ชื่อหลักสูตร ชื่อปริญญา ปรัชญา / วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร คุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ของหลักสูตร แนวทางประกอบอาชีพ แนวทางการศึกษาต่อ ค่าธรรมเนียม โครงสร้างหลักสูตร
ภาษาไทย: หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ: Bachelor of Arts Program in Thai Language
ภาษาไทย: ศิลปศาสตรบัณฑิต (ภาษาไทย)
ภาษาอังกฤษ: Bachelor of Arts Program (Thai
Language)
ปรัชญาและความสำคัญของหลักสูตร
ผลิตบัณฑิตที่รอบรู้ด้านภาษาและวรรณกรรมไทย มีความคิดเชิงนวัตกรรม ดำรงความเป็นไทยโดยสามารถเชื่อมโยงสัมพันธ์กับพหุสังคมและพหุวัฒนธรรมที่แวดล้อมได้เพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน
(1) เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ มีคุณธรรมจริยธรรม และเป็นพลเมืองที่ดี
(2) มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทย
สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านภาษาไทยในการดำรงชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
(3) สามารถคิดอย่างเป็นระบบ มีวิจารณญาณในการแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์และมีเหตุผล
(4) สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารได้อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ
(5) ตระหนักในคุณค่าความเป็นไทย เข้าใจความแตกต่างและเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
1. มีความรู้และความเข้าใจ ภาษา วรรณกรรม คติชน และสังคมภาคใต้
2.
รู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วยความเข้าใจเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ครู อาจารย์ นักวิจัย นักแปล ผู้สื่อข่าว บรรณาธิการ นักเขียน องค์กรราชการ งานประชาสัมพันธ์
สามารถศึกษาต่อระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ในสาขาวิชาภาษาไทย วรรณคดีไทย วรรณกรรม คติชน หรือสาขาอื่น ๆ ได้ ในทุกสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ
–
ค่าธรรมเนียมการศึกษาต่อภาคการศึกษา 13,900.- บาท
– ค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตร 166,800.- บาทจำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 153 หน่วยกิต
ก. หมวดวิชาศึกษาทั่วไป
40
หน่วยกิต
1) กลุ่มวิชาภาษาไทย
ไม่นับรวมรายวิชา GEN64-011 ภาษาไทยพื้นฐาน (2 หน่วยกิต)*
4
หน่วยกิต
2) กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ
ไม่นับรวมรายวิชา GEN64-021 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน (2 หน่วยกิต)*
16
หน่วยกิต
3) กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
4
หน่วยกิต
4) กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4
หน่วยกิต
5) กลุ่มวิชากีฬาและสุขภาพ
ไม่นับรวมรายวิชา GEN64-151 กีฬา นันทนาการและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ (2 หน่วยกิต)*
