รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกับเครื่องยนต์ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมีผลถึงสมรรถนะทั้งอัตราเร่งตลอดจนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย ดังนั้น เบอร์น้ำมันเครื่อง และการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญ

การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมไม่ได้หมายถึงการใช้น้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด แพงที่สุด หรือหมายถึงว่าจะต้องเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เสมอไป แต่คือการเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสมกับสภาพของเครื่องยนต์และการใช้งาน

เวลาที่นำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องโดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกับอู่หรือสถานบริการทั่วไป แล้วได้รับคำถามว่า “ใช้น้ำมันเครื่องอะไรดี” นอกจากดูยี่ห้อและดูว่าเป็นน้ำมันเครื่องธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์แท้แล้ว ให้พิจารณา “เบอร์น้ำมันเครื่อง” ด้วย ซึ่งจะมีตัวเลขและตัวอักษรในลักษณะนี้ 0W20, 5W30, 10W40 แสดงอยู่บนฉลากของบรรจุภัณฑ์ โดยตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า W เป็นค่าความหนืดในกรณีที่เครื่องยนต์เย็น ส่วนตัวเลขข้างหลัง W เป็นค่าความหนืดในขณะที่เครื่องยนต์มีการทำงานซึ่งมีอุณหภูมิสูง สำหรับระดับค่าของความหนืดนั้น หากตัวเลขหน้า W มีค่าน้อย ความหนืดของน้ำมันจะต่ำกว่าตัวเลขมาก (0W, 5W, 10W, 15W, 20W, 25W) และถ้าตัวเลขหลัง W มีค่ามาก ความหนืดก็จะยิ่งสูง (20, 30, 40, 50, 60)

 

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

      ในขณะที่เครื่องยนต์เย็นระบบต้องการน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำหรือมีความข้นใสสูง (อ้างอิงจากเลขข้างหน้า) เพื่อให้สามารถจ่ายน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนที่อยู่ด้านบนได้อย่างรวดเร็ว ลดการสึกหรอจากการเสียดสี เมื่อเครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิการทำงานแล้วความหนืดของน้ำมันเครื่องควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่ใสจนเกินไป (อ้างอิงจากเลขข้างหลัง) เพราะไม่เช่นนั้นการทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์จะบางเกินไป ส่งผลให้มีการสึกหรอสูง การทำงานของเครื่องยนต์มีเสียงดัง และยังส่งผลให้น้ำมันเครื่องพร่องเร็วกว่าปกติ แต่ถ้าน้ำมันเครื่องหนืดเกินไปก็ไม่ดีอีกเช่นกัน เพราะจะส่งผลให้เครื่องยนต์อืดเร่งไม่ขึ้นและกินน้ำมันด้วย

 

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

การเลือกเเบอร์น้ำมันเครื่องไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอน แต่ประเมินได้จากอายุการใช้งานของเครื่องยนต์รวมถึงลักษณะการขับขี่และใช้งาน หากเป็นรถใหม่ควรเลือกเบอร์น้ำมันที่มีความหนืดต่ำทั้งเลขข้างหน้าและเลขข้างหลังเพื่อให้น้ำมันสามารถเข้าถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึงเนื่องจากระยะห่างระหว่างชิ้นส่วน (Clearance) ยังมีน้อย (สำหรับรถใหม่ควรอ้างอิงและใช้น้ำมันเครื่องตามคู่มือประจำรถ)

สำหรับเครื่องยนต์มีอายุการใช้งานหลายปีหรือมีระยะทางเกินกว่า 100,000 กม.ขึ้นไป หรือรถที่มีการใช้งานหนักจะเป็นการบรรทุกหนักหรือใช้ความเร็วสูงขับทางไกลเป็นประจำก็ตามให้เพิ่มความหนืดของเลขข้างหลังให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความหนาในการทำหน้าที่เป็นฟิล์มป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วน ส่วนจะใช้เบอร์อะไรดีนั้นอาจอ้างอิงจากเบอร์ของน้ำมันเครื่องที่ใช้ในช่วงแรกตามคำแนะนำของคู่มือประจำรถ เช่น ในช่วงแรกใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 5W-30 หลังจากนั้นอาจขยับไปใช้เบอร์ 5W-40 เป็นต้น

