คอน โด ลุ ม พิ นี ท่า น้ํา สาธุประดิษฐ์

รีวิวฉบับที่ 255 เราจะเปลี่ยนบรรยากาศมารีวิวคอนโดมิเนียมริมน้ำกันบ้าง ไม่ใช่ทะเลอย่างพัทยาหรือหัวหิน แต่จะเป็นริมน้ำเจ้าพระยาอย่าง ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 (Lumpini Park Riverside Rama 3) ที่พึ่งจะสร้างเสร็จกันหมาดๆเลยครับ

• ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 (Lumpini Park Riverside Rama 3)
• LPN Development ., Plc.
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 4 Tower 2,373 ยูนิต
• คอนโด Low Rise 5 ชั้น 2 อาคาร รวม 12 ยูนิต
• คอนโดกึ่งทาวน์โฮม 3 ชั้น 1 อาคารพร้อมชั้นลอยและใต้ดิน 20 ยูนิต
• ที่ดินประมาณ 14-1-42ไร่
• 1 – 3 Bedrooms / Town Home Unit
• พื้นที่ใช้สอย 26 – 105 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9 – 2.1 ล้านบาท
• ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 70,000 – 90,000 บาท

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

แผนที่ของโครงการ LPN Park ริเวอร์ไซด์-พระราม 3

จากทางด่วนขั้นที่ 1 เรามุ่งหน้าไปทางดาวคะนองเพื่อลงที่ทางลงพระราม 3 นะครับ

ลงมาก็จะเจอแยกนางลิ้นจี่ เราสามารถวิ่งพระราม 3 ยาวๆๆไปก็จะถึงตึก LPN ได้ หรือว่าเราจะเลือกไปลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์หรือถนนจันทน์แล้วอ้อมมาอีกทางก็ได้นะครับ

สามแยกนี้เลี้ยวขวาไปข้ามสะพานภูมิพลได้ แต่เราไม่เลี้ยวนะครับ

ตรงไปอีกนิดจะถึงโครงการเก่าของ LPN ก็คือ Lumpini Place

วิ่งเลยไปครับ ใกล้ละอีกไม่ไกล

เจอธนาคารกรุงศรีสำนักงานใหญ่

หมู่ตึก SV City เห็นอยู่ไกลๆกับสะพานแขวนสวยงาม

สถานี BRT ที่นี่เรียกว่า สถานีวัดด่าน

ตึกด้านหน้านี่ละครับ LPN Park พระราม 3

ไม่ได้จอดหน้าตึกนะครับต้องวิ่งเลยไปอีก

สะพานนี้ขึ้นไม่ได้นะครับ ไม่งั้นเลย

วิ่งผ่านแยกสาธุประดิษฐ์มาก็จะถึงโครงการพอดี

พอเรามาถึงโครงการกันแล้วก็เริ่มเข้าไปดูข้างในกันก่อนเลย ตรงนี้เป็นส่วนของ Town Home Unit ที่พึ่งจะเริ่มขายกัน ภายใต้ชื่อ Town Villa

จริงๆเป็นอาคารชุดเหมือนกับคนอื่นละครับ (คอนโด) จำนวน 1 อาคาร ซอยเป็น 20 ห้อง มีชั้นใต้ดินด้วยเอาไว้จอดรถ

เราเดินกันไปที่ตึกสูงดีกว่า วันนี้เราจะโฟกัสกันที่นี่ … 2000 กว่ายูนิต!

