เพราะบางเวลาบางสถานะการณ์ที่เราถ่ายภาพมาแล้วเนี่ย ตัวแบบมันมืด อย่างเช่นภาพนี้ค่ะ ตัวแบบนั่งกินข้าวอยู่ในร่ม และแสงจากนอกร้านแรงมาก อยากเก็บฉากหลัง เลยวัดแสงไปที่ฉากหลัง ตัวแบบก็เลยมืด
เอาใหม่ วัดแสงไปที่ตัวแบบดีกว่า จะได้ความสว่างที่พอดี ปรากฎว่า ฉากหลังสว่างจ้า รายละเอียดหายไปหมดเลยง่ะ
เราไปเที่ยวทั้งที แต่กลับไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน แบบนี้ยอมกันได้มะ...
เนี่ยแหละ แฟลชมันเลยจะเข้ามาแก้ปัญหาในจุดนี้แหละค่ะ
แต่บางคนก็อาจจะได้เคยลองใช้แฟลช และได้รับประสบการณ์ที่เลวร้ายจากแฟลช ความเจ็บปวดนั้นก็เลยยังคงจิกจำอยู่ในใจไม่เคยลืม (อ๊ะ พูดถึงตัวเองอยู่หรือป่าว)
นี่มันเดอะช็อคหรือป่าวเพ่ แอร๊ยยยย เกลียดแฟลช ><
แต่เอ๊ะ ดูภาพนี้ก่อน นี่คือภาพที่ใช้แฟลชนะ เห็นแบบนี้ คิดว่ามันผิดที่แฟลช หรือมันผิดที่คนใช้ล่ะ หือออ??
แต่บางคนก็อาจจะบอกว่า นี่มันใช้แฟลชแยกนี่ ถ้าใช้แฟลชหัวกล้องหละ ไม่เหลือแน่ๆ
อ้ะ ลองไปดูภาพต่อไป
ภาพนี้ใช้แฟลชหัวกล้องยิงนะ แฟลชหัวกล้องก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ อย่ามากล่าวหาว่าแฟลชหัวกล้องเลวร้ายนะ
แล้วใครที่คิดว่าแฟลชแยกมันดีซะเหลือเกิน ลองดูภาพนี้
ภาพนี้แฟลชแยกยิงแรงเกินไป ก็จบเห่ได้เหมือนกันค่ะ
จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะแฟลชแยกหรือแฟลชหัวกล้อง ถ้าเราไม่รู้วิธีใช้ ยังไง๊ ยังไงมันก็ออกมาไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละค่ะ สรุปกันแบบง่ายๆ เกี่ยวกับ Flash เลยนะ
สมมุติว่า ถ้าเราไปถ่ายรูปกับนางแบบ ได้ location สวยๆ แสงก็สวยๆ หน้าแบบสว่างสดใสแสงเข้าพอดี แบบนี้ยังไงก็ไม่ต้องใช้แฟลช แต่ในความเป็นจริง เราไม่ได้โชคดีแบบนั้นเสมอไป บางทีเราได้ฉากหลังสุดแสนจะสวย แต่แสงที่เข้ามาโดนแบบมันสุดแสนจะสาหัส แบบนี้ยังไงเราก็ต้องเติมแสงเข้าไปที่แบบ แฟลชหรือ reflector ก็เป็นสิ่งที่เราต้องการ
เรามาลองจำลองสถานะการณ์กันดีกว่าค่ะ
สมมุติว่าเราไปถ่าย portrait กันที่สวนพอทเทรดแห่งชาติ และได้ location สวยๆแล้ว ตัวแบบต้องอยู่ในร่มแบบนี้ เพราะมันร้อนมาก แล้วก็อยากได้ฉากหลังแบบนี้ เราอยากจะเก็บฉากหลังนี่ เราก็เลยวัดแสงที่ฉากหลัง
ลูกเล่นใหม่ ลดเวลาที่ใช้ในการยิงแฟลชซ้ำ (Recycle times) ลงประมาณ 20% ด้วยเสียงที่เงียบไม่เป็นการรบกวน ปรับปรุง ขั้วต่อ (Mounting Foot) กับตัวกล้องใหม่ ให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น เพิ่มความเสถียรในการส่งข้อมูลระหว่างตัวกล้อง และตัวแฟลช ป้องกันการสปาร์ค ,เพิ่มปุ่ม Quick Release และระบบล๊อคใหม่ ทำให้การใส่แฟลช และการถอดออกทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ในโหมด Manual แฟลช 430EX II ได้เพิ่มความละเอียดในการปรับเป็น 1/3 stop ทำให้การควบคุมทำได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การใช้ร่วมกับกล้อง EOS รุ่นใหม่ๆ สามารถปรับค่าต่างๆของแฟลช ผ่านเมนูของตัวกล้องได้เลย ทำให้สะดวกในการปรับค่าต่างๆ ลดความยุ่งยาก
ระบบแฟลช Canon Speedlite 430EX II รองรับระบบแฟลชทั้งกล้องฟิล์ม และกล้องดิจิตอล นอกจากนี้ยังรองรับ ระบบการวัดระยะ E-TTL II ซึ่งออกมาในกล้อง EOS รุ่นใหม่ๆ และยังสามารถตั้งค่าเป็น Slave Flash ในการถ่ายภาพสตูดิโอที่มีแฟลชหลัก ที่ควบคุมแบบไร้สายอีกด้วย
มีการตรวจสอบ sensor size เมื่อใช้ักับกล้อง EOS รุ่นที่รองรับ Speedlite 430EX II มีการตรวจสอบว่า Sensor นี้เป็น full frame , APS-C หรือ APS-H โดยอัตโนมัติ. ระยะซูมก็มีการปรับความแรงของแฟลชโดยอัตโนมัติ
ระบบการควบคุม นอกจากนี้ Speedlite 430EX II ยังรองรับ Sync Flash (1st and 2nd curtain flash synchronisation, มีการปรับการชดเชยแสง และมีฟังก์ชั่นแบบปรับเองได้ถึง 9 ฟังก์ชั่นอีกด้วย
อุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมสำหรับ Speedlite 430EX II สามารถใช้ได้ดังต่อไปนี้
Canon OC-E3 off-camera shoe cord
Speedlite bracket SB-E2. Featuring a handy quick release/locking mechanism
OC-E3 adds wired, short-range positioning flexibility to the Speedlite 430EX II
Speedlite bracket SB-E2 is designed specifically for wedding and press photography and allows the Speedlite 430EX II to be mounted to one side of the camera – removing the harsh, unnatural shadows that can occur to one side of the subject when shooting in portrait orientation with a camera-mounted flash.
ที่มา : Dpreview.com