Haru House แต่งบ้านให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในคาเฟ่ทุกวัน
จากธุรกิจบ้านเช่าที่ทำอยู่หลายปี ต่อยอดสู่ธุรกิจรีโนเวทบ้านขาย เจ้าของคือคุณปัน จากเพจ บ้าน MUJI Minimal Style by Sissay Group ที่โด่งดังในโลกโซเชียล กับแบบบ้าน MINIMAL & MIJI กลิ่นอายคาเฟ่ ที่ได้รับการแชร์อย่างล้นหลาม หญิงสาวเล่าว่า บ้านหลังแรก ที่เข้ามาจับธุรกิจรีโนเวทบ้านขาย คือ Hana House ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการจับกระแสไลฟ์สไตล์คาเฟ่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นยุคใหม่ที่หลงใหลการไปนั่งชิลล์ตามคาเฟ่
คุณปันเล่าต่อว่า ในช่วงที่เกิดโควิด หลายคนพยายามจะเฟตตัวเองจากคอนโดมาอยู่บ้าน แต่การที่จะซื้อบ้านราคาแพงแต่อยู่นอกเมือง หรือกลางเมือง ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่หากขยับเข้ามาในเมืองราคาก็จะสูงขึ้น เธอจึงมองว่าหากเป็นบ้านมือสอง ที่นำมารีโนเวทแปลงโฉมใหม่ ให้คนได้อยู่ในเมืองพร้อมราคาที่ไม่แพงมาก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จับต้องได้จริง
สำหรับคอนเซ็ปต์ในการรีโนเวทบ้านแต่ละหลังนั้น หญิงสาวได้บอกกับเราว่า “ด้วยความที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ทุกปี จึงเกิดความคลั่งไคล้หลงใหลในความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น อบอุ่นในแบบมินิมอลมูจิ ซึมซับเรื่อยมาโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นว่าเมื่อเราไปคาเฟ่โทนสีขาวคลีนๆ อบอุ่นด้วยงานไม้ ก็จะรู้สึกอินมาก ซึ่งเพื่อนเราเองก็เป็นสายคาเฟ่เช่นกัน ก็พากันไปทุกวันหยุด ทำให้เรารู้สึกว่าความเป็นคาเฟ่ได้มาอยู่ในตัวเราจนมาคิดว่า ถ้าดีไซน์ออกมาเป็นบ้านก็คงน่ารักไม่น้อย”
“เพราะเราเองก็เสพความเป็นตะวันออก ชอบกลิ่นอายของไม้ ความเรียบง่ายแบบดั้งเดิม กับบรรยากาศที่เรารู้สึกว่าเวลาที่อยู่บ้านแล้วไม่เป็นความพยายาม รู้สึกถึงความเป็นบ้านที่ไม่ต้องหรูหรา ไม่เยอะมาก ไม่น้อยเกินไปจนรู้สึกเบื่อ มีลูกเล่นให้เล่น พอดีในตัวเอง ลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความสบายตา ชอบความง่ายๆ แต่พอเรามองฟังก์ชันของบ้านแล้วครบ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงชอบแนวนี้ เพราะหากอยู่บ้านแล้วรู้สึกว่าไม่อยากออกไปไหน แปลว่าเราประสบความสำเร็จในการออกแบบบ้าน เราก็อยากให้ผู้อาศัยรู้สึกอยากพักผ่อนทำกิจกรรมร่วมกับคนที่บ้านเช่นเดียวกัน”
หลังจากที่ Hana House ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังต่อมาคุณปันก็ได้ซื้อทาวน์โฮมมือสองอายุกว่า 30 ปี ที่เจ้าของเดิมปล่อยให้เช่า มารีโนเวทใหม่สู่บ้าน Haru House ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นคาเฟ่ และให้ความสำคัญในเรื่องของทำเลเป็นหลัก ซึ่งจะต้องเดินทางสะดวก ไม่ไกลเมืองมากนัก และพยายามให้ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด ซึ่งบ้านฮารุ ก็ตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าเพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น