ส่วนกลางขอบอกว่าอย่างใหญ่ ด้านซ้ายที่เห็นคือ Lift แก้ว มีบันไดเดินขึ้นไปมาได้ด้วย ผมว่าส่วนกลางที่นี่ใหญ่ที่สุดในบรรดา LPN ที่ผมเคยไปดูมาแล้วนะ อาจจะไม่รวม LPN Mega City บางนา ที่ยังไม่เสร็จ

พื้นที่ของโครงการใหญ่มาก ห้องส่วนใหญ่หันทิศเหนือ-ใต้ ทิศเหนือจะเฉียงไปทางตะวันตกนิดๆ ได้วิวสะพานแขวน และทิศใต้จะเฉียงไปทางตะวันออกนิดๆ ได้วิวสะพานภูมิพล

ส่วนเทาๆด้านซ้ายหน้าสุดคือ Town Villa ที่กำลังจะเปิดตัว อาคารด้านหลังสุดคือ River Villa ส่วนพื้นที่ที่เราจะโฟกัสกันก็คือพื้นที่สีขาวๆตรงกลางในส่วนที่เป็น Condomnium 4 Towers

ทาวเวอร์ทั้ง 4 มีทางเข้าแยกกัน โดยทางซ้ายคือ A,D และทางขวาคือ B,C ซึ่งฝั่งที่ติดกับ Tower B คือวัดทองบน

แปลนชั้น 9 เป็น Facility ส่วนกลาง

ชั้นที่ 11 – 36 เป็นอาคารพักอาศัย แต่ละตึกมี Lift โดยสาร 3 ตัว มีลิฟท์บริการ 1 ตัว โดยมีสัดส่วนดังนี้

Tower A/B ลิฟท์ 1 ตัวต่อ 150 ยูนิต ที่ความหนาแน่น 16 ห้องต่อช้ัน

Tower C ลิฟท์ 1 ตัวต่อ 205 ยูนิต ที่ความหนาแน่น 22 ห้องต่อช้ัน

Tower D ลิฟท์ 1 ตัวต่อ 215 ยูนิต ที่ความหนาแน่น 23 ห้องต่อช้ัน

ผังชั้นล่าง มีห้องเพียบเลย ที่เด่นๆคือนิติบุคคลที่ใหญ่มาก, Lobby ใต้ตึกเปิดโล่งรับลมจากเจ้าพระยา, ห้องเอนกประสงค์ขนาดใหญ่, ส่วน Lobby รับรองที่มีสองจุดซ้ายขวา

ทางเดินขึ้นไปข้างบน ต้นไม้เยอะดี มีการทำ Vertical Garden ด้วย

โต๊ะพักผ่อน แถวนี้ลมเย็นและแรงมากๆ

ทางเปิดโล่ง มองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ปลูกต้นปาล์มเป็นแถวๆไว้ ลมพัดผมแทบจะปลิว แต่บังเอิญผมหนัก 555

นี่เป็นยูนิตริมน้ำ ตึกเตี้ย 5 ชั้น มี 2 อาคาร รวม 12 ยูนิต ได้อยู่ใกล้แม่น้ำอย่างสุดๆ ยูนิตจอดรถแยกกับเพื่อนบ้าน ไม่ต้องไปรวมกับความแออัดของตึกใหญ่ แต่จากที่ขึ้นไปดูมาผมว่าวิวอะไรแบบนี้สู้ตึกสูงไม่ได้

