สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ คนไหน ที่กำลังลังเลว่า จะซื้อ “ไดร์เป่าผม” ยี่ห้อไหนดี วันนี้ ทางเราก็ได้รวบรวม ไดร์เป่าผม หลากหลายแบรนด์ดัง มาถึง 10 รุ่น สุดฮิตในตลาด มาให้ได้อ่านกัน ไดร์เป่าผมแต่ละรุ่นที่คัดรวมมานั้น มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
แถมราคาก็น่าคบหา ตอบโจทย์เงินในกระเป๋าแน่นอน แล้วยังช่วยให้การเป่าผมของคุณสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งถ้าสาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้ลองอ่านเนื้อหากันจนจบ รับรองว่าจะต้องอยากซื้อไม่ยี่ห้อใดก็ยี่ห้อหนึ่งกันอย่างแน่นวล ตอนนี้คงอยากจะรู้กันแล้วสินะว่า มียี่ห้อและรุ่นไหนมาให้ดูกันบ้าง ก็ตามมาเลยจ้าาา !
วิธีการเลือกซื้อไดร์เป่าผม
ตารางเปรียบเทียบรีวิว ” ไดร์เป่าผม “เผื่อใครที่อยากจะเห็นสินค้า “ไดร์เป่าผม” แบบพร้อม ๆ กัน สามารถเลื่อนไปมาซ้ายขวา เพื่อทำการเปรียบเทียบทั้งยี่ห้อ ราคา การปรับระดับแรงลม ได้แบบง่าย ๆ แนะนำให้กดที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบกันได้เลยครับ 1. LESASHA BIO-CERAMIC HAIR DRYER รุ่น LS1265
ราคาโดยประมาณ 1,790 บาทLESASHA BIO-CERAMIC HAIR DRYER เลอซาช่าเป็นหนึ่งแบรนด์ ที่ฮิตติดตลาด คลองใจสาว ๆ มาอย่างยาวนาน และ รุ่น LS1265 เป็นหนึ่งรุ่นที่ขายดี แถมฟังก์ชันครบครันเกินราคา มาพร้อมกับรูปทรงมินิมอล สีสันสวยงาม ทันสมัย กะทัดรัด และยังพับเก็บได้ พกพาสะดวก การทำงานจะมีระบบ Lionic ที่ช่วยลดผมชี้ฟูที่เกิดจากไฟฟ้าสถิต และยังมี LOW EMF ลดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อาจจะทำลายระบบประสาทของเรา ที่สำคัญยังมีแผ่น BIO-CERAMIC มีลักษณะเป็นรังผึ้ง สามารถเปลี่ยนความร้อนให้เป็น Far-Infrared ช่วยทำให้ผมของเราแห้งเร็วขึ้น และไม่ทำลายเส้นผมอีกต่างหาก ส่วนตรงด้ามจับ จะมีสวิทช์สำหรับใช้ เปิด-ปิด , ปุ่มเปลี่ยนเป็นลมเย็น 1 ระดับ และปุ่มลมร้อน อีก 2 ระดับครับ แถมตัวไดร์ยังมีน้ำหนักที่เบา สามารถถือเป่าผมไปได้นานๆ แบบไม่ต้องกลัวว่าจะเมื่อย ทำให้ไดร์เป่าผมรุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผมยาว รวมถึงผู้ที่กังวลเรื่องผมเสียจากการเป่าผม รุ่นนี้ถือตอบโจทย์มากเลยครับ
2. Dyson Supersonic Hair Dryer รุ่น HD08
ราคาโดยประมาณ 7,589 บาทDyson Supersonic Hair Dryer เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ ที่สาวๆ คนไหนๆ ก็อยากได้ ไปครอบครอง เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจมหาชนคนมีเงินเลยนะ !!! เพราะด้วยหน้าตาที่มีความแปลกใหม่ หรูหรา ทันสมัยไม่เหมือนใคร สีสันสวยงาม หรือเรียกได้ว่าลบภาพไดร์เป่าผมแบบเดิม ๆ ไปเลย นอกจากที่มีรูปลักษณ์ที่สวยสะดุดแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Air Multiplier ที่จะช่วยเพิ่มกระแสลมแรงดันสูง ช่วยผมแห้งเร็วขึ้นและยังสามารถจัดทรงได้ตามต้องการ มีระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ ช่วยให้ผมไม่แห้งเสียและละป้องกันความเงางามของเส้นผม ที่สำคัญการทำงานของตัวมอเตอร์มีความดัง เพียง 77 เดซิเบลเท่านั้น ช่วยให้คุณผู้ใช้สามารถเม้ามอยกันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยปิดไดร์ทุกครั้งที่คุยกัน ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนหัว 5 ชิ้น ปรับเปลี่ยนให้ตรงตามการใช้งานและลักษณะของเส้นผมของเราได้เอง สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ , ปรับความร้อนแยก ได้ 4 ระดับ , และมีระบบลมเย็นภายในตัวครับ
