ข้าวเหนียว กับ ข้าวสวย อันไหนอ้วนกว่ากัน

นอกจากเราคนไทยจะกินข้าวเจ้าเป็นอาหารหลักแล้ว ก็ยังมี “ข้าวเหนียว” ที่ได้รับความนิยมในการบริโภครองลงมา ในอดีตคนทางภาคอีสานของไทยจะปลูกและกินข้าวเหนียวกันมากที่สุด แต่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง หรือภาคใต้ ต่างก็ชื่นชอบและกินกันไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะกับเมนูส้มตำ ไก่ย่าง หรือหมูปิ้งเนี่ยจะขาดข้าวเหนียวไม่ได้เลย นอกจากจะกินข้าวเหนียวโดยตรงแล้ว ในเมนูของหวานก็ยังมีข้าวเหนียวเป็นส่วนผสมหลักหลากหลายชนิด เช่น ข้าวหลาม ข้ามต้มมัด ข้าวเหนียวมะม่วง ข้ามต้มลูกโยน ข้าวเหนียวมูน ฯลฯ

แปลกใจไหม...ทำไมข้าวเหนี​ยวถึงเหนีย​ว?

ต้องมีหลายๆ คนแปลกใจว่า ทำไมข้าวเหนียวจึงเหนียว ไม่เหมือนกับข้าวเจ้า และคำตอบก็คือแม้ข้าวทั้งสองประเภทจะให้คาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน แต่ความแตกต่างอยู่ที่โมเลกุลในข้าวทั้ง 2 ชนิดแตกต่างกัน โดยเมล็ดข้าวเหนียวมีโมเลกุลที่เรียกว่า "อะมิโลเพคติน" (amylopactin) เป็นโครงสร้างแบบกิ่ง และมีพันธะไกลโคไซด์ชนิดแอลฟา 1,4 และ 1,5 เกาะอยู่ ส่วนเมล็ดข้าวเจ้ามีโมเลกุล "อะมิโลส" (amylose) ที่เป็นโครงสร้างแบบเส้นตรง และมีพันธะไกลโคไซด์ชนิดแอลฟา 1,4 เพียงชนิดเดียว และด้วยโครงสร้างแบบกิ่งในข้าวเหนียวที่มีความเป็นระเบียบน้อยกว่าแบบเส้นตรงในข้าวเจ้านี่เอง ที่ทำให้ข้าวเหนียวสามารถอุ้มน้ำได้ดีกว่า และพองตัวได้มากกว่า ทำให้ข้าวเหนียวมีความเหนียวนุ่มกว่าข้าวเจ้านั่นเอง

6 พันธุ์ข้าวเหนียว ที่นิยมทาน​ของคนไ​ทย​

อันที่จริงแล้ว ข้าวเหนียวมีหลากหลายสายพันธุ์มาก แต่ในที่นี้ ขอยกเอาพันธุ์ข้าวเหนียวที่นิยมปลูก นิยมรับประทานมาแนะนำให้รู้จักกัน ได้แก่

1. ข้าวเหนียวพันธุ์เขี้ยวงู ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือมีเมล็ดเรียวเล็ก คล้ายเขี้ยวงู เมื่อหุงแล้วจะขึ้นหม้อ สีขาวมันวาว เกาะตัวเหนียวแต่ไม่เละ ให้รสสัมผัสนุ่มและหอม เหมาะนำไปทำขนมหวานจำพวก ข้าวเหนียวมูน ข้าวหลาม ข้าวเหนียวเขี้ยวงูถูกขนานนามให้เป็น "ราชาของข้าวเหนียว" เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดเชียงราย นิยมปลูกทางตอนเหนือ โดยเฉพาะ อ. แม่จัน จ. เชียงราย

​2. ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง เป็นข้าวเหนียวนาปี ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือปลูกง่าย ให้ผลผลิตดี ต้านทานต่อโรคและแมลง สามารถปลูกได้ในสภาพดินเค็ม จึงปลูกได้ทุกพื้นที่ สำหรับเมล็ดข้าวเมื่อหุงแล้วจะมีความเหนียวนุ่ม เมล็ดสวย อร่อย ต้นกำเนิดเกิดจากสถานีทดลองสันป่าตอง จ. เชียงใหม่

3. ข้าวเล้าแตก มีชื่อเรียกมาจากตำนานที่ว่า มีผู้เฒ่าคนหนึ่งขยันปลูกข้าวมาก เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวได้ก็นำไปเก็บในยุ้งฉาง หรือเล้าข้าว เก็บมากจนแน่น จนเล้าแตกในที่สุด คนจึงเชื่อว่าพันธุ์ข้าวชนิดนี้ให้ผลผลิตมากจนทำให้เล้าแตก ลักษณะของเมล็ดข้าวใหญ่ป้อม รวงยาว เมื่อนำไปหุงจะได้ข้าวเหนียวที่เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอม รสหวานน้อย นิยมไปกลั่นทำเป็นเหล้า สำหรับข้าวพันธุ์เล้าแตกเป็นเป็นข้าวเหนียวประจำถิ่นอีสาน มีกำเนิดมาจาก จ. นครพนม

