Iphone 8 plus ม face id ไหม

Iphone 8 plus ม face id ไหม

เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังได้มีการเปิดตัว iPhone X ตามที่หลายๆคนได้คาดการไว้อีกด้วย

เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังได้มีการเปิดตัว*iPhone X * ตามที่หลายๆ คนได้คาดการไว้อีกด้วย และเมื่อเปิดตัวด้วย 3 รุ่นที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีบางสิ่งที่มีเพียงรุ่นพิเศษอย่าง iPhone X สามารถทำได้ แต่ iPhone 8 ทำไม่ได้ และนี่คือ 7 สิ่งที่ iPhone X แตกต่างและสามารถทำได้

จอแสดงผล OLED  Super Retina HD สามารถผลิตสีดำได้ลึกมากขึ้น ทำได้โดยการปิดพิกเซลที่แสดงผลเป็นสีดำ ในขณะที่หน้าจอ LCD พิกเซลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีจอแบบ OLED จึงแสดงสีได้สด ลึก และชัดเจนกว่ามาก

แบตเตอรี่มีอายุยาวนานขึ้น  iPhone X มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย แต่แบตเตอรี่ของ iPhone X ก็ยังดีกว่า iPhone 8 อยู่ดี

Apple มีตารางเปรียบเทียบที่แสดงให้เห็นว่า iPhone X และ iPhone 8 Plus สามารถใช้งานได้นานประมาณ 21 ชั่วโมง ขณะที่ iPhone 8 ใช้งานได้เป็นเวลา 14 ชั่วโมง

ถึงจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ดูจะกินแบตมาก แต่สำหรับการเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต iPhone 8 Plus ใช้ได้เป็นเวลา 13 ชั่วโมงในขณะที่ iPhone X และ iPhone 8 มีอายุการใช้งานประมาณ 12 ชั่วโมง ต่างกันเพียงแค่ 1 ชั่วโมงในขณะที่ iPhone X เยอะกว่าใหม่กว่า

เมื่อพูดถึงการเล่นวิดีโอ iPhone 8 และ iPhone X ใช้ได้ประมาณ 12 ชั่วโมง กับ iPhone 8 Plus 13 ชั่วโมง แต่สำหรับการเล่นเสียง iPhone X และ iPhone 8 Plus มีอายุการใช้งานสูงสุด 60 ชั่วโมง เทียบกับใน iPhone 8 ที่ได้แค่ 40 ชั่วโมงเท่านั้น

OIS แบบคู่ ขณะที่ทั้งสามรุ่นของ iPhone นั้นมีกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และ  7 ล้านพิกเซลที่กล้องหน้า ทั้ง iPhone X และ iPhone 8 Plus มีเซ็นเซอร์กล้องด้านหลังเพิ่มเติม กล้องสองตัวนี้มีเลนส์สองแบบที่แตกต่างกัน คือ มุมกว้าง และเทเลโฟโต้ แต่แอปเปิ้ลมีอะไรที่พิเศษเล็กน้อยที่อยู่กล้องบน iPhone X.

อย่างแรก iPhone X มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล OIS แบบคู่ แต่ iPhone 8 Plus จะมี OIS เฉพาะ ในกล้องมุมกว้างทำให้กล้อง telephoto มีความไวต่อการสั่นของกล้องมากกว่า OIS แบบคู่ใน iPhone X

อย่างที่สอง เลนส์ iPhone 8 Plus มีรูรับแสงf / 2.8 ในขณะที่ iPhone X มีเลนส์เทเลโฟโต้ f / 2.4 ให้ความชัด และลึกกว่าในขณะที่แสงน้อยด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ใน iPhone X

Face ID ด้วยขอบจอของ iPhone X  และมีขอบที่ยื่นออกมาจากด้านบนของโทรศัพท์เล็กน้อย จุดนั้นเป็นจุดที่ติดตั้งของเซ็นเซอร์ต่างๆรวมทั้งกล้อง TrueDepth ด้วยจอที่เต็มทั้งเครื่องจึงทำให้ไม่มีเซ็นเซอร์ Touch ID จึงทำให้มีเทคโนโลยีใหม่ คือ Face ID มาแทน เพื่อการปลดล็อคเข้าสู่โทรศัพท์ โดยใช้กล้องอินฟราเรดที่สามารถสแกนจุดที่มองไม่เห็นได้มากกว่า 30,000 จุดบนใบหน้าเพื่อสร้างแบบจำลอง และอ่านใบหน้าได้อย่างละเอียด ทั้งนี้สามารถใช้ Face ID เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การซื้อผ่านApple Wallet ได้อีกด้วย และ Face ID จะไม่ทำงานในเวลาที่หลับ

โหมดถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องด้านหน้า กล้องด้านหน้าของ iPhone X มีเทคนิคบางอย่างที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังไมมี สำหรับโหมดเริ่มต้นในการถ่ายภาพบุคคลก่อนหน้านี้สามารถทำได้เฉพาะกับกล้องด้านหลังของ iPhone 7 Plus  แต่ตอนนี้ทั้ง iPhone 8 Plus และ iPhone X ก็สามารถทำได้  แต่กล้องหน้าของ iPhone X มีเซ็นเซอร์เพิ่มเติมในกล้อง ทำให้กล้องถ่ายรูป TrueDepth ด้านหน้าสามารถถ่ายภาพ selfies ออกมาแบบถ่ายภาพบุคคลได้ด้วย

Portrait Lighting พร้อมกล้องด้านหน้า Portrait Lighting คือคุณลักษณะใหม่ที่จะสแกนใบหน้า และคำนวณว่าลักษณะใบหน้ามีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแสงที่ต่างกันในหลายๆแบบเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์แสง คือโหมดในการทำภาพแบบใหม่ในกล้องนั่นเอง ยังสามารถทำได้ด้วยกล้อง TrueDepth ด้านหน้าของ iPhone X ได้อีกด้วย

Portrait Lighting ไม่เพียงแต่จะแยกแยะความแตกต่างของฉากหลังจากพื้นหลังได้ แต่ยังสามารถจำลองสถานการณ์แสงที่ต่างออกไปได้อีกด้วย เช่นแสงธรรมชาติ ฉากหลังสตูดิโอ เส้นขอบ และแสงเวที เช่นแสงขั้นบันไดช่วยให้ใบหน้าของคุณสว่างไสว แต่เปลี่ยนพื้นหลังจริงด้วยภาพสีดำแบบลึก และให้ดูเหมือนเลียนแบบภาพวาดหรือถ่ายในสตูระดับมืออาชีพ

Animoji นี่เป็นของเล่นใหม่เฉพาะของ iPhone X เลยก็ว่าได้ โดยการใช้กล้อง TrueDepth เพื่ออ่านและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้ามากกว่า 50 แบบ เพื่อสะท้อนการเคลื่อนไหว และการแสดงออกของคุณใน Animoji  12 แบบ ทำให้ออกมาเป็น emoji ที่เป็นแอนิเมชั่นเคลื่อนไหว และมีเสียงพูดได้ตามท่าทาง และเสียงของู้ใช้ และส่งในข้อความของทาง Apple เพื่อใช้ในการสนทนากันได้

และทั้งหมดนี้คือ 7 สิ่งที่ Apple ทำให้ iPhone X แตกต่างจาก iPhone 8 และรูปแบบเดิมๆของ iPhone โดยสิ้นเชิง แต่การดีไซน์ภายนอกของทาง iPhone 8 ก็ยังดูไม่แตกต่างไปจาก iPhone 7 เท่าไหร่นักเพียงแค่เปลี่ยนวัสดุด้านหลังเป็นกระจกนั่นเอง และ ดีไซน์ของ iPhone X ก็มีการเปลี่ยนแปลงแค่กล้องที่มีรูปแบบลักษณะเป็นแนวตั้ง และหน้าจอเท่านั้นเอง วัสดุด้านหลังก็เป็นกระจกเช่นเดียวกับ iPhone 8

ที่มา CNET

ไอโฟน รุ่นไหนมี Face ID

คู่มือผู้ใช้ iPhone.
รุ่นที่รองรับ.
iPhone X..
iPhone SE (รุ่นที่ 2).
iPhone 13 mini..
iPhone 13..
iPhone 13 Pro..
iPhone 13 Pro Max..
iPhone SE (รุ่นที่ 3).

ไอโฟน8พลัส สแกนนิ้วได้ไหม

Touch ID. เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮม

Face ID อยู่ตรงไหน

กดปุ่มเมนูซ้ายมือบน > กด “ตั้งค่า” > กด Touch ID / Face ID. 2. เลือก เปิดใช้ Touch ID / Face ID.

ไอโฟนSE แสกนใบหน้าได้ไหม

นับตั้งแต่การเปิดตัว iPhone X เป็นต้นมา iPhone รุ่นใหม่ ๆ เปลี่ยนระบบการปลดล็อกตัวเครื่องเป็น Face ID หรือการสแกนใบหน้าทั้งหมด ซึ่งตัด Touch ID หรือการสแกนลายนิ้วมือออกไป แต่สำหรับ iPhone SE (2020) แม้จะเป็นไอโฟนรุ่นใหม่แต่ไม่รองรับ Face ID เนื่องจากเหตุผลด้านราคานั่นเอง เพราะถ้าหากเลือกให้ตัวเครื่องรองรับ Face ID อาจ ...