2
หน่วยกิต
6) กลุ่มวิชาธุรกิจและการประกอบการ
3
หน่วยกิต
7) กลุ่มวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ไม่นับรวมรายวิชา ITD64-171 เทคโนโลยีสารสนเทศในยุคดิจิทัล (2 หน่วยกิต)*
7
หน่วยกิต
หมายเหตุ * ไม่นับหน่วยกิตในโครงสร้างหลักสูตร
ข. หมวดวิชาเฉพาะ
105
หน่วยกิต
1) กลุ่มเนื้อหาวิชาเฉพาะหลัก
48
หน่วยกิต
2) กลุ่มเนื้อหาวิชาเฉพาะเลือก
40
หน่วยกิต
3) กลุ่มวิชาสหกิจศึกษา
17
หน่วยกิต
ค. หมวดวิชาเลือกเสรี
8
หน่วยกิต
สมัครเรียนกับเรา
สวัสดีค่า วันนี้แพรมาแบบมีสาระมากกว่าครั้งก่อนๆนิดนึงน้า5555 ขอมาพูดถึงคณะของตัวเองที่แพรได้เรียนรู้มาตลอดเกือบๆจะ 4 ปีเต็มแล้วค่า นั่นก็คือ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลนั่นเอง ^__^ โดยแพรเป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ เอกสาขาวิชาภาษาไทย โทสาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 4 ค่ะ ซึ่งก่อนที่แพรจะเรียนจบไป รู้สึกอยากฝากกระทู้ที่เกี่ยวกับคณะของตนเองสักหน่อย เพราะบางคนอาจมองว่าเอกไทยเนี่ยเขาเรียนอะไรกัน? เรียนแต่งกลอนหรอ? หรือว่านั่งอ่านศิลาจารึก? เอ๊ะ…หรือว่าหมกตัวอ่านวรรณกรรม ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ต้องได้คะแนนไม่ดีแน่ๆเลยถึงมาเรียนเอกไทย หรือว่าหนักสุดที่เคยเจอคนมองแล้วคิดแบบพีคสุดคือ ไม่มีที่ไปใช่ไหมลูก? TOT ไม่ใช่ค่า5555 ตลอดเวลาในรั้วคณะศิลปศาสตร์ เอกสาขาวิชาภาษาไทยของแพรและเพื่อนๆที่ได้เรียนเอกไทย(ขอพิมพ์ย่อๆอย่างนี้เน้อะ)สนุกมาก และเรียนหลากหลาย มีความน่าสนใจในหลายๆด้าน แพรเลยคิดว่าวันนี้แพรขอพาเพื่อนๆอีก 3 สาวคนสวยมาพูดคุยเกี่ยวกับ “เอกไทย” กันดีกว่า ว่าที่จริงแล้ว…เอกไทยคือไร? เรียนอะไร? มีดีอะไร? เพื่อให้ข้อมูลแบบไม่เครียดแก่น้องๆที่สนใจอยากเข้าเอกไทย แต่ก็ยังไม่รู้จักมากพอ ข้อมูลหายาก โดยพวกเราจะเน้นเฮฮา สนุกสนาน แชร์ประสบการณ์จริงท่ีได้สัมผัสมาค่ะ
เรียงตามภาพซ้ายไปขวาคือ แพร บี เอ และก็โบนัส ที่จริงอยากชวนเพื่อนมาเม้ามอยอีกหลายคนเลยค่ะ แต่ว่านัดเวลาว่างกันค่อนข้างยากนิดนึง บางคนทำงานแล้วค่า เลยเป็น 4 สาวก่อนน้า
พร้อมกันหรือยังเอ่ย? ถ้าพร้อมแล้ว ขอเชิญเข้าสู่โลกเม้ามอยตามประสาสาวๆอยู่ด้วยกันค่ะ555555 อรรถรสอะไรขนาดนั้นลูก >O<
ใครอยากอ่าน ขอเชิญอ่านต่อได้เลยจ้า…
คณะศิลปศาสตร์ เอกสาขาวิชาภาษาไทยของเรา จะมีอยู่ 4 สายด้วยกันคือ
- สายภาษาสื่อสารมวลชน
- สายคติชนวิทยา
- สายวรรณกรรม วรรณคดี
- สายภาษาศาสตร์
โดยที่นักศึกษาสามารถเรียนรวมกันได้ค่ะ หรือถ้าชอบสายใดสายหนึ่ง ก็สามารถลงเรียนสายนั้นเยอะสุดเลยก็ได้ค่ะ ต่อมาแพรจะพูดถึงรายละเอียดแบบคร่าวของแต่ละสายกันสักนิดนึงว่าเราเรียนกันแนวไหน? ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าที่จริงมีเยอะกว่านี้มากค่ะ ใครอยากรู้เพิ่มเติมสอบถามกันมาได้เลยนะคะ แพรและเพื่อนๆยินดีให้ข้อมูลมากๆค่ะ