4. ข้าวเหนียวแดงใหญ่ เรียกว่าเป็นสุดยอดข้าวเหนียวสำหรับทำขนม ที่เป็นเช่นนั้นเพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นของข้าวเหนียวแดงใหญ่ในเรื่องของความหอม นุ่ม อร่อย นิยมปลูกมากในภาคอิสานและภาคเหนือ เป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตสูง อีกทั้งรวงใหญ่ และต้านทานโรคได้ดี

ข้าวเหนียว กับ ข้าวสวย อันไหนอ้วนกว่ากัน

5. ข้าวก่ำล้านนา คือข้าวที่มีสีดำ และเป็นข้าวที่ถูกปลูกใน 8 จังหวัดทางภาคเหนือ (ล้านนา) ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน นอกจากข้าวก่ำล้านนาจะอุดมไปด้วยสารอาหาร และโภชนาการ จนกลายเป็น สุดยอดอาหาร ต้านทานอนุมูลอิสระ และยับยั้งโรคมะเร็งได้แล้ว ยังถือเป็นพันธุ์ข้าวที่มีกลิ่นหอม สามารถดึงดูดแมลงได้ดี จึงนิยมปลูกแซมกับข้าวชนิดอื่นๆ เพื่อรักษา ป้องกันแมลงไม่ให้ไปตอนข้าวขาวในนาข้าว จึงเป็นที่มาของการตั้งให้ข้าวก่ำล้านนาเป็นพญาของข้าวทั้งหลาย

6. ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์ จากชื่อของพันธุ์ข้าวหลายคนคงคิดว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์เป็นข้าวพื้นเมืองของชาวไทยภูเขา (เผ่าม้ง) ในเขตทางภาคเหนือ อ.พบพระ จ.ตาก ลักษณะเด่นของข้าวพันธุ์นี้คือมีสีดำคล้ายกับข้าวก่ำ ซึ่งมีความเหนียวนุ่ม หอม อร่อย ยิ่งเคี้ยวยิ่งได้ความหนึบ ความมันอร่อย จนทำให้ภรรยาที่หุงข้าวพันธุ์นี้ไว้รอสามีกลับมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน รอไปรอมา สามีไม่กลับมาเสียที ภรรยาหิวเลยทานก่อน ยิ่งทานยิ่งเพลินเพราะความอร่อย สุดท้ายทานจนหมด จึงเป็นที่มาของชื่อ "ข้าวไร่ลืมผัว" นั่นเอง

คุณค่า และโภชนาการใ​น "ข้าวเหนียว​"

ข้าวเหนียวนั้นมีทั้งความเหนียว ความมัน และรสชาติที่อร่อย แล้วทราบหรือเปล่าว่ามีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการอยู่มากทีเดียว สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือ ข้าวเหนียวให้พลังงานมากกว่าข้าวสวยธรรมดา เรากินข้าวเหนียวเพียง 1 ทัพพี จะสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายเท่ากับการกินข้าวสวย 2 ทัพพี การกินข้าวจึงทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน นอกจากนี้ก็อุดมด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อาทิ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินอี ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเฉพาะข้าวเหนียวดำจะยิ่งมีสารอาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาว ในข้าวเหนียวดำมีสารสำคัญอย่าง “โอพีซี (OPC)” ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ในองุ่นดำ องุ่นแดง แอปเปิลแดง ชมพูมะเหมี่ยว ลูกหว้า ถั่วแดง ถั่วดำ หอมแดง มะเขือม่วง มันสีม่วง เป็นต้น มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเสื่อมถอยของร่างกายได้ดี ช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคได้หลายโรค ที่สำคัญคือส่งผลดีต่อจิตใจเพราะจะช่วยให้มีอารมณ์ที่สดใสร่าเริงได้ด้วย

8 สรรพคุณของข้าวเหนียวรักษาโรค

1. ข้าวเหนียวมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง และมีคุณสมบัติที่ให้พลังงานสูง ทำให้อิ่มท้องได้นาน จะเห็นได้ว่าคนทางภาคอีสานหรือคนที่ต้องใช้แรงในการทำงานหนักจะชอบกินข้าวเหนียวกันมาก

2. ข้าวเหนียวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกระเพาะอาหาร รักษาสมดุลและให้ความชุ่มชื้นภายในกระเพาะอาหาร

3. ข้าวเหนียวเป็นอาหารที่กินแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายและคลายเครียด ไม่หิวง่าย ทำให้จิตใจสงบ และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสดใสร่าเริง

4. ข้าวเหนียวมีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายไม่เสื่อมถอยไปก่อนเวลาอันควร และบำรุงผิวพรรณให้เนียนใสขึ้น

