คะแนนต ำส ดโอเน ต ม ต างๆ รอบแอด

เปลี่ยนระบบ 6 รอบแล้วนะ มีอะไรบ้าง ?? มาดูกันนะคะ

1. ระบบ Entrance ยุคแรก ปี 2504 – 2542 ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในยุคแรก ๆ นั้น เป็นการสอบเข้าแบบที่ยังไม่มีหน่วยงานกลางเข้ามาดูแลเป็นทางการ แต่เกิดจากความร่วมมือกันของแต่ละมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในยุคนั้นจัดสอบขึ้นมากันเอง เพื่อแก้ปัญหาที่นักเรียนต้องเสียค่าใช้จ่ายสมัครสอบแต่ละที่หลายครั้ง โดยมีสภาการศึกษาแห่งชาติเป็นผู้ประสานงาน รูปแบบการสอบยุคนี้ เปิดให้นักเรียนเลือกคณะที่สนใจเข้าศึกษาได้ 4 อันดับ (ภายหลังปี 2516 เปลี่ยนเป็น 6 อันดับ) จากนั้นก็เข้าสอบเอ็นทรานซ์ โดยใช้คะแนนสอบเอ็นทรานซ์ 100% ไม่ต้องใช้เกรดเฉลี่ยในโรงเรียนและสามารถสอบเทียบได้ หากมีความรู้ความสามารถ ซึ่งเป็นการสอบแบบครั้งเดียว หากไม่ติดต้องรอสอบใหม่ปีหน้าเลยทีเดียว . 2. ระบบ Entrance ยุคใหม่ ปี 2542 – 2548 โดยเปิดให้สอบเอ็นทรานซ์ได้ 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือนตุลาคม และเดือนมีนาคม เพื่อให้เด็กได้รู้คะแนนสอบตัวเองก่อน และสามารถเลือกคะแนนครั้งที่ดีที่สุดของตัวเองมายื่นได้ สามารถเลือกยื่นคณะได้ 4 อันดับ รวมถึงสัดส่วนคะแนนที่เปลี่ยนไปจากเดิมใช้คะแนนสอบเอ็นทรานซ์ 100% ในยุคนี้ได้มีการเพิ่มวิธิคิดสัดส่วนคะแนนใหม่ โดยใช้เกรดเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย (GPAX) มาร่วมคิดคะแนนด้วย ประมาณ 10% . 3. ระบบ Admission : O-NET , A-NET ปี 2549 – 2552 เข้าสู่ยุค ระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาŽ หรือว่า แอดมิชชั่น (Admission) แทน ในยุคนี้ได้มีการเพิ่มรูปแบบข้อสอบแบบใหม่ขึ้นมาในชื่อ O-NET และ A-NET เข้ามาเป็น 1 ในสัดส่วนการคิดคะแนนในยุคนี้ ซึ่งสัดส่วนคะแนนนั้น จะประกอบด้วยเกรดเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรมัธยมปลาย (GPAX) 30% รวมกับคะแนน O-NET และ A-NET โดยการสอบ O-NET จะเป็นการสอบขั้นพื้นฐานทั่วไป 8 วิชาสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย สอบได้เพียงครั่งเดียวเท่านั้น ส่วน A-NET นั้นจะเป็นข้อสอบเสริมที่จะมีความยากขึ้นกว่า O-NET เน้นไปที่ด้านการคิดวิเคราะห์มากขึ้นอีก 5 วิชา แต่ A-NET นั้นจะสามารถสอบได้มากกว่า 1 ครั้งและเลือกครั้งที่ดีที่สุดได้ . 