ความ รู้ เบื้องต้น เกี่ยว กับ ช่าง ตัดผม

ตำนานการซอยผม
ประวัติศาสตร์ของการซอยผมตามแบบมาตรฐานมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1965 ในนครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ช่างผมได้ค้นคว้านำหลักวิชาเรขาคณิต มาประกอบการออกแบบทรงผมแบบทรงต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร บุคคลส่วนมากยังคงนิยมทรงผมแบบยีหัวโตเหมือนเดิม
ถึงช่วงปลายปี ค.ศ.1960 เด็กผู้หญิงและหญิงสาวได้รับอนุญาตให้ไว้ผมเหยียดตรงและยาว เด็กผู้หญิงที่ผมไม่ได้เหยียดตามธรรมชาติต้องไปยืดรอยหยิกออกจากผมด้วยเตารีดผ้า
ความนิยมผมยาวเหยียดตรงยังคงดำเนินอยู่ต่อไป โดยนักออกแบบแฟชั่นฝรั่งเศส กูแรช และการ์แด็ง และนักออกแบบแฟชั่นชาวอังกฤษ แมรี ควอนต์ พากันตัดผมนางแบบจนเกือบเป็นรูปทรงเรขาคณิตในคอลเลคชั่น
กึ่งทศวรรษ ต่อมา ปี ค.ศ.1968 วิดัล ซาสซูน ผู้นำหลักการออกแบบผมมาดัดแปลงประกอบการซอยที่เรียกว่า ตัดแบบเรขาคณิตทำให้ชื่อเสียงดังไปทั่วโลก ช่างเสริมสวยทั้งในประเทศและต่างประเทศพากันไปเป็นลูกศิษย์ เพื่อศึกษาหลักการออกแบบทรงผมเป็นจำนวนมาก
นับว่าเป็นหลักมาตรฐานของการออกแบบทรงผมที่ทุกคนยอมรับ เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบปฏิบัติในการประกอบอาชีพเทคนิคการซอยแบบผม แต่ละสมัยไม่แตกต่างกันมาก
เพื่อต้องการให้เป็นพื้นฐานของแนวทางออกแบบผมได้มาตรฐาน ปฏิบัติได้แม่นยำผมเข้ารูปทรงดี การตัดซอยผมควรจะต้องมีศิลปะคือ ให้มองดูแล้วมีการเคลื่อนไหว รูปหน้าและความแตกต่างของโครงสร้างเส้นผมเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะของแต่ละประเทศ คนเอเซียมีผมดำ คนยุโรปมีผมสีทอง ส่วนคนผิวดำหรือที่เรียกว่านิโกรมีเส้นผมหยิก ผมมี 3 ชั้น คือ ผมชั้นนอก ผมชั้นใน และผมชั้นกลาง ศีรษะของคนจะมีขวัญหลายรูปแบบแตกต่างกัน ทำให้การซอยผมผิดเพี้ยนไป ดังนั้นช่างผมจะต้องศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้

ความ รู้ เบื้องต้น เกี่ยว กับ ช่าง ตัดผม

การซอยผมแบบมาตรฐาน
ที่นิยมคือ การซอยซิกแซ็ก เป็นเทคนิคที่ทำให้ผมดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติไม่ต้องใช้มีดโกนซอยอีกครั้งหนึ่ง และนี่คือจุดได้เปรียบซึ่งการซอยผมแบบซิกแซ็ก ทำให้เกิดผลดี คือ ผมดูเบาบาง เส้นผมจะพลิ้วเป็นธรรมชาติ การซอยผมซิกแซ็ก จะทำให้ผมดูหนาหรือบางอย่างไรก็ได้ หากซิกแซ็กลึกผมหนาก็จะทำให้ดูบาง หากซิกแซ็กตื้นผมบางก็จะทำให้ดูหนา การซิกแซ็ก ที่เส้นกรอบผมทำให้ใบหน้าดูไม่แข็ง และดูเป็นธรรมชาติขึ้น โดยจะสามารถทำให้ผมบางโดยดูแล้วความยาวไม่สั้นลง และทำให้ได้ผมที่พลิ้วสลวย หวีและจัดรูปทรงได้ง่าย ตลอดจนเทคนิคการซอยผมก็ยังเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เพราะต้องการผมประเภทนุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการซอยผมด้วยใบมีด ซึ่งเป็นวิธีการซอยแบบเก่ากว่ากรรไกร และยังมีเทคนิคการซอยอีกวิธีหนึ่ง ที่จะได้ผมที่นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ โดยมากมักได้ผมที่บางและเบา

