ต อมทอนซ ลอ กเสบฉ ดโบท อกลดกรามได ม ย

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การปฏิบัติตัวให้มีสุขลักษณะที่ดี (good hygiene) เช่น การสอนลูกหลานให้ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารหรือขนม และหลังเข้าห้องน้ำใ ใช้ช้อนกลาง ไม่ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน

โบท็อกซ์กรามสามารถปรับให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้ โดยโบท็อกซ์จะไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ในคนที่มีปัญหาหน้าบานจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ หลังฉีดโบท็อกซ์ลดกรามไปหน้าจึงดูเล็กลง และจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน

สารบัญ

โบท็อกซ์กรามทำให้หน้าเรียวจริงไหม ?

โบท็อกซ์สามารถช่วยลดขนาดกรามได้ โดยการทำงานของโบท็อกซ์ ทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง และทำให้หน้าดูเรียวเล็กตามไปด้วย ถ้าหากบริเวณขอบกราม เหนียง มีส่วนที่เป็นไขมัน ในจุดนี้จะต้องใช้หัตถการอื่นในการลดปริมาณไขมันร่วมด้วย หรือในผู้ที่มีขนาดกรามใหญ่ร่วมด้วยปัญหาผิวหย่อนคล้อยสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น อย่างการร้อยไหม เพื่อลดขนาดกรามพร้อมยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และนอกจากโบท็อกซ์จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามแล้ว ยังนิยมนำมาใช้ในการฉีดลิฟท์หน้าให้หน้าเรียวเล็ก กระชับ กรอบหน้าชัด ทั้งนี้หากจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานนะคะ

ฉีดโบท็อกซ์ลดแก้มได้ไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถลดแก้มได้ เนื่องจากการทำงานของโบท็อกซ์จะเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ส่วนแก้มยุ้ยๆนิ่มๆ ที่เราเห็นกันเป็นไขมันสะสม ควรทำหัตถการอื่นๆ ร่วมด้วย

โดยหากอยากให้หน้าเล็กลงชัดเจนแนะนำให้ฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟต เพื่อไปสลายไขมันบริเวณแก้มพร้อมกับฉีดโบท็อกซ์ลดกรามค่ะ

ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามอันตรายไหม ?

หลายคนกลัวว่าฉีดโบท็อกซ์กรามจะอันตรายไหม กลัวฉีดแล้วหน้าตึง ยิ้มไม่ได้

ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์กรามหากฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานที่มีการใช้โบท็อกซ์แท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง จะไม่เป็นอันตรายค่ะ

แต่หากฉีดกับหมอกระเป๋า ใช้โบท็อกซ์หิ้วอาจทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ค่ะ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความอันตรายของโบท็อกซ์หิ้ว โบท็อกซ์ปลอมได้ที่ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม

ฉีดโบท็อกซ์กรามยี่ห้อไหนดี ?

แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติและความพิเศษแตกต่างกันออกไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้แพทย์แนะนำโบท็อกซ์ที่เหมาะกับปัญหาและความต้องการเรา โดยยี่ห้อโบท็อกซ์ที่นิยมใช้และผ่านอย.ไทย มีดังนี้

• Allergan มีความบริสุทธิ์มากที่สุดและอยู่ได้นานที่สุด อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน
• Dysport เหมาะกับการนำฉีดเพื่อยกกระชับหน้า อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
• Nabota ให้ผลลัพธ์เร็ว กรามลดลงไว อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
• Aestox เน้นการให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี

ฉีดมาแล้วยิ้มไม่สุดเกิดจากอะไร ?

หลังจากฉีดโบท็อกซ์กรามมา หลายคนอาจจะเจอผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น อาการเหมือนยิ้มไม่สุด ดูแข็งไม่ธรรมชาติอาจจะเกิดจาก

• ยากระจายไปผิดตำแหน่ง อาจจะเกิดขึ้นได้จากการนวดหน้าทรีทเม้นท์ นอนราบหลังทำหรือการผสมยาที่ใช้น้ำเกลือมากเกินไป ทำให้ยากระจายไม่อยู่จุดที่ฉีด
• การใช้โบท็อกซ์ปลอม โบท็อกซ์หิ้ว ไม่ได้การรับรองมาตรฐาน จะทำให้ยาออกฤทธิ์ไม่สม่ำเสมอ
• การใช้จำนวนยูนิตที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการตึง แสดงสีหน้าไม่ได้ตามปกติ

หลังฉีดแล้วจะปวดกรามหรือเมื่อยไหม ?

