ผู้ใช้ iPhone หลายคนอาจจะรู้สึกรำคาญที่ต้องกรอกรหัส Apple ID, Touch ID หรือ Face ID ทุกครั้งที่ดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีจาก App Store แต่ทราบกันหรือไม่ว่า เราสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีโดยไม่ต้องยืนยันตัวตนก็ได้เช่นกัน มาดูกันว่าทำอย่างไร
วิธีดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีบน iPhone โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนด้วย Face ID/Touch ID
- เข้าไปที่ Settings
- แตะที่ชื่อผู้ใช้ด้านบน
- เลือก Media & Purchases > Password Settings
- ปิด toggle ตรงเมนู Require Password จากนั้นคลิกที่ Done มุมบนขวา
- กลับไปที่ Settings > Face ID & Passcode
- กรอกรหัส Passcode
- ตรงเมนู iTunes & App Store ให้ปิด Toggle (เปลี่ยนเป็นสีเทา)
เพียงเท่านี้ ก็สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ฟรีจาก App Store ได้เลยโดยที่ไม่ต้องกรอกรหัสผ่าน หรือสแกน Face ID/Touch ID ทุกครั้งที่ดาวน์โหลด
แต่สำหรับแอปฯ เสียเงิน แนะนำว่า ควรตั้งค่าให้กรอกรหัสผ่านทุกครั้งที่ดาวน์โหลด เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอกดดาวน์โหลดโดยไม่ตั้งใจ
-------------------------------------
ที่มา :
idownloadblog.com
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 29/06/2022
iPhone How to
สำหรับผู้ใช้งาน iPhone หรือ iPad คงคุ้นกับการใช้งาน Face ID ในการล็อกอินใช้งานอุปกรณ์หรือแอปต่าง ๆ อยู่บ้าง รวมไปถึงการชำระเงินง่าย ๆ เพียงแค่มองมือถือเท่านั้น แต่บางครั้ง Face ID ก็อาจใช้งานไม่ได้จนทำให้ปลดล็อกเข้าเครื่องได้ไม่ทันใจ ADPT จึงขอนำเสนอ 7 วิธีแก้หาก Face ID ใช้งานไม่ได้ ตามนี้ค่ะ
เปิดใช้งาน Face ID หรือยัง?
หาก Face ID ดูเหมือนว่าจะใช้งานไม่ได้ คงต้องเช็คดูก่อนว่าได้เปิดใช้งาน Face ID แล้วหรือยัง เพราะผู้ใช้อาจไม่เคยเปิดการใช้งาน Face ID เลยตั้งแต่แรก หรือเคยปิด Face ID ไปสำหรับบางแอป
วิธีการตรวจสอบง่าย ๆ คือ ไปที่ Settings (การตั้งค่า) จากนั้นเลือก Face ID & Passcode ใส่รหัส และตรวจสอบดูว่าเปิดใช้งาน Face ID สำหรับฟีเจอร์ที่ต้องการปลดล็อก ซึ่งนอกจากหน้าจอปลดล็อกหน้าแรกแล้ว ก็สามารถใช้ Face ID บน iTunes, App Store, Apple Pay, Password Autofill และแอปอื่น ๆ ที่รองรับ Face ID ได้ด้วย
ตั้งค่าเพิ่มลุคใหม่ เก็บไว้สำรอง
ส่วนใหญ่แล้ว สำหรับผู้ใช้งานหลาย ๆ คนนั้น Face ID ก็ปรับการใช้งานเข้ากับรูปลักษณ์ของเราที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เช่น ผู้ใช้งานผมยาวขึ้นหรือใส่แว่น แต่บางครั้ง Face ID ก็อาจใช้งานไม่ได้เนื่องจากผู้ใช้งานเองเปลี่ยนลุค เปลี่ยนทรงผมไป
จุดนี้ผู้ใช้งานก็ต้องช่วย Face ID ในการตั้งค่าลุคเพิ่มเติม สามารถกดที่ Set Up an Alternate Appearnace ในเมนู Face ID & Passcode ได้ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนเพื่อให้ Face ID เรียนรู้ใบหน้าของคุณและบันทึกสำรองไว้
กล้อง Face ID ไม่โดนบัง
Face ID ใช้ระบบกล้องที่ Apple เรียกว่า TrueDepth ซึ่งประกอบด้วย Dot projector ที่ส่องใบหน้าผู้ใช้งานด้วยจุดอินฟราเรดขนาดเล็กกว่า 30,000 จุด และกล้องอินฟราเรดที่จับจุดเหล่านั้น
เนื่องจากว่าส่วนประกอบเหล่านี้กระจายอยู่บนแถบกล้องด้านบนของ iPhone และ iPad ดังนั้น แถบบริเวณนั้นต้องชัดเจน ไม่มีอะไรบัง รวมถึงเคส iPhone/iPad ด้วย เพื่อให้เห็นใบหน้าชัดเจน และต้องระวังหากถืออุปกรณ์ในแนวนอน มือก็ต้องไม่บังกล้องด้วย
เปิดหน้า มองกล้อง
หลักการเดียวกันกับการไม่บังกล้อง ก็คือการเปิดหน้าเพื่อให้ใช้งาน Face ID ได้
- Face ID ใช้งานได้ปกติแม้ว่าจะใส่แว่นหรือไม่ใส่ก็ตาม แต่ก็มีแว่นกันแดดบางแบบที่อาจรบกวนการทำงานของ Face ID ดังนั้น ลองถอดแว่นออกดูแล้วเปิด Face ID ใหม่อีกรอบค่ะ
- Face ID ใช้งานได้ปกติโดยต้องเห็นตา จมูก ปากชัดเจน ดังนั้น การใส่หน้ากากอาจทำให้ Face ID ใช้งานไม่ได้ แต่ถ้าต้องใส่หน้ากากอยู่ตลอด ตอนนี้ Apple ก็มีวิธีการให้สามารถปลดล็อก iPhone ด้วย Face ID ได้หากมี Apple Watch ด้วย
อัปเดต iOS ล่าสุด
ถ้าเปิดใช้งาน Face ID แล้ว แต่ระบบยังทำงานได้ไม่เข้าที่ ให้คุณลองอัปเดตเครื่องเป็น iOS หรือ iPad OS เวอร์ชันล่าสุดก่อนค่ะ
รีสตาร์ตเครื่อง
ถ้าลองทำตามทุกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นหมดแล้ว ลองปิดเครื่อง รอสัก 1-2 นาที แล้วเปิดใหม่ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องซอฟต์แวร์ได้ค่ะ
รีเซ็ต Face ID
วิธีสุดท้ายคือ ตั้งค่า Face ID ใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งใช้เวลาไม่นานแล้วไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นค่ะ เพียงกด Reset Face ID และทำตามขั้นตอนของระบบค่ะ
สุดท้ายนี้ หากลองแก้ไขตามวิธีการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Face
ID ยังใช้งานไม่ได้ ก็น่าจะเป็นปัญหาที่ฮาร์ดแวร์แล้ว ในส่วนนี้ก็ลองปรึกษากับ Apple Support ดูนะคะ