เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
ดิฉันได้ทำเรื่องซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทร ตาก (ไม้งาม)
หลังที่ 272 ผ่อนชำระกับธนาคารทุกวันที่ 9 ของเดือน จ่ายเงินค่ามัดจำไป 3,000 บาท
ชำระค่างวด งวดละ 1,900 บาท เริ่มผ่อนงวดแรกเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2552 ส่วนงวดที่ 2 ต้องจ่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน นี้แล้วค่ะ
ปัญหาคือในช่วงนี้ ดิฉันมีปัญหาเรื่องการเงินและได้ลองคิดทบทวนดูแล้วเห็นว่า ไม่สามารถที่จะผ่อนชำระค่างวดได้อีกต่อไป จึงอยากจะคืนบ้านเอื้ออาทรให้ทางการเคหะค่ะ ที่สำคัญนอกจากเรื่องอาจจะผ่อนชำระไม่ไหวแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างบ้านค่ะ ทุกวันนี้ดิฉันยังไม่ได้เข้าไปอยู่ เพราะบ้านยังสร้างไม่เสร็จ และต้องคอยโทรตามผู้รับเหมาอยู่ตลอด
ตอนนี้ดิฉันเช่าบ้านอยู่
และยังต้องจ่ายค่าเช่าบ้านทุกเดือน ตั้งใจไว้ว่าถ้าย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเอื้ออาทรก็คงจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด
ดิฉันได้ทำหนังสือคืนบ้านกับทางการเคหะชุมชนกำแพงเพชรไว้แล้ว เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 แจ้งว่า ขอสละสิทธิ์บ้านเอื้ออาทรและยกเลิกสัญญา ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปถึงการเคหะแห่งชาติหรือยัง ส่วนทางธนาคารดิฉันก็ได้ติดต่อไปแล้ว ทางธนาคารแจ้งว่า สัญญาต้องดำเนินต่อไป ยกเลิกไม่ได้ด้วยตัวเอง ให้ดิฉันไปติดต่อกับการเคหะฯ ค่ะ และยังบอกอีกว่าหากคุณขาดการผ่อนชำระ ธนาคารจะมีหนังสือเตือน 3
ครั้ง จะบังคับจำนองค่ะ
ตกลงดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างคะ กลัวว่ากว่าการเคหะฯ จะพิจารณา อาจจะปาเข้าไป 3 เดือน ดิฉันก็ต้องติดเครดิตบูโร ไม่ได้เงินที่จ่ายไปแล้วคืนก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอให้การเคหะฯ เอาบ้านคืนไปเถอะ และอย่ามีชื่อดิฉันติดเครดิตบูโร จะรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ
อยากทราบว่า ทางการเคหะจะซื้อบ้านคืนได้หรือไม่คะ และดิฉันจะมีประวัติติดเครดิตบูโรหรือไม่คะ จะถูกฟ้องร้องหรือเปล่า
ลักษณ์พร
ตอบ
ประชาสัมพันธ์ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ชี้แจงว่า
กรณีที่คุณคาดว่าจะไม่สามารถผ่อนชำระกับธนาคารได้อีกต่อไป แนะนำให้คุณไปติดต่อกับธนาคารโดยตรงเพื่อขอทำเรื่องปิดการผ่อนชำระเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ และแจ้งกับทางโครงการของการเคหะด้วยว่า ไม่สามารถผ่อนชำระต่อไปได้ จะขอยกเลิกสัญญา
จากนั้น เมื่อธนาคารแจ้งมายังการเคหะว่า คุณผ่อนชำระไม่ไหว ทางการเคหะก็จะซื้อคืนมาจากธนาคาร เพื่อนำไปขายคนอื่นต่อ ตามขั้นตอนจะเป็นแบบนี้
กรณีของคุณก็ต้องทำตามขั้นตอนนี้ แต่ขอเงินคืนไม่ได้ ไม่ถูกฟ้องร้อง และไม่ติดเครดิตบูโร
ประชาสัมพันธ์ กคช.
