ขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนการประกันภัยรถยนต์
1. การแจ้งอุบัติเหตุ
1.1 โทรศัพท์แจ้งเหตุทันทีที่หมายเลขโทรศัพท์ 1292 ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีเคลมสด หรือเคลมที่ต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทออกตรวจสอบอุบัติเหตุ ณ สถานที่เกิดเหตุ รวมถึงกรณีรถหาย หรือไฟไหม้
1.2 แจ้งเคลมออนไลน์ผ่าน Website ของบริษัทฯ หรืออู่คู่สัญญาของบริษัท กรณีเคลมแห้ง หรือรถคันเอาประกันภัยเสียหายเล็กน้อยและไม่มีคู่กรณี
2. รายละเอียดที่ใช้ในการแจ้งอุบัติเหตุ มีดังนี้
2.1 เลขทะเบียนรถ พร้อมจังหวัดทะเบียนรถ
2.2 เลขที่กรมธรรม์ และชื่อผู้เอาประกันภัย
2.3 ชื่อผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ
2.4 สถานที่เกิดเหตุหรือจุดจอดรถหรือจุดนัดหมาย
2.5 ลักษณะการเกิดเหตุ รวมถึงรถหายหรือไฟไหม้
3. การตรวจสอบอุบัติเหตุ บริษัทส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุหรือสถานที่นัดหมายเพื่อตรวจสอบการเกิดเหตุ ความเสียหาย และความคุ้มครองตามกรมธรรม์ หรือทำการตรวจสอบอุบัติเหตุผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้ โดยแบ่งความเสียหายออกเป็นดังนี้
3.1 กรณีมีความเสียหายเฉพาะรถคันที่เอาประกันภัย เช่น พลิกคว่ำ ไฟไหม้ สูญหาย เป็นต้น เมื่อตรวจสอบแล้วอยู่ภายใต้เเงื่อนไขได้รับความคุ้มครอง เจ้าหน้าที่จะออกใบรับรองความเสียหาย(ใบเคลม) เพื่อนำรถไปจัดซ่อม ที่อู่คู่สัญญา หรือจัดซ่อมเอง (แต่หากความเสียหาย 70%ขึ้นไปของทุนประกันภัย ก็จะดำเนินการคืนทุนให้กับผู้ประกันภัย)
3.2 กรณีมีคู่กรณี หรือทรัพย์สินอื่นๆเสียหาย หากพบว่ารถคันที่เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท ก็จะออกใบรับรองความเสียหาย(ใบเคลม) ให้กับผู้เอาประกันภัย และทุกฝ่าย เพื่อดำเนินการจัดซ่อมซึ่งสามารถให้บริษัทจัดซ่อมให้หรือนำไปจัดซ่อมเอง และเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกับทางบริษัทต่อไป
3.3 กรณีการทำประกันภัย แบบคุ้มครองเฉพาะภัย เช่น 2+,3+ กรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีการชนกับยานพาหนะทางบก ส่วนประเภท 2,3 ไม่สามารถออกใบรับรองความเสียหาย(ใบเคลม) สำหรับตัวรถประกันให้ได้ในทุกกรณี
3.4 กรณีมีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย เช่น เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ และรถคันที่เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาท
3.4.1 กรณีได้รับบาดเจ็บ สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล โดยบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาให้ จากนั้นก็จะมีการนัดหมายเจรจาค่าสินไหมทดแทนกับทางบริษัทต่อไป
3.4.2 กรณีเสียชีวิต ทางทายาทหรือผู้เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายและประเพณีที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะได้ทำการนัดหมายเจรจาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป
4. ขั้นตอนและวิธีการในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
4.1 กรณีให้บริษัทจัดซ่อม ให้นำใบรับรองความเสียหาย(ใบเคลม) ติดต่อยังอู่คู่สัญญาของบริษัท เพื่อจัดการซ่อมแซมให้ หรือเข้ารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาของบริษัทโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
4.2 กรณีประสงค์จัดซ่อมเอง หรือ ไปรักษาพยาบาลเอง หรือ ประสงค์ที่จะได้รับการชดใช้ ค่าสินไหมเป็นเงิน จะใช้เอกสารดังนี้
เอกสารหลักฐานที่ใช้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
(1) กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรือ อู่ คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
(1.1) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาเอกสารหลักฐานที่ทางราชการออกให้ของผู้ส่งมอบรถยนต์เข้าซ่อม
(1.2) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตาม (1.1) แล้ว ต้องมีเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบอนุญาตขับขี่ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล)ของเจ้าของ หรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
(ข) หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
(ค) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
(2) กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ ที่ไม่ใช่คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้
(2.1) การประเมินความเสียหายก่อนการจัดซ่อม ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- ใบประเมินราคาค่าซ่อม
- ภาพถ่ายความเสียหายของรถยนต์ตามใบประเมินราคาค่าซ่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุ
(ข) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตาม (ก) แล้ว ให้มีเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)ของเจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
(2.2) การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรณีรถซ่อมแล้วเสร็จ ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
- ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
- ใบเสร็จรับเงิน และหรือใบกำกับภาษี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือ สำเนาหนังสือ รับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ(กรณีเป็นนิติบุคคล)
- หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
- ภาพถ่ายรถยนต์ และชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์รถยนต์ระหว่างซ่อม และภายหลังจัดซ่อมเสร็จ
- หลักฐานการตรวจสภาพรถยนต์ที่จัดซ่อมแล้วเสร็จ
(ข) กรณีรถยนต์คู่กรณี นอกจากใช้เอกสารตาม (ก) 1) และ 4) แล้ว ให้มีเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้ด้วย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน
นิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของ
หรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี
- สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
(3) กรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(3.1) กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผลประโยชน์
(ก) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ(กรณีเป็นนิติบุคคล)
(ค) หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
(ง) หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
(จ) คู่มือจดทะเบียนรถ
(ฉ) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
(ช) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)
(3.2) กรณีสถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ นอกจากใช้เอกสารตาม (3.1) แล้ว ให้มีเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์
(ข) หนังสือสละสิทธิ์ในการรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์
(4) กรณีรถยนต์สูญหาย ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(4.1) กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับผลประโยชน์
(ก) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่ หรือหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ(กรณีเป็นนิติบุคคล)
(ค) หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
(ง) แบบหนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
(จ) คู่มือจดทะเบียนรถ
(ฉ) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล)
(ช) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
(ซ) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)
(ฌ) เอกสารการยกเลิกการใช้รถ
(4.2) กรณีสถาบันการเงิน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ นอกจากใช้เอกสารตาม (4.1) แล้ว ให้มีเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์
(ข) หนังสือสละสิทธิ์ในการรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์
(5) กรณีบาดเจ็บ ทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบอนุญาตขับขี่หรือหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นที่รับรองตัวตนของผู้ประสบภัย
(ค) หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
(ง) ใบรับรองแพทย์ และ/หรือประวัติการรักษาของแพทย์
(จ) ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล หรือสำเนาใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล ในกรณีที่มีหลักฐานแสดงว่ายังไม่ได้รับชดใช้เต็มจำนวนตามใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว
(6) กรณีผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลภายนอกเสียชีวิต ให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) สำเนาใบมรณบัตร
(ข) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต หรือหนังสือเดินทาง (กรณีผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลต่างด้าว)
(ค) เอกสารแสดงการเป็นทายาททุกคนของผู้เสียชีวิต ได้แก่ สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
(ง) เอกสารของทายาททุกคนของผู้เสียชีวิตที่รับค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
(จ) คำสั่งศาลให้บุคคลทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ (กรณีทายาทผู้เสียชีวิตเป็นผู้เยาว์)
(ฉ) หนังสือรับรองการยืนยันการเป็นทายาทของสถานทูตหรือสถานกงสุล พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย (กรณีเป็นทายาทของบุคคลต่างด้าว)
(ช) หนังสือมอบอำนาจของทายาท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ(กรณีทายาทมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)
(ซ) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี
(7) ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสื่อมราคารถให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) ต้นฉบับหรือสำเนาใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
(ข) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ
(ค) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ
(ง) หนังสือมอบอำนาจ และ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ และ ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)
(จ) หลักฐานที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสื่อมราคารถ เช่น สำเนาใบนำรถเข้าซ่อม/ใบรับรถ รายการอะไหล่ที่ใช้ในการจัดซ่อม สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าซ่อม (ถ้ามี)
(8) กรณีความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
(ก) ต้นฉบับใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)
(ข) เอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
(ค) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของทรัพย์สิน
(ง) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของทรัพย์สินมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ(กรณีเป็นนิติบุคคล)
(จ) หลักฐานที่แสดงรายละเอียดความเสียหาย มูลค่า ระยะเวลาการจัดซ่อม เป็นต้น
ระยะเวลาการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายในระยะเวลา 7 วัน กรณีเป็นกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือ 15 วัน กรณีเป็นกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ นับตั้งแต่วันที่ตกลงกันได้และบริษัทได้รับเอกสารถูกต้องครบถ้วน ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยมีความประสงค์จะให้บริษัททบทวนผลการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน บริษัทจะดำเนินการทบทวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องขอให้ทบทวนหรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม (ถ้ามี)