สายภาษาสื่อสารมวลชน
สายภาษาสื่อสารมวลชน ขอบอกเลยว่าเป็นสายที่ทั้งแพร บี และโบนัสชอบมากที่สุดเลย อิอิ เรียกได้ว่าต้องลงทุกเทอม ❤ ใครบอกว่าเอกไทยคือโบราณ ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดค่า เพราะว่าเราจะได้เรียนทั้งวิชาการพูดแบบพิธีกร มีสอบปฏบัติจำลองว่าเราเป็นพิธีกรในงานต่างๆ อาทิ งานแต่งงาน งานบวช งานปัจฉิมนิเทศ ฯลฯ หรือจะวิชาหลักและศิลปะการพูด ที่จะได้ออกมาพูดหน้าห้องเรียน จำลองให้ขายสินค้าอย่างหนึ่งที่อาจารย์จะเป็นคนเลือกให้ แล้วต้องพูดให้น่าสนใจ ให้คนซื้อ แพรจำได้ว่าแพรได้ขายฝักบัวที่พื้นเป็นหญ้างอกๆขึ้นมา ออกแนวป่าดงดิบมาก55555 เราก็ต้องมาคิดล้ะ ว่าเราจะพูดวิธีไหน เกริ่นเข้าประเด็นอย่างไรให้น่าสนใจ และปิดท้ายการพูดอย่างไรให้กินใจผู้ฟังจนเค้าอยากซื้อ อย่างเอ ก็ได้ฝักบัวเหมือนแพร55555 นางก็ต้องหาวิธีพูดให้น่าสนใจ สนุกมากจ้า ทั้งคลาสคือขำกันมาก เพราะแต่ละคนจะหาวิธีพูดที่แบบ… ยังไงเธอก็ต้องซื้อ 5555 ส่วนโบนัสได้ถุงออกกำลังกาย แปลกมากค่ะ แต่เพื่อนก็ขายได้ >__< หรือว่าเล่าเรื่องประสบการณ์ โบนัสนางเล่าเรื่องผีค่า มีการปิดฟง ปิดไฟเล่า คือเล่าน่ากลัวมาก เพื่อนกลัวมาก จนตอนกลางคืนต้องเปิดไฟนอน55555
อันนี้ตอนที่โบนัสและกอล์ฟ(เพื่อนสาวของพวกเราอีกคนหนึ่ง^__^) ได้ใช้วิชาที่เรียนมา มาเป็นพิธีกรคู่ในงานวันมหิดลวิชาการ ของคณะศิลปศาสตร์ค่า
ส่วนบีได้ใช้ทักษะการพูดแบบพิธีกรมาพูดดำเนินรายการของช่อง OverclockZoneTV ด้วยจ้า
ส่วนภาพนี้คือตอนพวกเราไปทัศนศึกษาดูงานที่รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเพียบ^^
ส่วนวิชาภาษาเพื่อการประชาสัมพันธ์องค์กร วิชานี้ก็สนุก เราจะทำยังไงเพื่อให้รักษาภาพลักษณ์ขององค์กรทั้งภายในและภายนอกให้มันดี ขอยกตัวอย่างการบ้านชิ้นนึงมาแล้วกันค่ะ คืออาจารย์ก็จะมีโจทย์จากสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง แล้วให้เราลองมาวิเคราะห์กันว่าถ้าเราเป็นนักประชาสัมพันธ์องค์กร เวลาองค์กรเราเจอปัญหา เรามีวิธีจัดการปัญหานั้นอย่างไรเพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ขององค์กรเสียหายค่ะ เราก็จะได้ระดมความคิดกัน มันสนุกมากๆเลย ^^
และรูปด้านล่างนี้คือวิชาที่เพื่อนๆเรียนกันค่ะ การพูดกระจายเสียง น่าเรียนมากๆ เลยเก็บภาพมาฝากน้องๆและผู้อ่านกันค่า
หรือใครอยากเป็นนักเขียนตัวน้อยๆ หรืออยากเป็น J.K. Rowling ก็มีวิชาเขียนบทให้ลงเรียนกันค่ะ วิชานี้แพรกับบีได้ลงเรียน การบ้านค่อนข้างเยอะนะแต่ว่าก็สนุกมากเช่นกัน มีเขียนทั้งบทดีเจ, สปอตวิทยุ, บทภาพยนตร์, บทละคร, บทเรื่องสั้น และยังได้เรียนรู้มุมภาพ คำศัพท์ในแวดวงการเขียนบทต่างๆ
ซึ่งวิชาการเขียนบทนี้เอง ทำให้เพื่อนพวกเรา ชื่อ เจน ค่ะ ได้ไปร่วมฝึกงานเขียนบทกับ “เป็นต่อ” มาแล้ว ^^
