากรู้ก็ไม่ต้องไปหาอ่านที่ไหน เพราะวันนี้ MoneyGuru.co.th จะมาแนะนำ วิธีคำนวณภาษีรถยนต์ ให้ได้ทราบกันว่า รถที่เราใช้ๆ กันอยู่นั้นจะต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่
สิ่งที่ต้องมีในการต่อภาษีรถยนต์
ก่อนจะพูดถึง วิธีคำนวณภาษีรถยนต์ เราก็ควรที่จะเรียนรู้ในเรื่องของเอกสารที่ใช้ในการต่อภาษีไว้ด้วย เพื่อที่เวลาไปทำเรื่องจะได้ไม่มีเอกสารอะไรตกหล่นจนทำให้เราเสียเวลานั่นเอง
- สมุดเล่มทะเบียนรถ
- หลักฐานการทำ พ.ร.บ.
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
เพียงแค่เราเตรียมเอกสารทั้ง 3 อย่างนี้ให้พร้อม ก็สามารถยื่นเรื่องขอต่อภาษีรถยนต์ได้แล้ว ซึ่งในปัจจุบันก็มีการอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นไปอีกด้วยการเพิ่มช่องทางการต่อภาษีรถยนต์อีกช่องทางหนึ่งนั่นก็คือ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ นั่นเอง ที่ทำให้เราอยู่บ้านก็สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ แต่เรื่องในส่วนนี้เราจะขอข้ามไปก่อน เพราะว่าวันนี้นั้นเราจะมาคุยกันเรื่องวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ ส่วนเรื่องออนไลน์นี้ขอยกยอดไปคราวหน้านะครับ
วิธีคำนวณภาษีรถยนต์
อัตราการเสียภาษีรถยนต์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทรถ รุ่นรถ ขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) น้ำหนักรถ หรืออายุรถ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำมาเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องเสียภาษีประจำปีละเท่าไร โดยวิธีคำนวณภาษีรถยนต์ต่างๆ จะมีรายละเอียดดังนี้
1.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ (รถปกติทั่วไป) คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถกระบะ 4 ประตู รถเก๋ง เป็นต้น โดยการคำนวณภาษีรถจะขึ้นอยู่กับขนาดเครื่อง (cc) โดยรายละเอียดมีดังนี้
- 1-600 cc – cc ละ 50 สตางค์
- 601-1800 cc – cc ละ 50 บาท
- 1801 cc ขึ้นไป – cc ละ 4 บาท
ส่วนรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปก็จะมีส่วนลดค่าภาษีดังนี้
- อายุการใช้งานเกิน 6 ปี จะได้รับส่วนลดค่าภาษี 10%
- อายุการใช้งานเกิน 7 ปี จะได้รับส่วนลดค่าภาษี 20%
- อายุการใช้งานเกิน 8 ปี จะได้รับส่วนลดค่าภาษี 30%
- อายุการใช้งานเกิน 9 ปี จะได้รับส่วนลดค่าภาษี 40%
- อายุการใช้งานเกิน 10 ปี จะได้รับส่วนลดค่าภาษี 50%
ตัวอย่างการคำนวณภาษีรถยนต์
รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 330 อายุรถ 4 ปี เครื่องยนต์ 2,979 cc
- ช่วง 600 cc แรก / cc ละ 0.5 สตางค์ = 600 x 0.5 = 300 บาท
- 2. ช่วง 601-1800 cc / cc ละ 1.50 บาท = (1,800 - 600) = 1200 x 1.50 = 1,800 บาท
- 3. ส่วนที่เกินจาก 1800 cc / cc ละ 4 บาท = (2,979 - 1,800) x 4 = 1179 x 4.00 = 4,716 บาท
รวมค่าภาษีทั้งหมดที่ต้องจ่าย = 300 + 1,800 + 4,716 บาท = 6,816 บาท
*หากเสียภาษีช้าต้องเสียค่าปรับ 1% ต่อเดือน (เศษของวันนับเป็น 1 เดือน)
2.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือเขียว คือ รถบรรทุกส่วนบุคคลที่เกิน 7 ที่นั่ง การคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- น้ำหนักรถ 501- 750 กิโลกรัม - อัตราภาษี 450 บาท
- น้ำหนักรถ 751 – 1000 กิโลกรัม - อัตราภาษี 600 บาท
- น้ำหนักรถ 1001 – 1250 กิโลกรัม - อัตราภาษี 750 บาท
- น้ำหนักรถ 1251 – 1500 กิโลกรัม - อัตราภาษี 900 บาท
- น้ำหนักรถ 1501 – 1750 กิโลกรัม - อัตราภาษี 1,050 บาท
- น้ำหนักรถ 1751 – 2000 กิโลกรัม - อัตราภาษี 1,350 บาท
- น้ำหนักรถ 2001 – 2500 กิโลกรัม - อัตราภาษี 1,650 บาท
3.รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือน้ำเงิน
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือน้ำเงิน คือ รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง การคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ แต่จะมีการคิดอัตราภาษีแตกต่างจากแบบรถบรรทุก โดยมีรายละเอียดดังนี้
- น้ำหนักรถไม่เกิน 1800 กิโลกรัม - อัตราภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักรถเกิน 1800 กิโลกรัม - อัตราภาษี 1,600 บาท
เงื่อนไขสำหรับยื่นชำระภาษี รถยนต์ ที่กรมขนส่ง
รถที่สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตมีเงื่อนไขดังนี้
ประเภทรถ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2), รถยนต์
- บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) และรถจักรยานยนต์ (รย.12)