3. Xiaomi SOOCAS H5 Hair Dryer Negative Ion
ราคาโดยประมาณ 959 บาทSOOCAS ไดร์เป่าผมน้องใหม่ในเครือของ Xiaomi ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี โดยตัว SOOCAS H5 มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย น่าใช้ มาให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน คือ แดง-เทา , ม่วง-ชมพู , และสีเขียว จุดเด่นของตัวนี้คือมีระบบ Negative Ion เป็นการปล่อยประจุลบออกมาพร้อมกับแรงลม ช่วยให้ลดการชี้ฟูของเส้นผม ภายในมีใบพัดขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ผมแห้งไว เพียงแค่ 5 นาที เท่านั้น !!! ตรงด้ามจับเราสามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ พร้อมกับควบคุมอุณหภูมิสูงสุดที่ 57 องศา ช่วยให้เส้นผมไม่แห้งเสีย จากการโดนความร้อนที่มากเกิน ตัววัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ABS ที่มีน้ำหนักเบา ถือได้นาน ไม่ต้องกลัวเมื่อย เรียกได้ว่าสาวๆ คนไหนที่ไม่ชอบไดร์เป่าผมร้อน ๆ รุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ดีเลยครับ
4. Xiaomi Mijia Portable Water Ion Electric Hair Dryer
ราคาโดยประมาณ 959 บาทMijia เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยู่ในเครือของ Xiaomi เช่นเดียวกับ SOOCAS หน้าตา รูปทรง สไตล์มินิมอล เอาวัยรุ่นสุด ๆ ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการดูแลเส้นผมด้วยพลังไอออน ด้วยการออกแบบท่อไอออนแยกแบบไม่สัมผัสความร้อน จึงทำให้ระยะของไอออนไปได้ไกล มีลมประจุลบ Negative Ions ช่วยลดปัญหาเส้นผมแห้งกร้าน คงความนุ่มและเงางามของเส้นผม มาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะอย่าง NTC ช่วยควบคุมลมร้อนและลมเย็นที่ผ่านออกมาให้คงที่ จึงไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสียครับ ตรงด้ามจับ มีทั้งหมด 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนจะมีไฟแสดงสถานะรอบๆ ปุ่ม คือ ลมร้อน (ไฟส้ม) , ลมร้อนลมเย็น หรือ NTC (ไฟส้มสลับไฟน้ำเงิน) , ลมเย็น (ไฟน้ำเงิน) ส่วนปุ่มล่างเอาไว้สำหรับปรับระดับแรงลม ด้วยมอเตอร์ 20,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับใบพัด 6 ใบ ให้ปริมาณลมสูง แล้วยังช่วยให้ผมแห้งไวขึ้นไปอีกด้วย ตัวไดร์ เคลือบสีมาถึง 2 ชั้น เพื่อป้องกันฝุ่นและรอยขีดข่วน นอกจะใช้งานง่ายแล้ว พกพาไปไหนก็สะดวกสุด ๆ ครับ
5. LESASHA MAXI AIR HAIR DRYER รุ่น LS0663
