ข้อสอบ โอเน็ต ม.6 เรื่อง เซต พร้อม เฉลย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้

ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับทั้งหมด


ข้อสอบ โอเน็ต ม.6 เรื่อง เซต พร้อม เฉลย

กำลังดำเนินการเรื่อยๆ นะครับ เฉลยเองบ้าง นักเรียนทำบ้างไม่ว่ากันครับ

  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง เชต
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง การให้เหตุผล
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง จำนวนจริง
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง เลขยกกำลัง
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง ตรีโกณมิติ
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง ลำดับและอนุกรม
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง ความน่าจะเป็น
  • เฉลยข้อสอบ O-NET เรื่อง สถิติ

เป็นผลงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนโคกยางวิทยาเป็นผู้เฉลยบ้าง
บ้างครั้งผมก็เป็นคนทำเฉลยบ้างครับ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะครับ
ครูอั๋น
14 กันยายน 2554

(Last Update:  15Feb’2012)

Advertisement

Share this:

  • Facebook
  • Twitter
  • Email
  • Print
  • LinkedIn
  • Reddit
  • Tumblr

Like this:

ถูกใจ กำลังโหลด...

Related

เทคนิคการเขียนคำนำในรายงานต่างๆ ให้น่าสนใจและถูกต้อง ไม่น้อยเกินไป ไม่มากเกินไป มีความพอดีและได้สกอร์เต็มสิบไปเลย เว็บติวฟรีมีเทคนิคดีๆ ในการเขียนคำนำมาฝากกัน ลองไปดูกันครับ

คำนำ

คำนำ คือการเกริ่นเปิดเรื่องราว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ว่าเนื้อหาของรายงานหรือหนังสือเล่มนั้นๆ พูดเกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาครอบคลุมถึงอะไรบ้าง เป็นประโยชน์กับใคร เพื่อให้มองเห็นถึงภาพรวมของรายงานหรือหนังสือเล่มนั้นๆ ได้ และตัดสินใจได้ว่าจะอ่านรายงานเล่มนั้นอย่างละเอียดหรือไม่

คำนำที่ดีไม่ควรจะสั้นเกินไป หรือยาวเกินไป ความยาวที่เหมาะสมของคำนำทั่วไปคือ 1/3 ถึง 1 หน้ากระดาษ A4 ก็เพียงพอแล้ว

ข้อสอบ โอเน็ต ม.6 เรื่อง เซต พร้อม เฉลย
ข้อสอบ โอเน็ต ม.6 เรื่อง เซต พร้อม เฉลย

หลักการเขียนคำนำ

คำนำที่ดีจะต้องมีความสั้นและกระชับ กระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจและอ่านคำนำตั้งแต่ต้นจนจบโดยที่ไม่หมดความสนใจไปซะก่อน ดังนั้นความยาวของคำนำจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดันแรกสุด

ส่วนสิ่งที่สำคัญอันดับสองนั้นก็คือความสามารถในการเล่าเรื่องของผู้เขียน แต่ถ้าคุณเป็นผู้เขียนมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องอย่างไรแล้วล่ะก็ ลองใช้หลักการเขียนคำนำของราชบัณฑิตยสถานตามนี้ดูสิครับ

  • เขียนด้วยคำพังเพย หรือสุภาษิตที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
  • เขียนอธิบายความหมายของเรื่อง
  • เขียนโดยขึ้นต้นด้วยคำกล่าวของบุคคลสำคัญ
  • เขียนด้วยการเล่าเรื่อง
  • เขียนด้วยคำถามหรือปัญหาที่สนใจ
  • เขียนด้วยการอธิบายชื่อเรื่อง
  • เขียนคำนำด้วยคำกล่าวถึงจุดประสงค์ของเรื่องที่เขียน
  • เขียนด้วยการกล่าวถึงใจความสำคัญของเรื่องที่เขียน

สิ่งที่ไม่ควรทำในการเขียนคำนำ

  • อย่าขึ้นคำนำด้วยคำบอกเล่าอันเกินควร
    • จะทำให้ผู้อ่านหมดความสนใจไปก่อน อย่าลืมว่าคำนำควรจะสั้นและกระชับ ไม่ต้องอธิบายละเอียดตั้งแต่ตื่นมากี่โมง กินอะไรเป็นอาหารเช้า ให้คุณเข้าเรื่องตั้งแต่แรกๆ เลยจะดีที่สุด
  • อย่าอธิบายฟุ้งซ่านจนไม่มีจุดหมายของเรื่อง
    • จะทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจว่ารายงานหรือหนังสือเล่มนี้ต้องการจะสื่ออะไร อย่าลืมว่าเป้าหมายของคำนำคือการที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่ารายงานหรือหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร มีเนื้อหาอะไรบ้าง และมีความเหมาะสมกับผู้อ่านกลุ่มไหน