หน้าตาของตึกเตี้ย vs ตึกสูง ตึกเตี้ยออกแบบดีกว่านะครับ มีความโปร่งเยอะกว่า

วิวที่มองออกไปฝั่งราษฎร์บูรณะ สวยงามเลย ต่อไปคงจะเห็น Chapter One ของพฤกษาด้วย

หน้าตาของตึกสูง จริงๆแล้วคิดเป็น 1 ตึกเท่านั้นนะครับ แต่มี 4 Tower

เนื่องด้วยส่วนกลางที่ใหญ่มาก เราอาจจะเก็บภาพได้ไม่ครบทุกส่วน

โถงชั้นล่างทั้งกว้างและสูง ลมพัดตลอดเวลา

ห้องนิติ ปัจจุบันเป็นส่วนโอน

ห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือโน่นนี่ แอร์ฝังฝ้าด้วยนะ

ลิฟท์ไปที่จอดรถแยกต่างหาก

แต่ละอาคารมีป้ายแปะไว้ เพราะมันเหมือนๆกันหมด เดี๋ยวจะหลงทิศ

A,D เข้าทางเดียวกัน และ B,C เข้าทางเดียวกัน

เข้าไปก็จะเจอ Counter และ Mail Box

Lobby กว้าง แต่ยังไม่ค่อยมีเฟอร์นิเจอร์อะไร

แยกเป็นสัดส่วน มี Key Card เรียบร้อย

ลิฟท์ทั้งหมดมี 3 ตัวโดยสารต่อ 1 Tower, 1 ตัวบริการต่อ 1 Tower และ 1 ตัว Parking ต่อ 2 Towers รวมเป็น 9 ตัวต่อ 2 Towers เดินเข้าไปรอบแรกจะค่อนข้างงงๆหน่อย แต่พอใช้ไปเรื่อยๆก็จะชินเอง

เรามาดูที่ชั้น 9 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลางกันก่อนเลย

วิวและลม แรงได้ใจมากๆ สวยครับยืนจากจุดนี้เห็นเป็น Step ลงไปเรื่อยๆ มีมิติดี แต่สองฟากจะมองได้ไม่กว้างเพราะมีตัวตึกบังมิด ถ้าอยากจะเห็นมุมกว้างต้องไป Riverfront Unit ที่อยู่หน้าสุดของแม่น้ำ

นี่คือทางเดินและสวนข้างบน

นี่เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำล้น โปรดสังเกตต้นไม้โดนลมพัดเอียงแทบจะหัก ช่วงนี้ฝนแรงๆอยู่ด้วย

นี่คือ 1 Tower เท่านั้นนะครับ มีแบบนี้ 4 อัน

รอบสระตกแต่งได้สวยผิดหูผิดตา LPN มีการใช้เตียงวางบนน้ำและ Deck ไม้เป็นจุดๆด้วย

ยูนิตที่อยู่บนชั้น 9 ก็สามารถเดินออกมาที่สวนส่วนกลางได้เลย สบายดีครับยูนิตนี้

เวลานั่งบนระแนงริมสระ มองออกไปจะเห็นวิวเจ้าพระยาเต็มๆครับ

อันนี้เป็น Sculpture รูปนกบิน นานๆจะเห็น LPN ทำอะไรแบบนี้สักที

ระหว่างทางเชื่อมตึก ก็จะมี Lobby ให้

Lobby ที่เชื่อมแต่ละตึกมาที่ชั้น 9

นั่งแบบนี้ก็สบายดี นี่ยังแต่งไม่ครบเลยโล่งๆ

โถงกว้าง 1.5 เมตร มีห้องทั้งสองด้าน เราจะเดินเข้าไปในห้องกันละ

• สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
• Deck ไม้พักผ่อนริมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
• ห้องออกกำลังกาย
• สวนรอบโครงการ
• สวนและทางเดินริมน้ำ
• ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อหนึ่ง Tower ลิฟท์บริการ 1 ตัวต่อหนึ่ง Tower ลิฟท์จอดรถ 1 ตัว ต่อ 2 Tower อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A/B 150:1 ตึก C 205:1 ตึก D 215:1
• ห้องพักผ่อนชั้นล่าง
• Lobby เปิดโล่งใต้ตึก
• Lobby รับรองสองที่ สำหรับตึก A/D และ B/C
• ระบบ CCTV / Access Card

ประตูห้องเป็นบาน HDF มี Dead Lock แต่เป็นลูกบิดธรรมดา ถ้าอยากจะรักษาความปลอดภัยให้เข้มกว่านี้ก็ต้องเอาอะไรมาครอบซ้ำอีกชั้น