ราคาโดยประมาณ 1,290 บาทมาเอาใจสายรีบกันบ้าง ด้วย LESASHA MAXI AIR HAIR DRYER ตัวนี้มาพร้อมกับรูปทรงสวยแบบสไตล์โมเดิร์น มีสีเดียวคือสีกรมท่า เอาใจทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ในแบบ เท่ ไม่เหมือนใคร โดยตัวไดร์มาพร้อมกับกำลังไฟ 1,800w สามารถปรับระดับความร้อน 3 ระดับ และความแรงลม 3 ระดับ ด้วยสวิตช์แบบแยกกัน สามารถปรับความร้อนและแรงลมได้สะดวก เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ กลัวผมเสียก็เพิ่มแรงลม ลดความร้อน หรือถ้ารีบแบบด่วนจี๋ก็จัดเต็มทั้งความร้อนและแรงลม ถึงแม้ตัวไดร์จะมีน้ำหนักถึง 1,000g. แต่รีวิวของลูกค้าในโลกออนไลน์ ก็ต่างชื่นชมรุ่นนี้กันมาก ๆ เลยครับ
6. Remington Keratin Protect รุ่น AC 8820
ราคาโดยประมาณ 4,780 บาทไดร์เป่าผมจากแบรนด์เรมิงตัน ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นกันใช่ไหม เรมิงตันเป็นแบรนด์จากฝั่งอเมริกา ที่ผลิตและพัฒนาอุปกรณ์ตกแต่งทรงผมโดยตรง โดย Remington AC8820 นี้ มีรูปทรงที่คลาสสิค หรูหรา มาพร้อมกับเทคโนโลยีไอออนนิค คอนดิชั่นเนอร์ เพื่อลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม ช่วยลดผมชี้ฟู จุดเด่นและความพิเศษของรุ่นนี้นั้นคือตัวไดร์เคลือบด้วยเซรามิก ที่จะช่วยกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ,
มีแอดวานซ์เคราติน และไมโครคอนดิชันเนอร์ช่วยให้ผมสุขภาพดี เงางามหลังจากการไดร์
7. Philips Prestige SenselQ รุ่น BHD628
ราคาโดยประมาณ 5,730 บาทเอาใจคนที่ชอบไดร์เป่าผมจาก แบรนด์ Philips กันบ้าง โดยเราจะพูดถึง Philips Prestige SenselQ รุ่น BHD628 รูปทรงสไตล์น่ารัก กะปุ๊กลุก ไม่เหมือนใคร มีสีเดียวคือสีขาวมุขตัดขอบด้วยสีโรสโกล เหมาะกับสาวหวานสุดๆ จุดเด่นของเค้าหลัก ๆ เลยคือ การถนอมและดูแลหนังศีรษะและเส้นผมแบบพิเศษ เพื่อให้เส้นผมนั้นดูสุขภาพดีนั่นเอง โดยรุ่นนี้ จะมีระบบเซนเซอร์ อินฟราเรด SenseIQ ที่ช่วยสแกนอุณหภูมิของเส้นผม เพื่อป้องกันความร้อนที่เป็นสาเหตุหลักในการทำลายเส้นผมที่มากเกินไป อีกทั้งยังกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผมได้ถึง 90% ครับ ตัวไดร์มีโหมดการทำงานมาให้ถึง 3 แบบ คือ โหมดดูแลเส้นเป็นพิเศษ, โหมดเป่าแห้งธรรมดา และโหมดลมแรงช่วงเวลาที่เร่งรีบ รวมถึงยังมีเทคโนโลยีไอออนิกถึง 2 เท่า ช่วยให้ปรับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ นอกจากจะทำให้เส้นผมไม่ชี้ฟูแล้วนั่น ยังช่วยเพิ่มให้เส้นผมเป็นประกายเงางามอีกด้วยครับ เรียกว่าใครต้องการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะแบบครบทุกขึ้นตอน ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ
8. Panasonic Nanocare รุ่น EH-NA65-KL
ราคาโดยประมาณ 3,290 – 3,490 บาทไดร์เป่าผม จาก Panasonic รุ่น EH-NA65-KL จัดการผมเปียกหลังสระผมด้วย PANASONIC รุ่น EH-NA65-KL ดีไซน์สวย สปอร์ต เหมาะสำหรับสาวมั่น ที่ไม่ชอบอะไรหวานๆ จนเกินไป จุดเด่นของรุ่นนี้คือ เค้ามีเทคโนโลยี nanoe™ จะเป็นเทคโนโลยี อนุภาคขนาดเล็กพิเศษ ที่เล็กกว่าอนุภาคของไอน้ำ ถึงหนึ่งล้านเท่า ซึ่งจะซึมซาบผ่านเกล็ดผมที่เปิดเพื่อตรงเข้าบำรุงถึงภายใน พร้อมปิดเกล็ดผมให้เรียบสนิท ผลลัพธ์คือเส้นผมชุ่มชื้น นุ่มลื่น เงางาม สุขภาพดี จึงมั่นใจได้ว่า ความร้อนจะไม่จากการไดร์ จะไม่ทำลายเส้นผมและหนังศีรษะ และช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตได้ดีอีกด้วยครับ ส่วนลมจากไดร์ที่ปะทะกับใบหน้า ตัว nanoe™ จะเข้าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงผิวหน้าของเราไปด้วย นอกจากช่วยเติมเต็มแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าของเรากระจ่างใสอีกด้วย สามารถปรับความแรงลมได้ 3 ระดับและปรับอุณหภูมิได้มากถึง 4 ระดับ มีปุ่มเป่าลมเย็นแบบ Cool Shot เปลี่ยนเป็นลมเย็นได้ทันใจ ช่วยล็อคทรงผมให้อยู่ทรงและยาวนานตลอดทั้งวัน นอกจากผมจะสวยงามอีกแล้ว ผิวหน้าก็ยังได้รับการบำรุงไปด้วยพร้อมกัน เรียกว่าคุ้มสุดๆ ไปเลยครับ
9. Panasonic รุ่น EH-ND30
ราคาโดยประมาณ 669 บาทมาเอาใจคนสายประหยัดกันบ้าง ด้วย Panasonic รุ่น EH-ND30 นอกจากราคาจะไม่แพงแล้วนั้น ไดร์เป่าผมยังมีดีไซน์สวยงาม ดูหรูหรา มีระดับ ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย สามารถพับเก็บลงในกระเป๋าได้สบาย นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบา เพียง 315g. เท่านั้น เหมาะสำหรับคนชอบเดินทางบ่อย ๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับกำลังไฟสูงสุดถึง 1800w เรียกว่าเล็กพริกขี้หนูจริง ๆ ครับ และด้วยความที่รุ่นนี้มีกำลังไฟสูง ช่วยให้ผมแห้งเร็ว แถมยังช่วยประหยัดเวลาได้อีก มีระบบ Heat Protection ที่จะช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะ จากความร้อน และไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสียอีกด้วย ตัวด้ามจับสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ถึง 3 ระดับ อีกทั้งยังมีลมเย็นที่ช่วยให้ผมอยู่ทรงนานขึ้นอีกด้วย เอาเป็นว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ ของคนที่เดินทางบ่อย ๆ โดยเฉพาะเลย
10. PANASONIC รุ่น EH-NE72
ราคาโดยประมาณ 1,720 บาทหากกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่ช่วยเน้นให้ผมนุ่มลื่น เงางามเป็นประกาย ขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ PANASONIC รุ่น EH-NE72 ที่ได้รับการออกแบบพิเศษ ด้วยนวัตกรรม Shine Boost นวัตกรรมนี้เป็นการใช้ลมร้อนผสมลมเย็นเข้าด้วยกัน โดยการเป่าลมร้อนออกจากส่วนกลาง และใช้ลมเย็นจากทั้งสองด้าน เพื่อกระจายลมได้อย่างทั่วถึงอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้เส้นผมให้มีความนุ่มลื่นและเงางาม บวกกับมีเทคโนโลยีไอออน ที่ช่วยปรับสภาพลดการชี้ฟูของเส้นผมอีกด้วย ตัวสวิตช์เป็นแบบ Cool-Shot กดแค่ครั้งเดียว โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มค้างไว้ เพื่อใช้ลมเย็น เรียกว่าสะดวกสุดๆ แถมดีไซน์สวย หรูหรา ตัวด้ามจับสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน น้ำหนักเบา พกพาง่ายครับ
เป็นไงกันบ้างครับ หลังจากที่ได้เห็นรีวิว “ไดร์เป่าผม” ยี่ห้อไหนดี กันไปแล้วถึง 10 รุ่น ไม่ทราบว่าสนใจอยากจะซื้อรุ่นไหนไปใช้กันบ้างครับ ?? ก็จากที่เห็น ๆ มาเนี่ย ก็มีทั้งยี่ห้อดัง ๆ มีมาตรฐานแน่นอน มีตั้งแต่ราคาหลักพัน ไปจนถึงราคาหลักร้อยเท่านั้น ยังไงตอนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูงบประมาณ และจุดประสงค์การใช้งานอื่น ๆ เช่น ความสามารถในการถนอมเส้นผม ลดการชี้ฟู มีหัวไดร์หลายแบบสำหรับการเป่าผม หรือพับเก็บได้สำหรับการเดินทาง สุดท้ายนี้ก็ขอให้ได้ยี่ห้อที่ถูกใจ ใช้งานแล้วไม่มีปัญหากันนะครับ |