โรงเรียน นายร้อยพระจุลจอมเกล้า รับสมัคร 2564

กองทัพบก โดย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนชายสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของกองทัพบก ประจำปีการศึกษา 2565 (แบบเฉพาะกลุ่ม) รอบพิเศษ (ย้ำรอบพิเศษนะคะ!)

 

แบบเฉพาะกลุ่มที่ ๑ นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ มีผลการศึกษาภาคเรียนที่ ๑ ไม่ต่ำกว่า ๓.๕๐ สมัครเข้าสอบ

แบบเฉพาะกลุ่มที่ ๒ นักเรียนชายที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ขึ้นไป อาศัยอยู่ในพื้นที่พิเศษ ๔๐ จังหวัด (ไม่ต่ำกว่า ๑ ปี จนถึงวันสมัคร) สมัครสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก ประจำปี ๒๕๖๕ ทั้ง ๒ กลุ่ม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๕

โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนเพศชาย อายุ 16-18 ปี สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่า สมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพบก ประจำปีการศึกษา 2565 (แบบทั่วไป)

เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.65 - 4 มี.ค.65 สมัครได้ที่ https://crma.rta.mi.th/

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กองสถิติและทะเบียนประวัติโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โทร. 095-1417110 หรือ 037-39313, 037-393010-4 หรือ 02-2412691-4 ต่อ 62130, 62733

"กองทัพ"เป็นองค์กรที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตรับราชการทหารเดินมาถึงจุดหนึ่งและไปต่อไม่ได้ เนื่องจากตำแหน่งที่มีจำกัด ไม่เพียงพอรองรับบุคลากรภายในกองทัพ "เกษียณตามชั้นยศ" โดยไม่ต้องรอให้อายุครบ 60 ปี คือแนวทางที่จะนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้

"กระทรวงกลาโหม" อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะให้มีการเกษียณตามชั้นยศ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการและการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพปี 2560-2569  ควบคู่ไปกับการพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรในกองทัพ

ในทุกๆปี "กระทรวงกลาโหม" ปรับลดทหารชั้นนายพลของเหล่าทัพ 5-10%  โดยริเริ่มตั้งแต่ยุค สมัคร สุนทรเวช เป็น นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เมื่อปี 2551ต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน มีการยุบหน่วยที่ไม่จำเป็น หรือ รวมหน่วยในภารกิจที่ใกล้เคียงกัน ที่มี ผบ.หน่วยเป็นทหารระดับ "พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี" ขึ้นไป 

รวมถึงลดการแต่งตั้ง นายทหารปฏิบัติการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ชำนาญการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ และเมื่อเกษียณราชการจะไม่บรรจุเพิ่มเพื่อให้เป็นไปตามแผนของกระทรวงกลาโหม ลดให้ได้ 50% ในปี 2570 และมีแผนจะลดต่อเนื่องไปอีก

เพราะเดิมทีมีทหารชั้นนายพลที่นั่งประจำในตำแหน่งดังกล่าวรวมกันทุกเหล่าทัพ จำนวน 768 นาย ในปี 2552-2564 ลดลงจำนวน 253 นาย ประหยัดงบประมาณด้านกำลังพลประมาณ 640 ล้านบาท และในปี 2565-2571 จะลดลงไปอีก 141 นาย

อย่างไรก็ตามตำแหน่งทหารชั้นนายพลมีสัมพันธ์กับนายทหารที่จบจาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จึงมีการลดการผลิตนายทหารลงไปครึ่งหนึ่งในแต่ละรุ่น นักเรียนนายร้อย เหลือประมาณ 200 กว่านาย นักเรียนนายเรือ เหลือ 80 นาย นักเรียนนายเรืออากาศ เหลือ 80 นาย พร้อมปรับปรุงหลักสูตรการเรียนสอดรับภัยคุกคามรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่

นอกจากนี้ "กระทรวงกลาโหม" ยังพบข้อมูลว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังมี ทหารยศนายร้อยจนถึงระดับพันเอกพิเศษเป็นจำนวนมาก ที่มีความสามารถและเก่งในด้านต่างๆ แต่ไม่สามารถไปต่อได้เนื่องจากกองทัพเป็นองค์กรที่มีลักษณะรูปสามเหลี่ยม ทำให้ถึงทางตัน

เดิมที กระทรวงกลาโหม มีแนวทางลดกำลังพล คือ 1. เกษียณอายุราชการ 60 ปี ไม่เปิดบรรจุในตำแหน่งนั้นๆ หรือ บรรจุให้น้อยลง พิจารณาความจำเป็นเป็นหลัก  2.ให้แรงจูงใจด้วยการให้ออกหรือ early retire 

แต่ปัจจุบันเตรียมจะเปิดให้มีการเกษียณตามชั้นยศ  เช่น ทหารยศนายร้อย หากไม่สามารถเติบโตเข้าเป็นทหารระดับนายพันได้ ก็ต้องเกษียณ ส่วน ทหารยศนายพัน หากไม่สามารถเติบโตเป็นทหารยศนายพลได้ ก็ต้องเกษียณเช่นเดียวกัน

โดยจะให้แต่ละหน่วยหรือเหล่าทัพ ซึ่งอาจตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการ ประเมิน  1.ขีดความสามารถของทหารนายร้อยและนายพันแต่ละคนว่าสามารถไปต่อได้หรือไม่ หากไม่สามารถไปต่อได้ หรือไม่ก้าวหน้าไปกว่านี้แล้ว ก็ต้องแนะนำให้เข้าโครงการเกษียณตามชั้นยศ 

2. หาแรงจูงใจ ทั้งเรื่องค่าตอบแทน ที่ต้องสัมพันธ์กับงบประมาณเพื่อให้ไปตั้งตัว การสร้างงาน ให้ทหารเกษียณตามชั้นยศ ได้ไปต่อ เพื่อไม่ให้สะดุดและส่งผลกระทบต่อครอบครัว หรือ ภาระที่รับผิดชอบที่มีในปัจจุบัน ด้วยการประสานงานกับภาคเอกชนหาตำแหน่งงานที่เหมาะสม หรือเข้าฝึกอบรมเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพ

นั้นเท่ากับว่าเมื่อกระทรวงกลาโหม เปิดให้มีการเกษียณตามชั้นยศ จะส่งผลให้นายทหารแข่งขันกันทำงาน เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถ  รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด เพราะต้องผ่านการประเมินและเกณฑ์ชี้วัดตามที่กำหนด 

ดังนั้นอนาคต "ทหาร" นอกจากต้องเก่งทั้ง "บุ๋น บู๊" ยังต้องมีความรู้ความสามารถรอบด้าน ให้สอดรับกับภัยคุกคามทั้งรูปแบบเก่า รูปแบบใหม่ และภารกิจครอบจักรวาลของกองทัพ ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะได้อยู่ต่อ หรือต้องหิ้วกระเป๋าออกจากกองทัพไป