เลขข้างหน้าอาจจะไม่ต้องกังวลมากนักเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อนไม่มีปัญหาเรื่องของน้ำมันเครื่องมีความหนืดสูงจนไม่สามารถขึ้นไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนได้ทันในช่วงจังหวะเครื่องยนต์เย็นเหมือนกับรถที่ใช้ในเมืองหนาว

หลายๆคนอาจสงสัยว่าน้ำมันเครื่องมีหลายยี่ห้อ หลายชนิด ค่าความหนืดคืออะไร แล้วน้ำมันเครื่องแบบไหนที่เหมาะกับรถเรา วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการเลือกน้ำมันเครื่องแบบเข้าใจง่ายๆ มาฝากกันครับ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

Step 1 เลือกประเภทน้ำมันเครื่อง

หลักๆแล้วจะมีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ เบนซินและดีเซล โดยรถยนต์แต่ละคันจะมีบอกตามคู่มือการใช้งานรถยนต์ว่ารถคันนี้ควรเติมน้ำมันเครื่องแบบไหน

แนะนำว่าเราควรใช้น้ำมันเครื่องให้ถูกประเภทกับเครื่องยนต์จะดีที่สุดนะครับ เพราะหากเติมผิดประเภทจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วและเสียหายแน่นอน โดยส่วนใหญ่แล้วหน้าฉลากจะมีเขียนบอกอยู่ว่าเป็นน้ำมันเครื่องประเภทไหน

ถ้าเป็นน้ำมันเบนซิน โดยทั่วไปจะระบุที่ฉลากไว้ว่า “ Gasoline ”

ถ้าเป็นน้ำมันดีเซล โดยทั่วไปจะระบุที่ฉลากไว้ว่า “ Diesel ”

เรามีประเภทน้ำมันให้เลือกทั้ง 2 แบบ หากลูกค้าท่านไหนยังไม่ทราบว่ารถของท่านควรใช้น้ำมันประเภทไหนสามารถ ติดต่อสอบถามที่เราได้เลยครับ

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

Step 2 เลือกชนิดน้ำมันเครื่อง

ชนิดน้ำมันเครื่องแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

1.น้ำมันสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ระยะเปลี่ยนถ่ายจะอยู่ที่ 10,000-12,000กิโลเมตร หรือสูงสุดไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร

2.น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ระยะเปลี่ยนถ่ายจะอยู่ที่ 5,000-7,000 กิโลเมตร หรือสูงสุดไม่เกิน 10,000 กิโลเมตร

3.น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ระยะเปลี่ยนถ่ายจะอยู่ที่ 5,000 กิโลเมตร หรือสูงสุดไม่เกิน 7,000 กิโลเมตร

โดยเลขกิโลเมตรหรือเลขไมล์ที่เราใช้ดูนั้นจะอยู่ที่หน้าปัดรถยนต์ครับ
แต่ละชนิดมีคุณภาพและระยะการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยน้ำมันสังเคราะห์มีราคาสูง เพราะเป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูง เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ระยะการใช้งานจะนานกว่าชนิดอื่น ซึ่งทางเรามีจำหน่าย พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม หากใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมทางเรายินดีให้คำแนะนำครับ

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

Step 3 เลือกความหนืดของน้ำมันเครื่อง

ความหนืดของน้ำมันเครื่อง คือ ระดับความข้นของน้ำมันเครื่อง เรียกง่ายๆว่า หากน้ำมันเครื่องข้นหรือหนืดเกินไป จะไม่สามารถไหลเวียนและหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างดี และหากมีความข้นหรือหนืดน้อยไป นั่นคือ น้ำมันเครื่องเหลวมากไปนั่นเอง จะไม่สามารถให้การปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้