เรามาดูห้องตัวอย่างขนาด 28 ตารางเมตร ตำแหน่งจริงคือชั้น 12 ห้อง 16 ของตึก B ครับ

LPN มาเที่ยวนี้แต่งได้ดูดี ออกคลาสสิก สวย

แดดจ้าไปนิดห้องเลยไม่สว่างเท่าไร ให้ดูวัดระยะระหว่างทีวีกับโซฟา ว่าพอไหมที่ 2.25 เมตร

มีส่วนของครัวเป็นครัวเปิดอยู่หน้าห้อง ทำกับข้าวอะไรคงจะไม่ได้นะครับ ไม่มีที่ดูดควัน ไม่มีเตา มีแต่ซิงก์กับที่วางไมโครเวฟ

ครัวอีกฝั่งเอาไว้วางตู้เย็น

Dead Bolt ด้านบน มีลูกบิดธรรมดาอยู่ด้านล่าง คงจะต้องเปลี่ยนหรือครอบเพื่อความปลอดภัย

เจาะโซฟาให้ดูว่าได้ขนาดประมาณนี้

เนื่องจากตึกหันเข้าหากันหมด เจอห้องฝั่งตรงข้ามก็อย่าลืมโบกมือบ๊ายบายด้วย

คอมแอร์สองตัวแขวนด้านข้าง วางเครื่องซักผ้าด้านล่างระเบียงได้

นอกระเบียงมีจุดให้แขวนผ้า

ถ้า “ชะโงก” หน้าออกไปก็จะได้วิวนี้ มองไปทางสาธุประดิษฐ์

ฝั่งนี้เป็นแม่น้ำ แต่จะติดมุม Bay Window จากห้องนอนหน่อย

กระจกในห้องนอน มองเห็นเพื่อนบ้านตลอด

แต่ถ้าตั้งใจนิดนึง มองเฉียงๆก็จะเห็นแม่น้ำ

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนมีให้เท่านี้ คงจะต้อง ทำราวเพิ่มออกมาเป็นตัว L เพราะพอจะมีพื้นที่ทำได้ ฝั่งที่ติดผนังห้องครัว/ห้องน้ำ

ในห้องน้ำใช้อ่างแบบ Counter Plastic ยาวๆแบบนี้ ไม่หรูแต่วางของได้สบาย

กรอบกระจกไม่ได้ใช้แบบนิรภัย

กระเบื้องด้านในห้องอาบน้ำจะดูดีกว่าข้างนอกหน่อย

ผนังส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องขาว คาดลายโมเสกให้ดูมีอะไรบ้างเล็กๆน้อยๆ

หัวฝักบัว ไม่มี Rain Shower

พื้นกระเบื้อง 12″ x 12″ และ ลามิเนต 8 มม.

ใต้เตียงออกแบบให้มีช่องเก็บของได้ด้วย สวยดี

พื้นที่ปลายเตียงเหลือเท่านี้ กับชั้นวางทีวี

มาดูห้องแบบ 2 Bedrooms กันบ้าง ขนาด 63.5 ตารางเมตร ห้อง 1205 ที่อยู่รอบนอก

ห้องเป็นแบบหน้ากว้าง ประมาณ 10 เมตรเศษๆ

สังเกตว่าวิวคนละเรื่อง มองเห็นพื้นที่ด้านนอกแล้วสบายกว่ากัน “เยอะมาก!”

พื้นที่ห้องนั่งเล่นก็ยิ่งสบายกว้าง 3.35 เมตร วางทีวี 50 นิ้วได้ มมปห.

ที่นั่งทานข้าวจัดเป็นสัดส่วน

ครัวเป็นครัวปิด มีบ้านเลื่อนเรียบร้อยกั้นเป็นสัดส่วน แต่ทำไมเอาแอร์มาไว้ตรงนี้ค้าบ!?