4. ระบบ Admission : GAT / PAT ปี 2553 – 2560 หลังจากถูกตั้งคำถามในเรื่องมาตรฐานของข้อสอบ A-NET ที่ทำให้หลายมหาวิทยาลัยหันมาเปิดรับตรงมากขึ้น ก็ได้มีการยกเลิกการสอบไป และปรับมาใช้ข้อสอบแบบใหม่ซึ่งเป็นการสอบวิชาความถนัดในด้านต่าง ๆ หรือที่คุ้นหูกันว่า GAT/PAT โดย GAT จะเป็นการทดสอบความถนัดทั่วไป ส่วน PAT จะเป็นการทดสอบความถนัดทางด้านวิชาชีพ เปิดให้สอบได้ 2 – 3 ครั้งแล้วแต่ปี ซึ่งสัดส่วนคะแนนในยุคนี้ยังคงมีคะแนน O-NET มาคิด 30% รวมกับ GPAX 20% และคะแนน GAT/PAT ครั้งที่ดีที่สุดประมาณ 50 % ซึ่งแล้วแต่คณะ แล้วแต่มหาวิทยาลัยจะกำหนด ต่อมาในปี 2555 ทางกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ กสพท. ให้ความเห็นว่าการสอบ GAT/PAT นั้นไม่ตอบโจทย์การคัดเลือกนักเรียกจริง ๆ จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จัดสอบ 7 วิชาสามัญ รวมถึงระบบ ‘เคลียริงเฮาส์’ เพิ่มเข้ามาในปีนี้ เพื่อลดปัญหาเด็ก ๆ สอบติดแต่กั๊กที่เรียนกัน กระทั่งปี 2558 ได้มีการปรับลดวิชาในข้อสอบ O-NET ลงจาก 8 วิชาเหลือ 5 วิชา โดยตัดวิชาศิลปะ, พลศึกษา, สุขศึกษา และการงานอาชีพและเทคโนโลยีออก แต่พอในปี 2559 แม้จะลดวิชา O-NET ลงไปแล้ว แต่ก็ได้เพิ่มการสอบจาก “7 วิชาสามัญ” เป็น “9 วิชาสามัญ” แทน โดยได้มีการเพิ่มวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กสายศิลป์เพิ่ม . 5. ระบบ TCAS ปี 2561 – 2565 มาถึงระบบล่าสุดที่ใช้อยู่ปีนี้ ( ปีสุดท้ายแล้ววว ) มีการเลิกใช้คำว่า “Admission” เปลี่ยนมาเรียกว่าระบบ Thai University Central Admission System หรือ TCAS แทน ซึ่งรูปแบบการสอบในยุคนี้ ได้เลื่อนการสอบทั้งหมดมาสอบช่วงหลังจบ ม.6 ทั้งหมด และลดการสอบทั้งหมดเหลือเพียงอย่างละครั้งเดียว โดยมีการเปิดรับสมัครทั้งหมด 5 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 ยื่นด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ไม่มีการสอบข้อเขียน และให้มหาวิทยาลัย คัดเลือกเด็กโดยตรง รอบที่ 2 รับแบบโควต้า ที่เหมาะสำหรับเด็กที่อยู่ในพื้นที่/ภาคที่มีโควต้าโรงเรียน และโครงการความสามารถพิเศษ ที่ได้เห็นกันอยู่บ่อยๆก่อนหน้านี้ รอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน เลือกได้ 4 สาขา โดยไม่มีลำดับ หมายความว่าอาจจะผ่านได้ทั้งหมด 4 อันดับเลย แล้วค่อยเลือกสาขาที่ต้องการ รอบที่ 4 การรับแบบแอดมิชชั่น เลือกได้ 4 สาขา โดยมีลำดับ คล้ายๆกับระบบ Admission เดิม รอบที่ 5 รับตรงแบบอิสระ ซึ่งบางแห่งเรียกว่ารอบเก็บตก คัดเลือกโดยสถาบัน/มหาวิทยาลัย โดยตรง เป็นการเพิ่มโอกาสให้เด็กมีที่เรียนในสถาบันที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น . และะะะ ปี 2564 ได้ยุบรอบการคัดเลือกเหลือ 4 รอบ โดยมีเกณฑ์รอบรับตรงร่วมและรอบแอดมิชชันเหมือนเดิม แต่เปิดให้ยื่นคะแนนพร้อมกัน นักเรียนสามารถเลือกได้สูงสุด 10 อันดับ มีการประกาศผล 2 ครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กสละสิทธิ์ และมีการประมวลผลเรียกตัวสำรอง ให้มีสิทธิเข้าศึกษาได้ . 6. ระบบ TCAS ปี 2566 เป็นต้นไป – เมื่อไรไม่รู้ คิดว่าไม่นานค่ะ >3<

