บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 67,586 ครั้ง
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเลิกซ่อนแถวใดแถวหนึ่ง หรือทุกแถวใน spreadsheet ของ Microsoft Excel
- ดับเบิลคลิกเอกสารที่จะเปิดขึ้นมาในโปรแกรม Excel
-
ที่เป็นปุ่มสามเหลี่ยม มุมซ้ายบนของ spreadsheet เหนือแถว 1 ทางซ้ายของหัวข้อคอลัมน์ A เพื่อเลือกทั้งเอกสาร Excel
- หรือคลิกเซลล์ไหนก็ได้ในเอกสาร แล้วกด Ctrl+A (Windows) หรือ ⌘ Command+A (Mac) เพื่อเลือกทั้งเอกสาร
-
ที่เป็น tab ล่าง ribbon สีเขียวทางด้านบนของหน้าต่าง Excel
- ถ้าเปิด tab Home ไว้แล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป
- ที่เป็นตัวเลือกในหัวข้อ "Cells" ของ toolbar ทางด้านขวาบนของหน้าต่าง Excel แล้วเมนูจะขยายลงมา
- ที่เป็นตัวเลือกในเมนู Format ที่ขยายลงมา เพื่อเปิดเมนูใหม่ขึ้นมา
-
ในเมนูที่โผล่มา แล้วทุกแถวที่ถูกซ่อนจะโผล่มาใน spreadsheet
- คุณเซฟค่าใหม่ได้โดยกด Ctrl+S (Windows) หรือ ⌘ Command+S (Mac) โฆษณา
- ดับเบิลคลิกเอกสารที่จะเปิดขึ้นมาในโปรแกรม Excel
- เช็คเลขประจำแถวทางซ้ายของเอกสารระหว่างเลื่อนลงไป ถ้ามีบางแถวเลขหายไป (เช่น 23 ต่อด้วย 25) แสดงว่าแถวนั้นถูกซ่อนไว้ (เช่น ถ้า 23 แล้วต่อด้วย 25 เลย แสดงว่าแถว 24 ถูกซ่อนไว้) รวมถึงจะมีเส้นคู่คั่นระหว่างเลขประจำ 2 แถวนั้นด้วย
-
เพื่อขยายเมนูลงมา
- เช่น ถ้าแถว 24 ถูกซ่อนไว้ ให้คลิกขวาตรงที่ว่างระหว่างแถว 23 กับ 25
- ถ้าใช้ Mac ให้กด Control ค้างไว้ แล้วคลิกที่ว่างนี้ จะมีเมนูขยายลงมา
-
ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อแสดงแถวที่ตอนแรกถูกซ่อนไว้
- คุณเซฟค่าใหม่ได้โดยกด Ctrl+S (Windows) หรือ ⌘ Command+S (Mac)
-
ถ้าสังเกตว่าหลายแถวหายไป ก็เลิกซ่อนได้ทีละหลายแถว โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- กด Ctrl (Windows) หรือ ⌘ Command (Mac) ค้างไว้ แล้วคลิกเลขประจำแถวที่อยู่ด้านบนของแถวที่ถูกซ่อน และเลขประจำแถวที่อยู้ด้านล่างของแถวที่ถูกซ่อน
- คลิกขวาที่เลขของหนึ่งในแถวที่เลือกไว้
- คลิก Unhide ในเมนูที่ขยายลงมา โฆษณา
- ปกติบางแถวอาจถูกซ่อนเพราะความสูงของแถวนั้นเตี้ยจนแถวหายไป ก็ต้องรีเซ็ตความสูงของแถวทั้งหมดใน spreadsheet ให้เป็น "14.4" (ความสูงตั้งต้น) ถึงจะโผล่มา
- ดับเบิลคลิกเอกสารที่จะเปิดขึ้นมาในโปรแกรม Excel
- ที่เป็นปุ่มสามเหลี่ยมมุมซ้ายบนของ spreadsheet เหนือแถว 1 ทางซ้ายของหัวข้อคอลัมน์ A เพื่อเลือกทั้งเอกสาร Excel
- หรือคลิกเซลล์ไหนก็ได้ในเอกสาร แล้วกด Ctrl+A (Windows) หรือ ⌘ Command+A (Mac) เพื่อเลือกทั้งเอกสาร
- ที่เป็น tab ล่าง ribbon เขียว ด้านบนของหน้าต่าง Excel
- ถ้าอยู่ที่ tab Home อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