หลายๆ คนจะคิดว่าถ้าหากฉีดโบท็อกซ์ลดกรามไปแล้วแต่ไม่ปวดหรือมีอาการเมื่อยอาจจะไม่เห็นผล ไม่จริงแต่อย่างใดนะคะ การปวดหรือเมื่อยนั้นเป็นผลข้างเคียงของโบท็อกซ์ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับการฉีดโบท็อกซ์ถูกทำให้ทำงานได้ลดลงค่ะ

ฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วแก้มห้อย

พบได้บ่อยในคนไข้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มเยอะ หรือแก้มมีความหย่อนคล้อย เนื่องจากการฉีดโบท็อกกรามทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง แต่แก้มไม่ได้ลดลงตามไปด้วยทำให้แก้มเกิดความหย่อนคล้อยลงมา เพราะกล้ามเนื้อกรามเป็นกล้ามเนื้อที่ติดกระดูกเปรียบเหมือนฐานโครงสร้างของใบหน้า ถ้ามีขนาดลดลงจึงทำให้ใบหน้าทรุดลงมาได้

หมอขอแนะนำว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามไม่จำเป็นต้องฉีดให้กล้ามเนื้อกรามยุบลงไปหมดเพราะแก้มจะห้อยลงมาได้ โดยเฉพาะคนไขที่อายุมากค่ะ

ฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วแก้มตอบ

กรณีสามารถพบได้บ่อยในคนไข้ที่มีเนื้อแก้มน้อย มีแก้มตอบ เนื่องจากกล้ามเนื้อกรามจะอยู่บริเวณแนวกระดูกกรามยาวไปถึงบริเวณแก้มตอบ ดังนั้นเทคนิคการฉีดจึงมีความสำคัญค่ะ หมอจะเน้นฉีดลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามลงแค่บริเวณส่วนล่างของกล้ามเนื้อแถวแนวกระดูกกราม แล้วเหลือส่วนบนไว้ รวมถึงใช้ปริมาณยูนิตที่เหมาะสมไม่เยอะจนเกินไป จะช่วยลดโอกาสเกิดแก้มตอบจากการฉีดโบท็อกซ์กรามได้ค่ะ

ฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วมีก้อนปูด

สามารถพบได้ในคนไข้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ แน่น แข็งแรง หลังจากฉีดไปประมาณ1สัปดาห์ จะสังเกตเห็นว่าบริเวณกรามเป็นก้อนปูดเมื่อกัดฟันหรือเคี้ยวอาหาร แต่เมื่อโบท็อกซ์ออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ4สัปดาห์จะสามารถหายไปได้เอง

หากยังพบว่าก้อนปูดนั้นยังไม่หายไปมักเกิดจากในคนไข้กลุ่มนั้นมีแนวพังผืดกั้นกลางระหว่างกล้ามเนื้อกรามทำให้แบ่งกล้ามเนื้อกรามออกเป็นชั้นล่างและชั้นบน

เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปทำให้โบท็อกซ์ไม่สามารถกระจายตัวไปทั่วกล้ามเนื้อกรามได้จึงทำให้เวลากัดฟันหรือเคี้ยวอาหารกล้ามเนื้อส่วนบนยังไม่คลายตัวจึงเห็นเป็นก้อนปูดขึ้นมา

แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เราสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดโบท็อกซ์ซ้ำเข้าไปในตำแหน่งก้อนกล้ามเนื้อที่ปูด ประมาณ 2สัปดาห์ก็จะยุบตัวลงไปเองค่ะ

โบท็อกซ์กรามฉีดบ่อยๆได้ไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์ไม่ควรฉีดบ่อยๆนะคะ เพราะจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการดื้อยาได้ ควรฉีดเว้นระยะห่างในการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือนเป็นอย่างน้อย

โบท็อกซ์กรามกี่วันเห็นผล ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม ?

โบท็อกซ์กรามจะเริ่มเห็นผลชัดเจนที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังฉีด และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น แบรนด์ของโบท็อกซ์ที่ใช้ การใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล

อ่านเพิ่มเติม : โบท็อกซ์กรามกี่วันเห็นผล

สรุป

การฉีดโบท็อกซ์ช่วยปรับรูปหน้าได้จริง เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ใหญ่ และนอกจากจะฉีดโบท็อกซ์กรามเพื่อปรับให้รูปหน้าเรียวเล็กแล้ว ยังมีการใช้โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า ให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ กรอบหน้าชัดขึ้นได้เช่นกัน

อีกทั้งโบท็อกซ์ยังสามารถฉีดบริเวณอื่นได้อีกด้วย อย่างเช่น โบท็อกซ์ปีกจมูก หรือโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ทั้งนี้หมออยากแนะนำให้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และคลินิกที่ได้มาตรฐานจะได้ลดความเสี่ยงอันตรายจากการฉีดด้วยค่ะ