การซอยด้วยใบมีด
อาศัยหลักเช่นเดียวกันกับกรรไกร แต่วิธีการซอยและผลที่ออกมาจะไม่เหมือนกันซึ่งการซอยผมด้วยมีดโกนมี 3 วิธีดังนี้
1.การถากและตัด โดยจะถากผมสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับความต้องการผมหนาหรือบาง เมื่อถากมาถึงปลายผมตามต้องการ ให้ออกแรงกดผมก็จะขาด
2.การตัดและดึงเข้าหาตัว โดยกดปลายมีดลงบนเส้นผม ออกแรงดึงเข้าหาตัวเล็กน้อยผมจะขาด ผมที่ได้จะมีลักษณะค่อนข้างหนาเพราะไม่ได้ถากผม
3.การตัดและโยกผม โดยวิธีกดใบมีดไว้และโยกผมหรือเหวี่ยงผมไป ให้เคลื่อนมีดโกนตามด้วย ผมจะขาด และถากจากแรงเหวี่ยงเล็กน้อย ผมจะไม่หนาเกินไป ในขณะเดียวกันก็ไม่บางเกินไป
ที่ผ่านมามีคนเคยนิยมใช้มีดโกนในการซอยผม เพราะทรงผมโดยมากเป็น ทรงผมที่นุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นผมกลับกลายเป็นตรงที่มีน้ำหนัก เส้นผมคมชัด โดยเฉพาะที่เส้นกรอบ เมื่อความนิยมทรงผมเปลี่ยนไปกรรไกรจึงเข้ามาแทนที่มีดโกน นับจากนั้นมาเป็นเวลานานทีเดียว ที่กรรไกรได้ยึดครองอยู่ในวงการซอยผมทั่วทุกมุมโลกให้การยอมรับอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของทรงผมเป็นตัวกำหนดนั้นเอง


การซอยผมดว้ยกรรไกร

การตัดซอยแบบตรงๆ
1.การซอยตรงๆแนวนอน
2.การซอยตรงๆแนวตั้ง
3.การซอยตรงๆแนวทะแยง
4.การซอยแนวโค้ง
5.การซอยแบบผสมผสาน

การตัดซอยแบบซิกแซ็ก
1.การซอยซิกแซ็กแนวนอน
2.การซอยซิกแซ็กแนวตั้ง
3.การซอยซิกแซ็กแนวทะแยง
4.การซอยซิกแซ็กแนวโค้ง
5.การซอยซิกแซ็กแบบผสมผสาน

การตัดซอยแบบสไลด์
1.การซอยสไลด์แนวนอน
2.การซอยสไลด์แนวตั้ง
3.การซอยสไลด์แนวทะแยง
4.การซอยสไลด์แนวโค้ง
5.การซอยสไลด์ผสมผสาน


การตัดซอยผมด้วยปัตตาเลี่ยน
1.การตัดแนวนอน
2.การตัดแนวตั้ง
3.การตัดแนวทะแยง
4.การตัดแนวโค้ง
5.การตัดผสมผสาน
6.การแกะลายผม

ความ รู้ เบื้องต้น เกี่ยว กับ ช่าง ตัดผม

เรียนรู้โครงสร้างเส้นผม ก่อนการออกแบบ-ตัดซอย
นอกจากที่เราจะต้องรู้เรื่องโครงสร้างเส้นผมแล้ว จะต้องรู้ลึกไปถึงส่วนประกอบของเส้นผมด้วยว่า ในผมหนึ่งเส้นจะแบ่งชั้นผมออกเป็น 3 ชั้นคือ ผมชั้นนอก ผมชั้นใน และผมชั้นกลาง(แกนผม) ชั้นของเส้นผมแต่ละชั้นจะทำหน้าที่ต่างกัน ซึ่งแต่ละชั้นเพื่อประโยชน์ของการทำเคมีเป็นสำคัญ ไม่เพียงแต่ชั้นของเส้นผมเท่านั้นที่ต้องทำความเข้าใจ
ศีรษะของคนก็ยังมีขวัญหลายรูปแบบที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะทำให้มาตรฐานของการตัดซอยผมผิดเพี้ยนต่างกันออกไป ต้องทำความเข้าใจเช่นกัน สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการตัดซอยผมนั้น ก็เพื่อจะกำจัดความหนาแน่นของเส้นผม การซอยผมถ้าผมแห้ง ควรจะใช้กรรไกรฟันไล่เพื่อลดความหนา ส่วนการซอยผมเปียกควรใช้กรรไกรธรรมดาหรือมีดโกนในตัดซอย ส่วนผมสั้นและปานกลาง ควรใช้ปัตตาเลี่ยนในการตัดซอย[สวยและรวดเร็ว]
ซึ่งลักษณะของเส้นผม จะเป็นตัวกำหนดจุดตั้งต้นว่า ควรจะซอยผมใกล้กับหนังศีรษะได้มากน้องแค่ไหน เช่นกรณีเส้นผมที่มีความละเอียด สามารถซอยผมให้ใกล้กับหนังศีรษะได้มากกว่าเส้นผมหยาบ เหตุผมก็คือ ถ้าซอยผมหยาบใกล้กับหนังศีรษะมากเกินไปปลายผมสั้นๆที่ซอยไว้ จะโผล่แทงขึ้นด้านบน ส่วนผมที่ละเอียดนั้น ผมจะอ่อนและยืดหยุ่นได้ง่าย ถึงจะซอยผมให้สั้นผมก็ยังคงเรียบติดกับศีรษะ ไม่กระดกขึ้นมา การซอยผมนั้นจะซอยผมออกมากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับทรงผมที่ตกแต่งให้เป็นรูปทรง
เส้นผมละเอียด ตั้งต้นซอยห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1/2 นิ้ว ถึง 1 นิ้ว -เส้นผมธรรมดา ตั้งต้นซอยห่างจากหนังศีรษะ 1 นิ้ว ถึง 1 ½ นิ้ว -เส้นผมหนา ตั้งต้นซอยผมห่างจากหนังศีรษะ 1 ½ นิ้ว ถึง 2 นิ้ว อีกหลักการหนึ่งที่มีความสำคัญในการซอยไม่แพ้หลักการใด คือ การยกมือขึ้นซอยตามระดับองศา จะประกอบด้วย 90 องศา 180 องศา 270 องศา และ 360 องศา ซึ่งหลักการยกมือในแต่ละระดับนั้นจะให้ผลลัพธ์ของการตกแต่งของเส้นผมที่แตกต่างกัน

เรียนรู้โครงสร้างศีรษะก่อนการวางกรอบทรง[Referencepoint ]
หรือจุดอ้างอิงที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงผมบนศีรษะ มีตั้งแต่ส่วนของหู จอนไลน์ ท้ายทอย (จุดทุย) หรือ apex (จุดด้านบนสุดของกะโหลกศีรษะ) ซึ่งหากทำความเข้าใจในเรื่องจุดต่างๆ ในโครงสร้างทั้งหมดของศีรษะ ก็จะสามารถนำมาใช้ในการออกแบบทรงผมได้อย่างที่ต้องการ
สิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้โครงสร้างของกะโหลกศีรษะ -เป็นเครื่องการันตีว่าจะทำให้การออกแบบทรงผมได้ชัดเจนแน่นอน ไม่ผิดพลาด -จะช่วยให้ตัดผมออกมาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ -จะช่วยให้สามารถแก้ไขการออกแบบทรงผม เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับรูปกะโหลกศีรษะ โครงสร้างศีรษะที่อาจไม่เหมือนกันของลูกค้าในแต่ละรูปแบบ ทำให้สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงวิธีตัดไปตามสถานการณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

****************************











เรียนตัดผม-ซอยผม เป็นไว หางานง่าย รายได้ดี
อาจารย์ชายชนะ  081-3065-169 หรือ 080-058-3044
เรียนตัดผมชายหลักสูตรไหนดี
1.หลักสูตร 1 เดือน (300ชม.)
เรียนวันละ 10 ชม.30 วัน
จบแล้ว เป็นช่างตัดผมฝึกงานตามร้านได้เลย
ค่าเรียน แปดพันบาท
รับจำนวน 10 คน/รุ่น
**********************
2.หลักสูตร 2เดือน(600ชม.)
เรียนวันละ10ชม.60 วัน
จบแล้วเป็นช่างตัดผมชายได้จริง
ค่าเรียน หมื่นสามพันบาท
รับจำนวน 5 คน/รุ่น
**********************
3.หลักสูตร 3 เดือน(900ชม.)
เรียนวันละ10ชม.90วัน
จบแล้วออกแบบทรงผมได้จริง
ค่าเรียน หมื่นห้าพันบาท
รับจำนวน 3คน/รุ่น
************************
4.หลักสูตรเจ้าของร้าน
เรียนตัดผมจากนายแบบจริง 300 หัว
ไม่จำกัดวันและเวลาเรียน
ค่าเรียนสองหมื่นบาท
รับจำนวน1 คน/รุ่น
จบแล้วเปิดร้านตัดผมได้จริง
***********************
สนใจเรียน สอบถามรายละเอียด 
โทร.081-306-5169 หรือ 080-058-3044


*****************************