รูปแบบการเขียนคำนำ

  1. เริ่มจากให้พิมพ์คำว่า “คำนำ” ด้วยอักษรขนาดใหญ่ ไว้กลางหน้ากระดาษ เว้นระยะให้ห่างจากขอบบน 2 นิ้ว
  2. เขียนคำนำโดยใช้เทคนิคต่างๆที่ได้เรียนรู้จากบทความนี้
  3. เมื่อจบข้อความให้ ลงชื่อ และ นามสกุลของผู้เขียน
  4. ลงท้ายด้วยคำว่า “ผู้จัดทำ” และวันที่แบบย่อ เช่น 1 มิ.ย. 2562 จะจัดหน้าชิดซ้าย หรือชิดขวาก็ได้ทั้งนั้นไม่ผิด แต่ส่วนมากแล้วจะนิยมจัดหน้าชิดขวากัน

ตัวอย่างการเขียนคำนำ


ตัวอย่างที่ 1: คำนำรายงาน

คำนำ

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา……. (รหัสวิชา) …..ชั้นมัธยมศึกษาปีที่….. โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง…………… ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้จาก……………………………………………………………………………………..

ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจและ ต้องขอขอบคุณ….(ชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือ ข้อมูล)……..ผู้ให้ความรู้และแนวทางการศึกษา เพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอดผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน

ลงชื่อ…..….
ผู้จัดทำ


ตัวอย่างที่ 2: คำนำรายงาน

คำนำ

รายงาน/เอกสารคำสอน/สื่อ ฯลฯ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา…….…ชั้นมัธยมศึกษาปีที่…โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง……….. ทั้งนี้ ในรายงานนี้มีเนื้อหาประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับ………. ตลอดจนการประยุกต์ใช้………

ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง… ……ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอาจารย์………ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

ลงชื่อ……….
ผู้จัดทำ


ตัวอย่างที่ 3: คำนำรายงาน

คำนำ

รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนวิชา… โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า และนำสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของตนเองและครูต่อไป

ทั้งนี้ เนื้อหาได้รวบรวมมาจากหนังสือแบบเรียน…และจากหนังสือคู่มือการเรียนอีกหลายเล่ม ขอขอบพระคุณอาจารย์…อย่างสูงที่กรุณาตรวจ ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไข ให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำงาน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ให้เกิดผลตามความคาดหวัง

ลงชื่อ…..….
ผู้จัดทำ


บทสรุป

เห็นไหมว่าการเขียนคำนำนั้นไม่ยากเลย ขอเพียงเราจับจุดให้อยู่ มองให้ทะลุถึงหลักการ เหตุผล และประโยชน์ของคำนำ มองให้ออกว่าผู้อ่านคำนำต้องการจะอ่านอะไร แล้วเราก็เขียนมันลงไปโดยใช้หลักการที่ได้เรียนรู้จากบทความนี้ เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถที่จะเขียนคำนำดีๆ ได้แล้ว

หลังจากได้เรียนรู้ถึงเทคนิคในการเขียนคำนำไปแล้ว ต่อไปพี่ติวฟรีก็อยากจะให้ทุกๆ คนลองลงมือเขียนคำนำของตัวเองโดยใช้เทคนิคที่เพิ่งได้เรียนรู้มา ลองเขียนไปเรื่อยๆ เขียนๆ ลบๆ แล้วอ่านดูว่าเป็นคำนำที่ดีแล้วหรือยัง ปรับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ ไม่มีใครเขียนได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก ขนาดนักเขียนระดับโลกยังเขียนๆ ลบๆ เป็นสิบๆ รอบ กว่าจะได้ผลงานที่พอใจเลยครับ

สุดท้ายแล้วเชื่อว่าคำนำของทุกคนจะดีขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญอย่างแน่นอน ยังไงใครเขียนคำนำเสร็จแล้วได้ผลอย่างไร ก็คอมเมนต์บอกกันไว้ด้วยที่ช่องด้านล่างนี้เลยนะครับ