สำหรับแนวคิดในการออกแบบ หญิงสาวได้บอกกับเราว่า “ยังคงเป็นธีมคาเฟ่ ที่เน้นความโปร่งโล่งสบายในสไตล์มินิมอลมูจิ เพราะความเป็นมินิมอล ก็น่าจะให้ความรู้สึกอยู่สบายเหมือนกับที่เราไปรีแลกซ์ตามคาเฟ่” ซึ่งก่อนจะมีการทุบรื้อ ก็ต้องมีการวางแผนว่าบ้านลักษณะนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง เธอยังบอกว่าหลักของการรีโนเวทบ้านอันดับแรก จะต้องเข้าสำรวจโครงสร้างโดยวิศวกรโยธา ทั้งเรื่องรอยร้าว คานรับน้ำหนัก จุดที่จะต่อเติม หรือทุบรื้อ ทำได้แค่ไหน จำกัดพื้นที่เพดานกี่เซนติเมตร พอรื้อฝ้าขึ้นไปแล้ว สามารถที่จะทำหลืบซ่อนไฟ หรือสร้างลูกเล่นของผนังอย่างไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อการออกแบบที่ได้มาตรฐาน
ฉะนั้นการสำรวจโดยวิศวกรโยธาจึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้การรีโนเวทบ้านในแต่ละจุดไม่มีข้อจำกัดของการออกแบบ เธอยังบอกต่อว่า เมื่อวิศกรโยธาเข้ามาดูหน้างาน เราก็จะรู้หลักแล้วว่า ตรงนี้ทุบได้ ตรงนี้ทุบไม่ได้ ตรงนี้ติดคาน เพดานตรงนี้ต่ำ ตรงนี้สูง หรือว่ามีรอยรั่ว รอยร้าวตรงไหน เราก็ต้องเข้าไปแก้สาเหตุต่างๆ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หากเป็นบ้านเก่าก็จะมีการรื้อระบบน้ำ ระบบไฟ แล้วเดินระบบใหม่ทั้งหลัง โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุเกิน 20 ปี ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยยืดอายุของตัวบ้านไปได้อีกนาน ไม่ต้องมานั่งทุบรื้อทำใหม่หลายรอบ
นอกจากนี้ก็ยังมีการเดิน Lan ในระบบบ้าน เพิ่มปลั๊กไฟให้เพียงพอต่อการใช้งาน และความปลอดภัยต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความเป็นบ้านสมัยใหม่ พร้อมใส่ฉนวนกันความร้อนทุกห้อง เพื่อให้การใช้งานในชีวิตจริงสะดวกสบายมากขึ้น จากนั้นจึงมาถึงขั้นตอนในการออกแบบ
บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดูเรียบง่าย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแนวคิดที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของวัยรุ่นยุคใหม่ได้อย่างตรงใจ โดยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตารางเมตร ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ที่จอดรถ
ตัวอาคารภายนอกแม้จะดูเรียบง่าย แต่ถูกเพิ่มลูกเล่นด้วยระแนงบังตาจากวัสดุเหล็กสีขาว คุณปันได้บอกไว้ว่า จุดประสงค์หลักคือต้องการปรับลุคบ้านให้ดูทันสมัยขึ้น สำคัญคือลมต้องสามารถผ่านเข้าออกได้ เพื่อให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และใช้บังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้หน้าบ้านดูสวยงามน่ามองขึ้น
เมื่อประตูรั่วเปิดออก พาเข้าสู่บริเวณหน้าบ้าน บรรยากาศดูน่ารักไม่ต่างจากคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยการออกแบบหน้าต่างบานคู่ไม้สัก พร้อมวางตกแต่งด้วยต้นกระบองเพชรหลากสายพันธุ์ ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้มุมนี้ดูสะดุดตามากขึ้น
เมื่อเข้าสู่ภายในบ้าน บรรยากาศดูโปร่งกว้าง โล่งสบายตา ด้วยโทนสีขาวตัดกับความอบอุ่นเป็นธรรมชาติของเฟอร์นิเจอร์ไม้ เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยดีเทลที่น่าสนใจในทุกมุมมอง เริ่มจากพื้นที่ถูกปูด้วย พื้น SPC (STONE COMPOSITE FLOORS) รุ่นรุ่นคลิกล็อค หนา 5.5 มิล ซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทานกว่าพื้นลามิเนตและพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทั่วไป ทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษา คุณปันยังได้ให้ความรู้ว่า วัสดุประเภทนี้คือกระเบื้องหินที่มีชั้น WEAR LAYER นอกจากจะมีผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง ยังไม่หืดหดตัว ไม่บวมน้ำ ไม่ลามไฟ ทนต่อแรงกระแทก ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ส่วนแรกจะพบกับ Living Room ที่ได้ถูกคิดและวางแผนไว้แล้วว่าให้การทำกิจกรรมต่างๆ ของคนในบ้านไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ดูทีวีมีความเป็นส่วนตัว ไม่ถูกรบกวนโดยการเดินผ่านไปมา จึงถูกวางรูปแบบให้เดินอ้อมด้านหลังโซฟา พร้อมทั้งมีการวัดระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา เพื่อให้เหมาะสมและสบายตามากที่สุด
เชื่อมต่อไปยังมุมรับประทานอาหาร ที่ถูกแบ่งฟังก์ชันการใช้งานกับส่วนครัว ผ่านหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่กรอบไม้สัก ที่เข้ามาเสริมให้มุมนี้ดูโดดเด่นสะดุดตาไม่ต่างคาเฟ่ที่ชอบไป
นอกจากนี้ยังได้เฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ามาเพิ่มความอบอุ่นละมุนตาในทุกมุมมอง ส่วนครัวสีขาวสะอาดตาในลุคสุดคลีน ตามสไตล์ MINIMAL & MIJI โดยมีการบิวท์อินตู้และเคาน์เตอร์สีขาวยาวขนานไปตามแนวพื้นที่ ตัดด้วยท้อปเคาน์เตอร์ไม้จริงที่เข้ามาเพิ่มความเป็นธรรมชาติ ผนังกรุด้วยกระเบื้องซับเวย์ ยิ่งสร้างลูกเล่นให้ครัวสวยชวนเข้าไปใช้งานยิ่งขึ้น
ก่อนจะขึ้นไปยังห้องนอนใหญ่ ที่เน้นความโปร่งโล่งสบาย สามารถเปิดออกสู่ภายนอกระเบียงด้วยประตูไม้สักบานใหญ่ ทำให้ออกไปรีแลกซ์รับลมได้เต็มที่ โดยได้ระแนงเหล็กสีขาวเข้ามาช่วยบดบังสายตาสร้างความเป็นส่วนตัวอีกทาง สำหรับการตกแต่งภายในยังคงคุมโทนสไตล์มินิมอล ถูกเพิ่มความละมุนด้วยม่านโปร่งพริ้วๆ ที่ขาดไม่ได้คือโคมไฟหัวเตียงและไฟซ่อนหน้าผนังทีวี ยิ่งทำให้ในช่วงเวลากลางคืนบรรยากาศดูสวยงามอบอุ่นชวนหลับฝันหวานไม่น้อย
สำหรับการเลือกเฟอร์นิเจอร์เข้ามาจัดวาง ทุกชิ้นภายในบ้านจะเน้นเป็นไม้จริง เน้นราคาไม่แพงมากแต่ดีไซน์สวย ฟังก์ชันตอบโจทย์ใช้งานได้จริง เลือกโทนสีธรรมชาติเพื่อให้ล้อไปกับตัวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากหลากหลายแหล่งที่มา ทั้งจาก IKEA และสั่งจากออนไลน์ แล้วนำมาจับคู่มิกซ์แอนด์แมทช์เพื่อให้ลงตัวมากที่สุด
ต้องบอกเลยว่าพอบ้าน Hana House แล้วเสร็จ และเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมก็ถูกจับจองมีเจ้าของไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันโปรเจกต์บ้าน Haga House ก็แล้วเสร็จไปอีกหนึ่งหลัง ไม่นานก็เพิ่งมีการเปิดบ้านให้ได้จับจอง และมีเจ้าของไปเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน โดยการออกแบบก็ยังคงคอนเซ็ปต์ บ้านสไตล์คาเฟ่ โดยปรับลุคภายนอกเป็นจั่วสไตล์นอร์ดิก
จะเห็นว่าบ้านแต่ละหลังที่ Sissay Group ออกแบบนั้น จะมีลูกเล่นที่แตกต่างกันไปออกไป เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่าบ้านสไตล์มินิมอลมูจิมีความหลากหลาย ไม่ใช่แค่โทนสีขาว ไม้ๆ เท่านั้น ซึ่งในอาคตคุณปันก็ยังคงมีบ้านหลังใหม่ๆ ออกมาให้จับจองกันอยู่เรื่อยๆ หากเจอบ้านในทำเลที่ถูกใจ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ เด็กจบใหม่ พนักงานเดือนที่เริ่มทำงานได้ 4-5 ปี ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ได้มาจับจองเป็นเจ้าของในราคาที่จับต้องได้