- ที่เป็นตัวเลือกในหัวข้อ "Cells" ของ toolbar ทางด้านขวาบนของหน้าต่าง Excel แล้วเมนูจะขยายลงมา
- ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง pop-up ที่มีช่องพิมพ์ว่างๆ
- พิมพ์ 14.4 ในช่องพิมพ์ที่เห็นในหน้าต่าง pop-up
เพื่อใช้ค่าใหม่กับทุกแถวใน spreadsheet เท่ากับเลิกซ่อนทุกแถวที่ตอนแรก "ถูกซ่อนไว้" เพราะค่าความสูงเก่า
เปิดไฟล์ Excel จากไดรฟ์และแก้ไขในชีต ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณดำเนินการในไฟล์ Excel ต้นฉบับ
เบราว์เซอร์ Chrome เท่านั้น
1. ตรวจสอบว่ายังไม่ได้ติดตั้งส่วนขยายการแก้ไข Office สำหรับเอกสาร ชีต และสไลด์ด้วยวิธีการดังนี้1. เปิดเบราว์เซอร์ Chrome แล้วคลิกเพิ่มเติมเครื่องมือเพิ่มเติมส่วนขยายที่มุมขวาบน
- หากเห็นส่วนขยายการแก้ไข Office สำหรับเอกสาร ชีต และสไลด์ ให้คลิกนำออก
- ดับเบิลคลิกไฟล์ Excel ในไดรฟ์ จากนั้นระบบจะเปิดตัวอย่างไฟล์ของคุณ
- คลิกเปิดด้วย Google ชีตที่ด้านบน
คุณจะแก้ไข แชร์ ดูประวัติเวอร์ชัน ทำงานร่วมกับผู้อื่นแบบเรียลไทม์ และดำเนินการอื่นๆ ได้แล้ว ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณดำเนินการในไฟล์ Microsoft Office
คุณจะแก้ไข แชร์ ดูประวัติเวอร์ชัน ทำงานร่วมกับผู้อื่นแบบเรียลไทม์ และดำเนินการอื่นๆ ได้แล้ว ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณดำเนินการในไฟล์ Microsoft Office
นำเข้าข้อมูล Excel ไปยังชีต
คุณจะนำเข้าข้อมูลจากไฟล์ Excel ไปยังไฟล์ชีตใหม่ (หรือไฟล์เดิม) ได้ แต่ไฟล์ Excel จะยังคงเดิมแม้คุณจะแก้ไขไฟล์ชีตก็ตาม
- สร้างสเปรดชีตใหม่หรือเปิดสเปรดชีตเดิมในชีต
- คลิกไฟล์นำเข้า
- เลือกไฟล์ Excel แล้วคลิกเลือก
- เลือกตัวเลือกการนำเข้าดังนี้
- สร้างสเปรดชีตใหม่
- แทรกชีตใหม่
- แทนที่สเปรดชีต
- คลิกนำเข้าข้อมูล
- หากได้รับการแจ้งเตือน ให้คลิกเปิดตอนนี้
แปลงไฟล์ Excel เป็นชีต
คุณจะแปลงไฟล์ Excel เป็นชีตและทำงานกับไฟล์ดังกล่าวในชีตได้โดยไม่ต้องนำเข้าข้อมูล แต่ไฟล์ Excel จะยังคงเดิม
1. เปิดไดรฟ์แล้วดับเบิลคลิกไฟล์ Excelจากนั้นระบบจะเปิดตัวอย่างไฟล์ของคุณ
- คลิกเปิดด้วย Google ชีตที่ด้านบน
- คลิกไฟล์บันทึกเป็น Google ชีต
วิธีการแปลงการอัปโหลดไฟล์ Office ในอนาคตทั้งหมดเป็น Google ชีตโดยอัตโนมัติ
1. คลิกการตั้งค่า การตั้งค่าที่ด้านบนในไดรฟ์
- เปิดแปลงไฟล์ที่อัปโหลดเป็นรูปแบบเครื่องมือแก้ไข Google เอกสารถัดจากหัวข้อ "แปลงรายการที่อัปโหลด"
หมายเหตุ: ระบบจะไม่แปลงไฟล์ที่อัปโหลดก่อนหน้านี้
หากเห็นไฟล์ Excel และไฟล์ชีตใหม่ในไดรฟ์ ให้เก็บหรือลบไฟล์ Excel ก็ได้ หากเก็บไฟล์ Excel ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็น [เก็บถาวร] เอกสารของฉัน.xls เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน