Along with the Gods: The Two Worlds ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า
เรื่องย่อโดยหนังจะเล่าเรื่องของ คิม จาฮง (ชา แทฮยอน) นักดับเพลิงเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด เขาถูกนำตัวไปยังปรโลกเคียงคู่กับเหล่าเทพผู้พิทักษ์ทั้งสาม คือ ผู้นำทีมเทพผู้พิทักษ์ คังลิม (ฮา จุงวู), เทพนักต่อสู้ฝีมือกล้าแกร่ง เฮวอนเมก (จู จีฮุน) และ เทพแห่งมันสมอง ดัคชุน (คิม ฮยางกี) นำไปสู่การผจญภัยฝ่าขุมนรกแห่งบาปทั้ง 7 ที่ทั้งมนุษย์และทวยเทพต้องยำเกรง ได้แก่ นรกแห่งบาปฆาตกรรม, นรกแห่งบาปเกียจคร้าน, นรกแห่งบาปหลอกลวง, นรกแห่งบาปอยุติธรรม, นรกแห่งบาปทรยศ, นรกแห่งบาปความรุนแรง, นรกแห่งบาปอกตัญญู เพื่อพิสูจน์ตัวตนให้ผ่านด่านพิพากษาจาก ราชันย์ยอมรา (รับบทโดย อี จุงแจ) เทพแห่งนรก เพื่อจะได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งภายในกำหนดเวลา 49 วัน และในขณะเดียวกันเพื่อตามล่าสืบค้นเบื้องหลังปริศนาในตัวของ คิม จาฮง เหล่าเทพผู้พิทักษ์จึงต้องเดินทางมายังโลกของมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของชีวิตที่พวกเขากำลังปกป้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
ไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องใหนในปี 2017 นี้ที่ทำให้ให้ร้องให้ได้อีกแล้วนะ หลังจากเรื่อง Kimi no Suizo wo Tabetai ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ แต่พอได้ดูเรื่องนี้จบ มันไม่ใช่แค่ซึมๆนะสิ แต่สะอึกสะอื้นเป็นบ้านเป็นหลัง ตอนแรกก็คิดว่ามันจะดราม่าอะไรขนาดนี้นะ
ถ้าดูจากหน้าปกหนังใครๆก็คิดว่ามันต้องเป็นหนังแอคชั่น แฟนตาซี ผจญภัยประมาณนั้น แต่พอเอาเข้าจริง เปิดเรื่องมาหนังเข้าเรื่องเร็วมาก ไม่ต้องท้าวความอะไรให้ยืดยาด พอดูๆไปหนังจะพยายามเฉลยถึงสิ่งที่เราสงสัยออกมาทีละหน่อย เหมือนจะเป็นอย่างที่คิดว่ามันต้องแอคชั่นแน่ๆ พอดูไปดูมา เอ้า! หนังกลับมีความดราม่าซะงั้น ไม่ใช่ดราม่าธรรมดานะ ดราม่าโคตรหนักหน่วงตลอดทั้งเรื่อง
หนังเหมือนจะไม่มีปมเยอะมากมายในตอนแรกนะ แต่พอดูๆไปปมของตัวละคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
แต่ถึงจะมีดราม่าหนักหน่วง หนังก็ยังมีส่วนฮาๆ ตลกๆมาให้หายสะอึกสะอื้นปนๆกันไปอยู่บ้าง มุขแต่ละมุขส่วนใหญ่ก็เป็นมุขแบบเกาหลีมากๆอะ แบบว่าไม่ต้องใช้คำพูดอะไรมากมายให้มันฮาเลยนะ (ถ้าคนดูซี่รี่ย์เกาหลีมาเยอะจะพอเดาได้ว่ามันเป็นยังไง) ใช้แค่กริยาท่าทาง สีหน้าและการแอคติ้ง เออ มันฮานะเฮ้ย มันฮาจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ตรงนี้สปอยนะ
ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเร็ว ตรงใหนส่วนใหนที่คิดว่าคนดูน่าะรู้อยู่แล้วก็ไม่ลงลึกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย หลายๆฉากหลายๆปมเป็นการดำเนินเรื่องในแบบที่ให้คนดูได้คิดตามว่าท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร บางส่วนที่ซับซ้อนหรือยากเกินไปที่จะคิดตามตัวหนังก็มีความผ่อนความเร็วลง เพื่อให้คนดูได้มีเวลาในการคิด และหายใจด้วยเช่นกัน
ฉากแอคชั่นต่อสู้โคตรเจ๋งมาก ทั้งฉากต่อสู้ ฟันดาบ การใช้อาวุธต่างๆ ที่ตัวละครทุ่มเข้าใส่กันมันมีความเท่ มีความเป๊ะ มีความมาด ยิ่งได้พระเอกแถวหน้าอย่างจุงวู และจีฮุนมาเล่นในบทนี้แล้วคือแบบว่าเท่ Susๆ อย่างกะนีโอใน The Matrix อะ โอ๊ยยยย โคตรเท่ เท่ Shift หาย ฉากไล่ล่าก็ไม่ธรรมดานะ แต่ละฉากนี่จัดเต็ม (อย่างกับ Volcano High ศึกป่วนฟ้าโรงเรียน มหาเวทย์ + Man of Streel) คือแบบว่าแต่ละฉากโคตรเจ๋งทั้งมุมกล้อง ทั้งวิธีการเคลื่อนที่ วิธีการวาร์ปของเทพกับวิญญาณ ดูแล้วตะโกน Here ออกมาดังมาก โอยยย ส่วน ฉากทำลายล้างก็เล่นใหญ่ดีมาก ถึงแม้บางส่วน CG อาจดูลอยๆไปหน่อย แต่แทบลืมไปได้เลยเพราะได้ส่วนของความดราม่ามาบังไว้หมด ยกนิ้วให้เลยตรงนี้
ที่เด็ดไม่แพ้กันเลยคงจะหนีไม่พ้น ซาวด์หรือสกอร์ประกอบ ฉากไล่ล่าก็ลุ้นกันกันแบบใจหายใจคว่ำ ฉากใหนต่อสู้ก็มันส์เวอะๆ อย่างกะหนังฮอลลีวูด ฉากเรียกน้ำตากก็บิวท์ซะแทบบ่อน้ำตาแตกกันไปข้างนึงอะ เออชอบมากตรงนี้ ถึงแม้ว่าซาวด์จะไม่ติดหูสักเท่าไหร่หลังดูหนังจบ แต่มันก็เจ๋งมากที่ทำให้อารมของเรานั้นอินไปกับภาพที่ดูอยู่ได้ปรบมือ
สนุกมากๆ สนุกที่สุด ไม่รู้จะหักคะแนนไปเพื่ออะไร ฮา จุงวู มาดโคตรเข้ม ฉากชูดาบแต่ละฉากนี่โคตรเท่
หลังจากดูจบได้ข้อคิดเยอะมากนะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การใช้ชีวิตอย่างไรให้คุ้มค่า การช่วยเหลือผู้อื่น การคิดร้ายคิดดีต่อกัน และท้ายที่สุดเลยที่เห็นหลักๆคือ การกตัญญู (อยากกลับบ้านไปกอดแม่มากๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้คะแนนเลยนะไม่ต้องคิดอะไรมาก 10/10 ก็ตามนี้ ชอบมาก (กำลังจะไปดูอีกรอบ ^^)
มาร่วมแชร์ความรู้สึกหลังดูหนังกันครับ