หลายๆคนอาจจะเคยประสบปัญหาสตาร์ทรถติดๆดับๆ หรือไม่ ก็ไม่ติดเลย บางครั้งอาจจะมีเสียงแกร๊กๆ แต่สุดท้ายท้ายก็สตาร์ทไม่ติด ปัญหานี้ อาจเกิดขึ้นได้จากหลากสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดบ่อยๆอาจจะเป็นเพราะแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้ซ่อมผิดจุด วันนี้เรามีวิธีการสังเกตแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมมาบอกกันครับ สตาร์ทเครื่องติดยากหากเราจอดรถทิ้งไว้หลายๆวัน แล้วเกิดอาการรถสตาร์ทติดยาก หรือไม่ติดเลย นั่นหมายความว่ารถมีประจุไฟไม่พอในการสตาร์ท นี่อาจจะเป็นอาการของแบตเตอรี่รถเสื่อมหรือไดชาร์ทมีปัญหา ให้คุณลองพ่วงสายชาร์จ แล้วลองใช้งานอีกครั้ง หากนำรถมาจอดสักพักแล้วสตาร์ทใหม่ แล้วยังคงสตาร์ทไม่ติด แน่นอนแล้วว่าแบตเตอรี่รถมีปัญหา
ปัญหาระบบไฟสำหรับคนที่ชอบขับรถตอนกลางคืนจะสังเกตได้ง่าย หากไฟหน้ารถสว่างน้อยลง นั่นอาจจะเป็นอีกสาเหตุของแบตเสื่อม รวมไปถึงไฟในห้องโดยสารรถ ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และจุดอื่นๆ ถ้าหากมีอาการติดๆดับๆ หรือสว่างน้อยลง นี่ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่แสดงว่าประจุไฟในแบตนั่นไม่เพียงพอ และอาจจะถึงเวลาต้องต้อนรับแบตเตอรี่น้องใหม่แล้ว ระบบต่างๆในรถทำงานช้าลงที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลย คงเป็น กระจกไฟฟ้า ซึ่งหากกระจกทำงานช้าลง แถบยังหนืด ติดขัด นี่ก็เป็นอีกอาการของประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่มีไม่เพียงพอ นอกจาก 3 วิธีการสังเกตง่ายๆนี้แล้ว หากคุณสังเกตได้ว่า ไดสตาร์ทไม่ทำงาน หรือ แผ่นธาตุภายในรถบวม ก็เป็นอาการของการสื่อมแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน
|