ประเภทรถ รย.1 รย.2 และ รย.3 อายุรถไม่เกิน 7 ปี (ถ้าอายุรถเกินให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถาน
- ตรวจสภาพรถเอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
รถจักรยานยนต์ อายุรถไม่เกิน 5 ปี (ถ้าอายุรถเกินให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถ
- เอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
รถค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี (รถค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี ให้ดำเนินการตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถ เอกชนหรือตรอ. และยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
- ชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนสิ้นอายุภาษีได้ไม่เกิน 90 วัน
- ประเภทรถ รย.1 รย.2 และ รย.3 น้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม (ถ้าน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม ให้
ดำเนินการตรวจสภาพรถและยื่นชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
- รถที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด (รถติดตั้งแก๊สให้ดำเนินการตรวจสภาพถังแก๊สตามประกาศกรมฯ และยื่น
ชำระภาษีรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขา เท่านั้น)
- รถทุกจังหวัดทะเบียน
- สถานะรถ “ปกติ” เท่านั้น
- รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี/ ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ
- รถที่ไม่ถูกอายัด (อายัดโดยระบบงานของกรมการขนส่งทางบก)
เงื่อนไข พ.ร.บ. ประกอบการยื่นชำระภาษี
ระบบชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต ผู้ยื่นชำระสามารถซื้อกรมธรรม์ได้ทั้งจากในระบบ และซื้อผ่าน ผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องตรงตามความจริง และข้อมูล พ.ร.บ. ที่ระบุจะถูกตรวจสอบ และเป็นหลักฐานทางกฎหมาย ถ้าระบุข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริง มีผลต่อความ คุ้มครองของกรมธรรม์
- กรณีซื้อกรมธรรม์ผ่านระบบ มีผู้ให้บริการ 2 ราย คือ บริษัทเทเวศประกันภัย จำกัด และบริษัทวิริยะ ประกันภัย จำกัด
- กรณีซื้อกรมธรรม์จากภายนอก โดยกรอกข้อมูลบริษัทประกันภัย เลขที่กรมธรรม์ และวันสิ้นสุดอายุ ความคุ้มครอง (วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้น อายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.)
- กรมการขนส่งทางบก ขอแจ้งปรับปรุงเงื่อนไขการให้บริการยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต
สำหรับรถจักรยานยนต์ (รย.12) “ยกเลิก” การให้บริการซื้อกรมธรรม์ ตามพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ผ่านระบบตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป โดยผู้ยื่นชำระสามารถซื้อกรมธรรม์จากผู้ให้บริการภายนอกและนำข้อมูลมากรอกในระบบให้ถูกต้อง เพื่อประกอบการยื่นชำระภาษีรถประจำปีต่อไป สอบถามเพิ่มเติม โทร.1584 หมายเหตุ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป กรมการขนส่งทางบก ขอแจ้งปรับปรุง เงื่อนไขการให้บริการยื่นชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) ,รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) และรถจักรยานยนต์ (รย.12) สามารถซื้อกรมธรรม์ตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ได้ทั้งจากในระบบ หรือซื้อผ่าน ผู้ให้บริการภายนอกได้ตามปกติ เพื่อประกอบการยื่นชำระภาษีรถประจำปีต่อไป สอบถามเพิ่มเติม กรมการขนส่งทางบก โทร. 1584 บริษัทเทเวศประกันภัยฯ ในเวลาทำการ 08.30 - 17.00 น โทร 02-670-4444 ต่อ 8571 - 8576 นอกเวลาทำการ โทร 02-670-4444 ต่อ 1291 บริษัทวิริยะประกันภัย ในเวลาทำการ 8.30-17.00 น. โทร 02-273-8240-50 ต่อ 222 ,223 ,261 ,262 คุณวรรณา คุณอรวรรณ
สุดท้ายนี้ก่อนจากกันพิเศษรับเดือนธันวาคม 63 MoneyGuru พร้อมช่วยคุณประหยัดจัดโปร Shocking Sale 12.12 ลดร้อนแรงเพียงแค่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 พร้อมรับส่วนลดเบี้ยประกันทันที 12% เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับช่วยเหลือประชาชนสำหรับการจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ ในราคาพิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในเวลานี้…!! เนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น
ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @MoneyGuruThailand