รับเรื่องของคุณไว้แล้ว จะรีบติดต่อกับธนาคารต่อไป
ลุงแจ่ม
บ้านเอื้ออาทรไม่สามารถโอนซื้อขายได้ภายใน 5 ปี
ดิฉันได้ซื้ออาครชุดเอื้ออาทรต่อจากเจ้าของเดิม ที่ซื้อมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่า
บทความวันที่ 10 พ.ย. 2554, 00:00
มีผู้อ่านทั้งหมด 36302 ครั้ง
บ้านเอื้ออาทรไม่สามารถโอนซื้อขายได้ภายใน 5 ปี
ดิฉันได้ซื้ออาครชุดเอื้ออาทรต่อจากเจ้าของเดิม ที่ซื้อมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่า ที่ราคา 30,000 และทำการผ่อนต่อรายเดือน
2,000...ตามรายละเอียดของสัญญาการซื้อขายของบ้านเอื้ออาทรนั้นไม่สามารถมีการโอนซื้อขายใดๆ ได้ภายใน 5 ปี ทางดิฉันเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายอาคารชุดเอื้ออาทรนี้ และหนังสือยินยอมมอบอำนาจและกรรมสิทธิ์ในการเข้าอยู่อาศัย ซึ่งทางดิฉันได้ซื้อต่อตั้งแต่เดือนก.ค. และได้ทำการจ่ายค่างวดไปโดยผ่านทางเจ้าของคนเดิม (ซึ่งในตอนนั้นเขาเป็นผู้ถือบัตรจ่ายเงิน เพราะดิฉันทำงานที่ต่างอำเภอที่ห่างไกลตัวเมืองมาก) เป็นเวลา 3 เดือน จนถึงเดือนต.ค.
ดิฉันได้นัดเจ้าของเดิมเพื่อเอาเอกสารเกี่ยวกับบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อนำไปย้ายชื่อเข้าอยู่ที่อาคารชุดเอื้ออาทรดังกล่าว และทางเจ้าของเดิมก็ได้สารภาพว่า เงินที่ดิฉันส่งรายงวดให้นั้น ทางเขาไม่ได้นำไปจ่ายธนาคารเลยและติดค่างวดอยู่ก่อนอีก 1 เดือน
ทางดิฉันและเขาก็ได้ตกลงกัน โดยเขาจะต้องนำเงินที่คงค้างรายงวดไปจ่ายพร้อมดอกเบี้ยค่าปรับทั้งหมด แต่เมื่อได้มีการนัดไปจ่ายค่างวด
ปรากฎว่าเขาเลื่อนนัด และให้ทางดิฉันจึงเข้าไปติดต่อจ่ายค่างวดในรายเดือนปัจจุบัน แต่ทางธนาคารไม่ให้ เนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าของ ดิฉันเลยขอสอบถามข้อมูลกับทางธนาคาร ซึ่งทางธนาคารก็ให้ข้อมูลว่า ทางธนาคารได้ทำการยึดอาคารชุดนี้แล้ว ทางการเคหะ ฯ ก็ได้ทำการซื้อคืนไปแล้ว ดิฉันจึงไปติดต่อที่การเคหะฯ ก็แนะนำให้เจ้าของเดิมและดิฉันไปจ่ายในส่วนคงค้างค่าดอกเบี้ยปรับ และทำการเปลี่ยนสัญญาคนซื้อใหม่ได้
แต่ระหว่างที่ทำการรอคำอนุมัติสัญญาจากธนาคารว่าผ่านไหม ถ้าจะอาศัยในอาคารชุดนั้นก็ต้องจ่าย 3,000 บาท
ซึ่งในส่วนนี้อยากเรียนถามว่าดิฉันควรทำอย่างไรดี และสัญญาจะซื้อจะขาย และหนังสือมอบอำนาจ และกรรมสิทธิ์ที่ดิฉันทำระหว่างเจ้าของคนเดิมนั้นจะไม่มีผลบังคับใช้ได้เลยเหริ ดิฉันไม่อยากให้อาคารชุดนี้ตกไปเป็นของเคหะ เพราะได้ทำการตกแต่งไปค่อนข้างเยอะ
และดิฉันจะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายคืนในส่วนที่ซื้ออาคารชุดนี้ 30,000 กับค่ารายงวด 3 เดือน 6,000 ได้ไหมคะ
เมื่อบ้านเอื้ออาทรตามโครงการของการเคหะแห่งชาติมีข้อกำหนดห้ามทำนิติกรรมการโอนสิทธิมีกำหนด 5 ปี การที่ท่านได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านเอื้ออาทรนี้ผู้ซื้อเดิม จึงเป็นการทำนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย จึงตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกเสมือนว่าไม่ได้มีการทำสัญญาซื้อขายต่อกัน คู่กรณีจึงต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม ตาม ป.พ.พ.มาตรา 150 โดยท่านต้องส่งมอบการครอบครองบ้านให้แก่ผู้ขาย และผู้ขายจึงมีหน้าที่ต้องส่งมอบเงินตามจำนวนที่ท่านได้ชำระไปพร้อมดอกเบี้ยคืนให้แก่ท่านด้วย จึงต้องบังคับกันตามบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 172
- «
- 1
- 2
- 3
- »