“ข้อสอบแบบใหม่ที่ไม่เคยเจอ!”

  • ผลคะแนน TGAT TPAT และวิชาสามัญ ทุกวิชาจะมีอายุ 1 ปีเท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าจะซิ่ว ต้องสอบใหม่ทุกปี
  • ถึงจะเป็นการสอบบนคอมพิวเตอร์ แต่ก็เป็นการสอบในสนามที่จัดไว้ให้ ซึ่งจะมีศูนย์สอบหลายแห่ง อาจจะเป็นมหาวิทยาลัย โรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนขนาดกลาง หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่มีคอมพิวเตอร์รองรับ
  • ทางทปอ.จะมี demo ระบบสอบ หรือตัวอย่างระบบสอบให้น้องๆ ได้เห็น และทดลองใช้งานระบบก่อนการสอบจริง

โดยปรับรายวิชา GAT เปลี่ยนเป็น TGAT มี 3 ส่วน (สอบทุกส่วน) ได้แก่ 1. การสื่อสารภาษาอังกฤษ 2. การคิดอย่างมีเหตุผล 3. สมรรถนะการทำงานในอนาคต เลือกสอบในเดือนธันวาคม 2565 ใช้สำหรับการคัดเลือกในรอบ Portfolio/Quota/Admission . รายวิชา PAT เปลี่ยนเป็น TPAT มี 5 รายวิชา ได้แก่ 1. วิชาเฉพาะ กสพท 2. ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ 3. ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ 4. ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ 5. ความถนัดทางครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ สอบในเดือนธันวาคม 2565 ใช้สำหรับการคัดเลือกในรอบ Portfolio/Quota/Admission . รายวิชาสามัญ เป็น รายวิชาสามัญที่เน้นการนำความรู้ไปใช้งาน (Applied Knowledge) ได้แก่ 1. คณิตศาสตร์ประยุกต์ มี 2 ส่วน คือ คณิตศาสตร์พื้นฐาน และ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม (เลือกสอบเฉพาะ คณิตศาสตร์พื้นฐาน หรือ สอบทั้ง 2 ส่วน โดยสาขาวิชาอาจเลือกใช้คะแนนเพียงคณิตศาสตร์พื้นฐาน และ/หรือ คณิตศาสตร์เพิ่มเติมด้วย ก็ได้) 2. วิทยาศาสตร์ประยุกต์ 3. ฟิสิกส์ 4. เคมี 5. ชีววิทยา 6. ภาษาไทย 7. สังคม 8. ภาษาอังกฤษ 9. ภาษาต่างประเทศ (ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน อาหรับ บาลี เกาหลี) สอบเดือนมีนาคม 2566 สำหรับการคัดเลือกในรอบ Quota / Admission . . จะเห็นได้ว่า

TCAS66 จะกลับมาให้สอบตั้งแต่ยังไม่จบ ม.6 เหมือนสมัยเก่าๆเลยค่ะ

และ พี่แอดมินจะติดตามข่าวสาร เพื่อมาอัพเดทเพิ่มเติมให้น้องๆได้ทราบกันอีกครั้งหน้านะคะ .

ขอบคุณข้อมูลจาก : //www.mangozero.com/60years-entrance-evolution/

Post Views: 12,759

รอบAdmission เลือกได้กี่อันดับ

เลือกสาขาวิชาที่ท่านสนใจได้สูงสุด 20 อันดับเพื่อใช้ในการสมัครรอบ Admission. พิมพ์ชื่อมหาวิทยาลัย คณะ หรือหลักสูตรที่ผู้สมัครสนใจ คลิก “เลือก”

รอบ รับ ตรง ใช้ คะแนน อะไร บ้าง

ปัจจุบัน เกณฑ์รอบ Admission จะเป็นเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดเอง โดยจะเลือกใช้คะแนนจากข้อสอบกลาง TGAT/TPAT และ A-Level ตามสัดส่วนค่าน้ำหนักที่มหาวิทยาลัยต้องการ ดังนั้นสาขาเดียวกัน แต่ต่างมหาวิทยาลัยก็อาจจะใช้เกณฑ์ไม่เหมือนกันก็ได้

GAT 100% กี่คะแนน

วิธีคิดเกณฑ์ขั้นต่ำ GAT/PAT คะแนนเต็มวิชาละ 300 คะแนน 10% = 30 คะแนนขึ้นไป 20% = 60 คะแนนขึ้นไป 30% = 90 คะแนนขึ้นไป 40% = 120 คะแนนขึ้นไป

คะแนน TCAS อยู่ได้กี่ปี

ผลคะแนน GAT / PAT มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันสอบ ยังสามารถใช้ยื่นได้ใน TCAS รอบ 3 รูปแบบ Admission 2. ถ้าสอบใหม่ปีล่าสุดด้วย ระบบจะดึงคะแนนที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปีให้ประมวลผลโดยอัตโนมัตินะครับ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ค้นหา ประวัติ นามสกุล ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง ไทยแปลอังกฤษ ประโยค Terjemahan เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาจีน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ่้แปลภาษา Google Translate ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย พร บ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 วิธีใช้มิเตอร์วัดไฟดิจิตอล สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น ห่อหมกฮวก แปลว่า Bahasa Thailand Thailand translate mu-x มือสอง รถบ้าน การวัดกระแสไฟฟ้า ด้วย แอมมิเตอร์ การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน แคปชั่น พจนานุกรมศัพท์ทหาร ภูมิอากาศ มีอะไรบ้าง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น อาจารย์ ตจต อเวนเจอร์ส ทั้งหมด เขียน อาหรับ แปลไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน Google map Spirited Away 2 spirited away ดูได้ที่ไหน tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง กินยาคุมกี่วัน ถึง ปล่อยในได้ ธาตุทองซาวด์เนื้อเพลง บช.สอท.ตำรวจไซเบอร์ ล่าสุด บบบย มิติวิญญาณมหัศจรรย์ ตอนจบ รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล ศัพท์ทางทหาร military words สอบ O หยน