น้ำเกลี้ยงนามพันธุ์ไม้ ถิ่นชาวสวยน้ำใจดี มีลำห้วยมากหลาย ป่าสนสองใบร่มรื่น ชื่นชมวัฒนธรรมหลายภาษา งามตระการตาบุญผะเหวด
แผนที่จังหวัดศรีสะเกษ เน้นอำเภอน้ำเกลี้ยง
พิกัด: 14°55′42″N 104°30′48″E / 14.92833°N 104.51333°Eประเทศ
(2565)
• ทั้งหมด44,454 คน • ความหนาแน่น188.20 คน/ตร.กม. (487.4 คน/ตร.ไมล์)รหัสไปรษณีย์ 33130รหัสภูมิศาสตร์3315ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำเกลี้ยง อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ 33130
น้ำเกลี้ยง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นที่ตั้งของสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าสนสองใบที่ราบเพียงแห่งเดียวของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี และยังเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พบป่าสนสองใบ และเป็นที่ตั้งของเขตประวัติศาสตร์เมืองโบราณพังคู
ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]
อำเภอน้ำเกลี้ยงมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองศรีสะเกษและอำเภอกันทรารมย์
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอโนนคูณ
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเบญจลักษ์และอำเภอศรีรัตนะ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอพยุห์
บริเวณแยกน้ำเกลี้ยง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2125 บ้านไฮ - กันทรารมย์ ตำบลน้ำเกลี้ยง
ประวัติ[แก้]
พื้นที่ของอำเภอน้ำเกลี้ยงเดิมเป็นที่รู้จักในชื่อ บ้านน้ำเกลี้ยง อยู่ในเขตการปกครองในเขตอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งตำบลน้ำเกลี้ยงตั้งขึ้นเป็นตำบลตั้งแต่ พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898) ในประเทศไทย เป็นปีที่ 117 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นปีที่ 31 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และนับเป็นปี ร.ศ. 116 เข้ามาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณนี้มาเป็นเวลาหลายสิบปี บริเวณบ้านไร่เอราวัณ ตำบลเขิน เริ่มแรกได้ประกอบอาชีพทางเกษตรกรรมปลูกผัก ผลไม้ ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมต่อ ๆ กันมาหลายอย่าง จนกระทั่งเมื่อมีคราวสงคราม ได้มีกองทัพเดินทางมาใช้บริเวณดังกล่าวเป็นจุดพักค้างคืน บรรดาช้าง ม้า และสัตว์ต่าง ๆ ที่มากับกองทัพได้กิน ทำลาย พืชผักต่าง ๆ ของชาวบ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นชาวบ้านจึงอพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่บริเวณต้นไม้ใหญ่ คือ "ต้นน้ำเกลี้ยง" เป็นเหตุให้เรียกชื่อหมู่บ้านเป็น "น้ำเกลี้ยง" จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2528 กรมการปกครองได้พิจารณาดำเนินการจัดตั้งกิ่งอำเภอ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้เสนอขอตั้งกิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยงในท้องที่อำเภอกันทรารมย์ ซึ่งกรมการปกครองได้บรรจุเข้าแผนการจัดตั้งกิ่งอำเภอและอำเภอระยะ 8 ปี (พ.ศ. 2528 - 2537) กระทั่งเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2529 ทางราชการได้แบ่งพื้นที่การปกครองออกมาตั้งเป็น กิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยง ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2529 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ปีเดียวกัน และในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2529 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แยกบางหมู่บ้านออกมาจากการปกครองของตำบลน้ำเกลี้ยง รวมตั้งเป็นตำบลเขิน และในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แยกบางหมู่บ้านออกมาจากการปกครองของตำบลละเอาะกับตำบลเขิน รวมตั้งเป็นตำบลรุ่งระวี
เมื่อกิ่งอำเภอน้ำเกลี้ยงมีสภาพชุมชนและชุมนุมการค้าหนาแน่นหรือมีสภาพเจริญขึ้นกว่าเดิมมาก จึงได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะตั้งขึ้นเป็น อำเภอน้ำเกลี้ยง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารงานของหน่วยบริหารราชการส่วนภูมิภาค จนกระทั่งในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2539 ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แยกบางหมู่บ้านออกมาจากการปกครองของตำบลน้ำเกลี้ยง รวมตั้งเป็นตำบลคูบ จึงมีการปกครองระดับตำบลทั้งหมด 6 ตำบล
จุดเด่น[แก้]
อำเภอน้ำเกลี้ยงเป็นที่ตั้งของสถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา ซึ่งมีสนสองใบ เป็นพื้นที่อนุรักษ์พื้นที่ป่าสนสองใบที่ราบแหล่งสุดท้ายของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี และยังเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พบป่าสนสองใบ สังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) สำนักการป่าชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับหน่วยป้องกันรักษาที่ ศก.5 (ห้วยขะยุง - หนองม่วง) จัดตั้งให้เป็นป่าคุ้มครอง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2491 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ปีเดียวกัน
ต่อมาได้ให้เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2512 โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ปีเดียวกัน เนื่องจากป่าแห่งนี้มีไม้ยาง ไม้กระบาก ไม้พะยอม ไม้ประดู่ ไม้พะยุง ไม้ตะเคียน ไม้สน และไม้ชนิดอื่นซึ่งมีค่าจำนวนมาก และมีของป่ากับทรัพยากรธรรมชาติอื่นด้วย สมควรกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อรักษาสภาพป่า ไม้ ของป่า และทรัพยากรธรรมชาติอื่นไว้