นอกจากวิชาข้างต้น จะบอกว่ามีอีกหลากหลายวิชามากๆกระทู้นี้น่าจะบรรยายไม่หมด เลยขอเลือกที่ประทับใจกันมาละกันนะคะ อ่ะ…อย่างเช่นวิชาการเขียนในสื่อสิ่งพิมพ์ ในรายวิชานี้ เราจะได้ทำนิตยสารด้วยตนเอง คือเริ่มคิดการใช้ภาษา การวางoutline ของนิตยสารตัวเอง จะตั้งชื่อนิตยสารว่าอะไร บทบรรณาธิการจะเขียนอย่างไร ในนิตยสารจะมีคอลัมน์อะไรบ้าง ให้เขียนและออกแบบสิตยสารของเรา แล้วส่งเป็นเล่มนิตยสารเลยค่า สนุกสนานกันไป ฝึกการใช้โปรแกรมโฟโต้ชอปตัดตกแต่งรูปไปพลางๆ ฝึกคิด ฝึกเขียนเยอะมาก แล้วนอกจากได้ทำนิตยสารของตัวเองเล่มนึงแล้ว ยังมีให้เขียนข่าว เราจะได้ลองเขียนข่าวทุกประเภทเลย อย่าง อาชญากรรมนี่ก็ทั้ง กระซวก แทง จ้วง บลาๆๆ ก็ได้ลองเอาคำเหล่านี้มาใช้เขียน ฝึกการเป็นนักข่าวค่ะ
วิชาการเขียนในสื่ออินเทอร์เน็ต ในรายวิชานี้เราจะได้เรียนการเขียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเขียนในสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น การเขียนบล็อก, เขียนเว็บไซต์ให้เราสร้างเป็นเว็บของเราเองแล้วลงมือเขียน ฯลฯ ซึ่งวิชานี้แหล่ะที่ทำให้เพื่อนๆรวมไปถึงแพรกับบีได้เอามาต่อยอดเขียนบล็อก เขียนกระทู้ตามเว็บต่างๆนั่นเองค่า55555
และยังมีอีกหลายวิชาที่เราได้เม้ากัน ถ้าเพลิดเพลิน ก็ไปฟังในคลิปได้เลยค่า พิมพ์แล้วกลัวยาวเกิน T_T
สายคติชนวิทยา
ส่วนสายคติชนวิทยา จะเรียนข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพื้นบ้าน ความคิด ความเชื่อของคน โดยพวกเราจะได้ทำงานวิจัยกันจริงๆ ถือเป็นงานใหญ่เลย เราจะได้ลองฝึกลงพื้นที่กันจริงจัง (ลงพื้นที่คือการลงเก็บข้อมูลภาคสนามนั่นเองจ้า) ใครเขินนี่ไม่ได้เลยน้า เพราะต้องไปขออนุญาตเก็บข้อมูลกับคุณลุง คุณป้า ที่เราไม่รู้จักจ้า เช่น แพรทำงานวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องความฝันของคนไทย ว่าถ้าฝันถึงสิ่งนี้จะเชื่อว่าอะไร ดีหรือไม่ดี แล้วก็ได้ลงไปพูดคุยสอบถามกับคนในพื้นที่ที่เราเลือกศึกษากันอย่างจริงๆจังๆ บอกเลยว่าสนุกมากกก ส่วนของพี่โบนัส มีความสนุกสนานมากกับวิชานี้ พี่โบนัสทำเกี่ยวกับเรื่อง ศึกษาประเพณีชิงเปรต …อ้า อยากรู้กันล่ะสิ? เอ๊ะ มันคืออะไรหว่า? วิชานี้จะทำให้รู้มากยิ่งขึ้น แล้วก็พี่โบนัสได้ลงใต้เพื่อไปเก็บข้อมูลแบบจริงๆจังๆเลย ทุ่มทุนสร้างมาก
สายวรรณกรรม วรรณคดี
ต่อมาคือสายวรรณกรรม วรรณคดี ซึ่งใครชอบอ่านหนังสือก็จะชอบสายนี้มาก มีหลากหลายวิชาให้เลือกเรียนเช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างวิชาที่เอชอบคือ วิชาวรรณกรรมกับสังคม วิชานี้ทำให้เราได้รู้ว่าในวรรณกรรณเรื่องหนึ่งที่เราได้หยิบมันมาอ่าน วรรณกรรมเรื่องนั้นได้สะท้อนหรือเป็นภาพแทนสังคมอย่างไร จากที่ตอนก่อนเรียน เวลาเราอ่านหนังสือ เราก็จะอ่านแต่ผิวเผิน แต่พอเรียนวิชานี้ทำให้เกิดกระบวนการคิดที่มากขึ้น เห็นอีกหลายๆมุมมองมากยิ่งขึ้น วิชาเรียนที่น่าสนใจ และแพรจำได้ว่ามีอยู่เทอมนึงที่พวกเราเอกไทยต้องอ่านวรรณกรรมกันถึง 15 เล่มเล่ยทีเดียว >O< ได้มุมมอง ความคิดผ่านการอ่านวรรณกรรมเยอะมากค่ะ
สายภาษาศาสตร์