สามารถดูได้จากตัวอักษร “W” โดยจะมีตัวเลขที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
– ตัวเลขที่อยู่หน้า “W” คือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในสภาวะอุณหภูมิที่ต่ำหรือขณะที่เครื่องยนต์เย็น ยิ่งตัวเลขน้อยจะแสดงถึงค่าความหนืดที่ต่ำ ทำให้สามารถหล่อลื่นเครื่องยนต์ขณะเย็นได้ดี

– ตัวเลขหลัง “W” คือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในสภาวะอุณหภูมิที่สูงหรือขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ยิ่งตัวเลขสูงจะแสดงถึงค่าความหนืดที่สูง ทำให้สามารถหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ขณะทำงานได้ดี เช่น 30, 40, 50 ,60 โดยจะวัดที่อุณหภูมิ 100องศาเซลเซียส

แต่สำหรับการใช้งานในบ้านเราตัวเลขหน้า “W” ไม่ต้องดูก็ได้ ให้เน้นดูตัวหลังเป็นหลัก สามารถดูได้จากคู่มือที่ติดมากับรถยนต์จะมีบอกครับว่ารถของคุณควรใช้ความหนืดที่เท่าไหร่
โดยรถยนต์แต่ละประเภทจะใช้ระดับความหนืด ดังนี้ครับ
รถยนต์ที่ยังใหม่
มีเลขกิโลเมตรหรือเลขไมล์ไม่เกิน 200,000กิโลเมตร ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำ เช่น 30 เป็นต้น

– รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานาน
มีเลขกิโลเมตรหรือเลขไมล์ 200,000กิโลเมตรขึ้นไป ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูง เช่น 40 หรือ 50 เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องนั้นควรเลือกค่าของความหนืดตามคู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่นที่ระบุไว้ หากท่านไม่ทราบหรือสงสัยทางเรามีทีมผู้เชียวชาญให้คำแนะนำในเรื่องนี้ได้ครับ

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

Step 4 เลือกค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่อง

ค่ามาตรฐานน้ำมันเครื่อง คือ เกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ปัจจุบันมีหลายองค์กร เช่น

JASO (Japanese Automotive Standard Organization )
SAE ( Society of Automotive Engineers)
API ( American Petroleum Institute )

โดยสถาบันเหล่านี้จะกำหนดมาตรฐานของน้ำมันเครื่อง

โดยส่วนใหญ่ประเทศไทยจะใช้ของ “API” มากที่สุด “API” ย่อมากจาก “American Petroleum Institute” หรือ ภาษาไทยเรียกว่า “สถาบันปิโตรเรียมอเมริกา”

โดยค่า API จะแบ่งเป็น 2 อย่างหลักๆ ดังนี้
1.สัญลักษณ์ “ S ” จะเหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน โดยส่วนใหญ่ค่ามาตรฐานปัจจุบันที่ใช้กันจะเป็น SN เป็นเกรดสูงสุดของเบนซิน ถ้าเกรดต่ำลงมาก็จะไล่ลงตามตัวอักษรข้างหลัง เช่น SM SL ไล่ลงไปเรื่อยๆ

2.สัญลักษณ์ “ C “ จะเหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดยส่วนใหญ่ค่ามาตรฐานปัจจุบันที่ใช้กันจะเป็น CK-4 เป็นเกรดสูงสุดของดีเซล โดยตัวเลข4 หมายถึงเครื่องยนต์ 4จังหวะ ถ้าเกรดต่ำลงมาก็จะไล่ลง ตามตัวอักษรข้างหลัง เช่น CI-4 CH-4 ไล่ลงไปเรื่อยๆ