ห้องน้ำระบายอากาศออกมาทางห้องครัวได้

ครัวเป็นรูปตัว L มีซิงก์ให้แต่ไม่มีเตา

ระเบียงยังได้วิวดีเลยนะ สะพานแขวน

โซฟาที่วางได้ ตัวนี้น่าจะ 3 เมตร

ทำเตียงติดกระจกเลย นั่งๆนอนๆได้สบาย

ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

มีอ่างด้วย แต่อ่างพลาสติกทั้งดุ้นอาจจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไร และไม่มีพื้นที่ให้ยืนอาบน้ำ ต้องลงไปยืนในอ่าง

ซิงก์เล็ก วางของได้ยาก หากเทียบกับห้องแบบ 1 ห้องนอน

อ่างออกจะแคบๆหน่อย เพราะเล่นติดฉากกั้นอาบน้ำไปบนขอบอ่าง

เตียงในห้องนอนเล็กก็ออกแบบให้มีลิ้นชักใต้เตียง

พอละๆ มาดูยูนิตสุดยอดของโครงการนี้กันดีกว่า 1208 ห้องแบบ “ติดริมน้ำ” Riverfront 3 Bedrooms ขนาด 103.5 ตารางเมตร ราคาวิ่งไป 8-9 ล้านได้

ห้องแบบนี้เป็นยูนิตมุมตึกเท่านั้น มี 2 ระเบียง เห็นวิว 180 องศาของเจ้าพระยา แบ่งเป็นสองฝั่งก็คือฝั่งสะพานแขวนหรือฝั่งสะพานภูมิพล

เดินเข้าไปก็เห็นแม่น้ำเบ้อเร่ออยู่ด้านหน้า

มุมห้องนั่งเล่นได้วิวแม่น้ำเต็มๆ

ห้องเล็กห้องใหญ่ได้วิวแม่น้ำหมด ทางขวาคือห้องนอน 3 หรือจะดัดแปลงเป็นห้องทำงานอะไรก็ได้

วิวเจ้าพระยาที่ห้องนั่งเล่น

เดินออกไปที่ครัว มีกระจกใสกั้น เป็นระเบียงหลังบ้าน

ระเบียงกว้างมาก จะวางอะไรก็วางได้ตามใจชอบ

จุดวางเครื่องซักผ้าและก๊อกน้ำ

ครัวเข้ามุมให้ ไม่มีอะไรมากกว่านี้

ทางออกระเบียงยังมีธรณีสูงๆ เหมือนยูนิต LPN ทั่วไป

มีแยกพื้นที่ Shower Box ไว้ให้เรียบร้อยเลย

สุขา ซิงก์ อ่างและตู้อาบน้ำ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30/10/2012

• ห้อง 1 ห้องนอน ราคา 2.15 – 2.98 ล้านบาท
• ห้อง 2 ห้องนอน ราคา 5.03 – 5.52 ล้านบาท
• ห้อง 3 ห้องนอน ราคา 9.76 – 10.19 ล้านบาท
• เป็นราคาของโครงการนะครับ ถ้าหาจาก Resale อาจจะได้ถูกกว่านี้เล็กน้อย
• ห้องชุดพร้อมอยู่

ทำเลพระราม 3 เป็นทำเลที่เชื่อมจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองอย่างสีลม-สาทร กับแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรีด้วยสะพานหลักๆ 3 สะพานก็คือสะพานภูมิพล 1, สะพานภูมิพล 2 และสะพานพระราม 9 ซึ่งโครงการ LPN Park Riverside พระราม 3 นี้ตั้งอยู่ระหว่างสะพานทั้งสามพอดิบพอดี ดังนั้นวิวทั้งสองฝั่งก็สามารถมองเห็นสะพานแขวนและสะพานภูมิพลได้