และสายสุดท้ายคือสายภาษาศาสตร์ วิชาทางด้านภาษาศาสตร์ อย่างที่บอกคือมันจะเป็นการศึกษาภาษาอย่างเป็นระบบ ศึกษาภาษาแบบวิทยาศาสตร์เนอะ ใครที่เคยเรียนสายวิทย์มาน่าจะชอบ อย่างวิชาลักษณะภาษาไทยกับภาษาศาสตร์ภาษาไทย สองวิชานี้จะเหมือนเป็นการแนะนำภาษาศาสตร์แบบกว้าง ๆ เรียนอินโทรเกี่ยวกับเสียง คำ ประโยค วากยสัมพันธ์
วิชาอิทธิพลภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วิชานี้เรียนเหมือนชื่อวิชาเลย เราจะเรียนเกี่ยวกับการรับอิทธิพลของภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้ในภาษาไทยว่ามีวิธีอะไรบ้าง ทั้งภาษาอังกฤษ จีน เขมร เปอร์เซีย อาหรับก็มานะ วิชานี้เรียนแล้วก็แอบทึ่งว่า อ้าว นี่เราเอาของเขามาใช้เยอะเหมือนกันนะเนี่ย
ต่อไปเป็นวิชาสัทศาสตร์และสรวิทยาภาษาไทย หรือชื่อภาษาอังกฤษมันก็คือ phonetics and phonology แบบนี้น่าจะคุ้นหูบ้างเนอะ วิชานี้เรียนเรื่องเสียงและระบบเสียงภาษาไทย เรียนว่าเรามีวิธีการผลิตเสียงอย่างไร กระบวนการเกิดเสียง การจัดระบบเสียง การวิเคราะห์หาหน่วยเสียง
ที่พูดมามันจะเป็นภาษาศาสตร์แบบเพียว ๆ เลยค่ะ เนื้อหามันก็จะวิชาการนิดนึง หลายคนคงสงสัยว่าแล้วเรียนไปทำไม คำตอบมันอยู่ที่วิชาภาษาศาสตร์ที่เป็นสายประยุกต์ ก็มีภาษาศาสตร์สังคมเบื้องต้น วัจนปฏิบัติศาสตร์ภาษาไทย การสอนภาษาไทยให้ชาวต่างประเทศ
วิชาสอนภาษาไทยให้ชาวต่างประเทศ วิชานี้แพรกับบีลงเรียนค่ะ สนุกสนานตลอดการเรียน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมัยนี้มีชาวต่างชาติต้องการที่จะเรียนรู้ภาษาไทยกันเพิ่มมากขึ้น วิชานี้จะทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศแก่ชาวต่างชาติค่ะ ได้จำลองการสอน เขียนแผนการสอน และเรียนรู้เช่น ถ้าต้องสอนภาษาไทยให้ชาวญี่ปุ่นกับฝรั่งเนี่ย การสอนก็จะไม่เหมือนกัน ประมาณนี้ค่ะ
ซึ่งวิชาสายภาษาศาสตร์ประยุกต์มันจะเป็นการนำความรู้ทางด้านทฤษฎีนี่แหละมาต่อยอด อย่างวิชาภาษาศาสตร์สังคมเราจะเรียนเรื่องปัจจัยทางสังคมที่มีผลต่อการใช้ภาษา บางครั้งเราก็คงไม่ได้สังเกตว่า ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ เราใช้ภาษาต่างกันนะ แล้วเราจะเรียนลักษณะของการเปลี่ยนแปลง การแปรอะไรพวกนี้ด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากนะ มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดในสังคมเลย
วัจนปฏิบัติศาสตร์อันนี้ก็จะเรียนในสิ่งที่เราไม่ได้พูด คือเราพูดออกมาแบบนึง แต่อาจจะต้องการสื่อความหมายอีกอย่างนึง เหมือนเราเดินเข้าห้องเรียนมาแล้วบอกเพื่อนว่าร้อน เราอาจจะไม่ได้แค่หมายความว่าร้อน เราอาจจะอยากให้เพื่อนเปิดแอร์
หลังจากพูดครบทั้ง 4 สายกันแล้ว…