รถ 10 ปี ใช้ น้ำมันเครื่อง เบอร์อะไร

Step 5 เลือกยี่ห้อ ราคา และโปรโมชั่น

ขั้นตอนสุดท้ายนี้ สามารถกำหนดราคาที่ต้องการได้เลยครับ เพราะน้ำมันแต่ละประเภทมีราคาที่แตกต่างกันตามเกรดคุณภาพ แต่ละยี่ห้อก็มีหลายช่วงราคาให้เลือก อย่างไรแล้วลูกค้าควรพิจารณาตามรถยนต์ที่ลูกค้าใช้และเลือกซื้อให้เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
หากไม่มั่นใจในการเลือกซื้อ สามารถปรึกษาทางทีมงาน Carmart ได้เลยครับ เรายินดีให้คำแนะนำเพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดของลูกค้า ร้านของเรามีน้ำมันเครื่องให้เลือกมากกว่า 20 แบรนด์ มีน้ำมันเครื่องหลายสูตร หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Castrol, Elf, Eneos, Mobil, PTT เป็นต้น แต่ละแบรนด์มีโปรโมชั่นของแถมให้คุณได้เลือกสรรมากมาย

#ShopeeTH #Shopeesocialhub #Shopeesocial #SHOPEEMOTOR #carmart #carmartonlineshopshopee #carmartonlineshop #Shopee #น้ำมันเครื่อง #motoroil #เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง #แบตเตอรี่

ส่วนใครที่สนใจอยากซื้ออุปกรณ์ดูแลเครื่องยนต์ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้นะครับ ทาง Carmart มีจำหน่ายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง , แบตเตอรี่ , น้ำมันเบรก , น้ำมันเกียร์ เป็นต้น

Carmart คุ้มค่า มั่นใจ ปลอดภัยของแท้ 100% ”สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่ซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Shopee : ( สามารถสั่งออเดอร์ได้ตลอดทั้ง 4 สาขา [ ดอนเมือง ,พระราม2 ,พัทยา,อยุธยา  )

รถใหม่ควรใช้น้ำมันเครื่องเบอร์อะไร

รถยนต์ที่ยังใหม่ มีเลขกิโลเมตรหรือเลขไมล์ไม่เกิน 200,000กิโลเมตร ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำ เช่น 30 เป็นต้น – รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานาน มีเลขกิโลเมตรหรือเลขไมล์ 200,000กิโลเมตรขึ้นไป ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูง เช่น 40 หรือ 50 เป็นต้น

รถกระบะเก่าใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ไหน

แต่หากรถของท่านเป็น รถยนต์รุ่นเก่า ไม่ว่าจะเป็น รถบรรทุก รถกระบะ รถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ หากมีอาการกินน้ำมันเครื่อง ก็ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่ข้นมากขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาการกินน้ำมันเครื่อง เช่น SAE 20W- 50 เป็นต้นหรือจะให้ชัวร์ ก็ควรที่จะเลือกใช้น้ำมันเครื่องตามมาตรฐานที่คู่มือกำหนด หรือไม่ก็เลือก ...

รถเก่าใช้น้ำมันเครื่องเกรดไหนดี

สำหรับรถยนต์เก่านิยมใช้น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว มีความหนืดสูง เพราะปัญหาหลัก ๆ ของรถยนต์เก่าคือ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันสูง ดังนั้นก่อนจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูง โดยสังเกตง่าย ๆ จากเบอร์น้ำมันเครื่อง เช่น 5W30 , 20W50 ตัวเลขข้างหน้า W คือ ค่าการทนความเย็นโดยไม่เป็นไขของ ...

น้ํามันเครื่อง 10W40 เหมาะกับรถอะไร

Semi synthetic น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เช่น 10W40 15W40 15W50 เป็นต้น ใช้ได้กับเครื่องยนต์ทั่วไปทั้งสมรรถนะสูง หรือปานกลาง มีระยะเปลี่ยนถ่ายอยู่ที่ 8,000 - 10,000 กิโลเมตร