5. ข้าวเหนียวมีโปรตีนเช่นเดียวกับข้าวเจ้า ซึ่งมีประโยชน์ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมทั้งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายด้วย

6. ข้าวเหนียวมีสรรพคุณขับลมในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดลม และมีฤทธิ์อุ่นจึงยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดี

7. ธาตุเหล็กและกรดโฟลิกในข้าวเหนียวจะช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดมีความสมบูรณ์

8. ข้าวเหนียวมีวิตามินอีที่จะช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อมได้

เคล็ดลับหุงข้าวเห​นียวให้นุ่ม อร่อย โดยไม่ต้องแช่ข้ามคืน

สำหรับคนทานข้าวเหนียวเป็นประจำจะรู้ดีว่า หากจะนึ่งหรือหุงข้าวเหนียวนั้น ต้องนำเข้าสารเหนียวไปแช่ค้างคืนไว้ก่อน ตอนเช้าจึงจะนำมานึ่งทาน หรือหากต้องการนึ่งตอนเย็น ก็ต้องแช่ข้าวสารไว้ตอนเช้า หรือแช่ทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง เมล็ดข้าวสารจึงจะอ่อนนุ่มพอที่จะหุงและสุกได้

ข้าวเหนียว กับ ข้าวสวย อันไหนอ้วนกว่ากัน

แต่บางวันลืมแช่ข้าวสารเหนียวไว้ทำไงหล่ะ?....หรือต้องการทานข้าวเหนียวแบบปัจจุบันทันด่วน เราก็มีเคล็ดลับวิธีหุงข้าวเหนียวแบบย่นเวลาในการแช่ข้าวสารค่ะ เพียงเทน้ำร้อนต้มที่พอเดือดเกือบร้อน ในอัตรา 2 ส่วน ต่อข้าวสาร 1 ส่วน (หรือเทให้ท่วมข้าวอีก 1 เท่าตัว) จากนั้นทิ้งไว้เพียง 1 ชั่วโมง ก็สามารถนำข้าวสารมานึ่ง/ หุงจนสุก ก็จะข้าวเหนียวที่นุ่ม น่ารับประทาน ไม่แตกต่างจากข้าวที่แช่ทิ้งไว้ข้ามคืนเลยหล่ะ....เรียกว่าเป็นเคล็ดไม่ลับ ที่ชาวเหนือบอกต่อๆ กันมาจ้า

อย่างไรก็ดี แม้ว่าข้าวเหนียวจะมีประโยชน์ในการช่วยดูแลสุขภาพมากมายเพียงใด แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป เนื่องจากเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจึงทำให้รู้สึกง่วงนอนได้เร็ว รวมทั้งผู้สูงอายุและเด็กๆ ต้องระวังการกินข้าวเหนียวเป็นพิเศษ ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อช่วยให้ย่อยได้ง่ายและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาติดคอหรืออุดตันในลำไส้ นอกจากนี้เคล็ดลับในการกินข้าวเหนียวคือ ควรกินในตอนเช้ามากกว่าตอนเย็นนะ เพราะจะช่วยสร้างความสดใสให้ทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถดำเนินชีวิตไปได้อย่างมีพลัง

ลดความอ้วนกินข้าวเหนียวได้ไหม

ในช่วงลดน้ำหนักและคุมน้ำตาลแบบนี้ เราแนะนำให้เลี่ยงการกินข้าวเหนียวไปก่อนค่ะ หรือถ้าอยากจะกินก็ควรจะกินในปริมาณน้อย ๆ เท่านั้น เพราะข้าวเหนียวนั้นมีค่า GI =98 ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ค่ะ การที่เรากินข้าวเหนียวนั้นจะเร่งให้น้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูง ให้พลังงานสูง ยิ่งหากเรากินข้าวเหนียวที่ผ่านการปรุง เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ...

ข้าวเหนียวมูนกินแล้วอ้วนไหม

ลำพังมะม่วงสุกครึ่งผลขนาดกลาง ก็ให้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรีแล้ว ส่วนข้าวเหนียวมูนรสกลมกล่อมปริมาณ 1 ขีด ก็ให้พลังงานมากถึง 280 กิโลแคลอรี รวม ๆ แล้วเมนูข้าวเหนียวมะม่วง 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 350 กิโลแคลอรี กินบ่อย ๆ หลาย ๆ มื้อต่อวันก็เพิ่มแคลอรีไปอีกหลายเท่าตัว อ้วนชัวร์ไม่ต้องสืบ

ข้าวเหนียวนึ่งกี่แคลอรี่

พลังงานวัตถุดิบประเภทข้าวและเส้น.

ข้าวเหนียว 1 ทัพพีกี่แคลอรี่

ข้าวเหนียว 1 ทัพพี ประมาณ 120 kcal. ผัก 1 ทัพพี ประมาณ 80 kcal.