นอกจากนี้ในชั้นปีที่ 4 เทอม 1 ท่ีผ่านมาก็จะมีรายวิชาบูรณาการภาษาและวรรณกรรมไทยเพื่อการพัฒนา คือนำองค์ความรู้ที่เราได้เรียนไปทั้งหมด มาบูรณาการแล้วทำอะไรสักอย่างให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สนุกมากๆค่ะ อย่างแพรกับบีและเพื่อนๆ(เติน นัท)เราได้ทำโครงการ Toyota Campus Challenge 2015 คิดแผนกลยุทธ์ในการลดอุบัติเหตุในรั้วมหาวิทยาลัย โดยพวกเราก็นำภาษาและวิชาที่เรียนเอามาประยุกต์แล้วเสนอแผนงานไป จนเข้าสู่รอบรองสุดท้าย 20 ทีม จาก 554 ทีมทั่วไทยค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากๆเลย
นี่เป็นรูปตอนรับเงินเพื่อไปทำแผนโครงการค่ะ
ส่วนนี่คืองานของเอและเพื่อน(ต้น) ของเอทำโครงการรีแพคเกจขวดไวน์และกล่องไวน์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มค่ะ แล้วเจ้าของแบรนด์ก็นำไปใช้ด้วย ^^
ส่วนกลุ่มโบนัสก็ได้รางวัลชนะเลิศจากการรถไฟไทย ให้คิดแผนการเดินทางท่องเที่ยวไทยโดยใช้เส้นทางรถไฟค่า
ที่จริงมีของเพื่อนๆกลุ่มอื่นๆอีกเพียบ ^____^
ส่วนวิชาเสรีล่ะ? เอกไทยเขาเรียนอะไรกัน?
ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมากค่ะ แพรและเพื่อนได้เรียนจิตวิทยา ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาฝรั่งเศส จีนศึกษา(เรียนรู้วัฒนธรรมของคนจีน) หน้าต่างสู่ฝรั่งเศส ประวัติศาสตร์(อาจารย์สอนเก่งมากค่ะ และมีประสบการณ์สูงมาก ขนาดที่ว่ารูปภาพในสไลด์คืออาจารย์เป็นคนถ่ายรูปด้วยตนเองเลย^O^) หรือจะเรียนวิชาการจัดการตนเอง วิชาพัฒนาบุคลิกภาพ ก็มีให้เลือกเรียนเช่นกันค่า (ใครอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามมาได้นะคะ ยินดีตอบมากๆเลย^^)
เด็กเอกไทยกับภาษาอังกฤษ
มาถึงหัวข้อเด็ดที่ถ้าไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้กับวิชาภาษาอังกฤษ ว่าเอ๊ะ…เรียนเอกไทยแล้วจะเก่งภาษาอังกฤษมั้ย บอกเลยว่าเป็นเอกไทย แต่โทอังกฤษค่า เราจะได้เรียนภาษาอังกฤษกันค่อนข้างเยอะ และหลากหลายค่ะ เช่น English for Tourism หรือ English for Career Preparation, Critical Reading, Academic Writing (ได้เขียน essay กันยาวๆหลายหน้ากันจ้า มือนี่เขียนยิกๆๆๆ555) , Public Speaking , English for Hotel Business ฯลฯ อีกเยอะแยะมากมาย ใครอยากรู้จักรายวิชาเพิ่มมากขึ้น แนะนำเข้าไปดูในเว็บคณะได้น้า มีบอกไว้ละเอียดเชียวล่ะ
รูปตอนแพรไปเป็นอาสาสมัครพูดภาษาอังกฤษ ต้อนรับแขกและบุคคลที่เข้าร่วมการฟังสัมมนาค่ะ ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดการเป็นอาสาสมัครเลย ^^
สุดท้ายนี้…
ที่จริงในคลิปเราพูดกันเยอะมากเลย แต่พูดไปเยอะขนาดไหน มันก็เหมือนจะมีเรื่องให้เล่าได้อีกตลอด55555 เอาเป็นว่าใครสนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็เม้นมาได้เลยนะคะ ^^ เช่นเรื่องอาชีพ การทำงาน กิจกรรม หลักสูตร ฯลฯ เดี๋ยวแพรและเพื่อนๆจะมาตอบค่า
สุดท้ายนี้แพรและเพื่อนๆของแพรก็หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ >__< เราตั้งใจมาแชร์ประสบการณ์กันมากๆเลย สำหรับกระทู้นี้ยาวมากแล้วจริงๆ ขอตัวจบกระทู้นี้ก่อนแล้วกันน้า ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่า ^__^