นอกจากเรื่องการอยู่อาศัยในเมืองแล้ว บรรยากาศของโครงการที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและสาธารณูปโภคส่วนกลางที่ใหญ่มากของ LPN พระราม 3 ทำให้โครงการนี้มีความรู้สึกเล็กๆว่าเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับพักผ่อนได้ด้วย กับการที่ได้เป็นเจ้าของห้องชุดวิวแม่น้ำริมเจ้าพระยา ปัจจัยเรื่องการพักผ่อนจึงเป็นปัจจัยพิเศษสำหรับคนที่ชอบพักผ่อนริมแม่น้ำในการที่จะเลือกพิจารณาคอนโดมิเนียมโครงการนี้

การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเส้นทางหลักของทำเลพระราม 3 เพราะเป็นทำเลที่ไม่มีรถไฟฟ้า เว้นเสียแต่รถเมล์ด่วนพิเศษ BRT ที่สถานีใกล้ที่สุดวัดดอกไม้อยู่ห่างไปจากหน้าโครงการประมาณ 400 เมตร ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของโครงการนี้

การออกแบบและวัสดุที่ใช้ของห้องในโครงการ LPN Park Riverside พระราม 3 ทำได้ค่อนข้างโอเคสำหรับห้องที่ราคาไม่แพงเท่าไร ตั้งแต่ 1 ล้านกว่าจนถึงแถวๆ 5 ล้านบาทจัดว่ายอมรับได้ในมาตรฐานระดับหนึ่ง แต่สำหรับห้องที่ราคา 9 – 10 ล้านบาท ยูนิต 3 ห้องนอนที่ติดแม่น้ำ ทางเรายังคิดว่าเกรดของวัสดุและสเปคของห้องน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ควรจะใช้ของพรีเมี่ยมมากกว่านี้ เพื่อให้สะท้อนราคาขายของห้อง 9 – 10 ล้านบาทที่เป็นยูนิตราคาสูงริมแม่น้ำ

หากดูแค่ตัวเลขจำนวนยูนิตแล้ว จะพบว่าโครงการ LPN พระราม 3 นี้ค่อนข้างอึดอัดที่มียูนิตพักอาศัยอยู่ราวๆ 2 พันกว่ายูนิต แต่ความกว้างใหญ่และหลากหลายของสาธารณูปโภคส่วนกลางที่มีเยอะมีมาก ก็ทำให้ความรู้สึกของความอึดอัดลดลงไปได้ระดับหนึ่ง อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 1:150 สำหรับตึก A/B ที่ติดแม่น้ำ และอยู่ที่ 1:200 กว่าๆ สำหรับตึก C/D ที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งก็สอดคล้องกับห้องใหญ่ประเภท 2-3 ห้องนอน 5-10 ล้านบาทที่จะมีเฉพาะตึก A/B ที่ติดกับแม่น้ำเท่านั้น

สาธารณูปโภคของโครงการนี้ได้อานิสงส์รับความร่มรื่นของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าไปมาก พอสร้างให้กว้างๆ ใหญ่ๆ ลมพัดแรงๆ จะทำให้รู้สึกดีมากเวลาได้เดินอยู่บริเวณส่วนกลางไม่ว่าจะเป็นชั้น G หรือชั้น 9 แต่โดยรวมก็ยังรู้สึกว่าตัวตึกที่ออกแบบเหมือนม่านบังตาทั้งสองฝั่ง บังคับสายตาให้มองแต่แนวตรงเท่านั้น ในจุดนี้ค่อนข้างบดบังทัศนียภาพสวยๆ เช่นโค้งน้ำและสะพานแขวนในจุดที่ควรจะมองเห็น ทำให้ลดความสวยงามที่น่าจะได้มากกว่านี้ไปพอสมควร

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 75,000 – 85,000 บาทต่อตารางเมตร, 06/07/2012

• ทำเล 8/10 – พระราม 3 ย่านใกล้สาทร สีลม
• เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก
• ไม่ใช้รถ 7/10 – แถวนี้ไม่มีรถไฟฟ้า มีแต่ BRT ในระยะ 400 เมตร
• วัสดุ 7/10 – โอเคสำหรับแบบที่ราคาต่ำกว่า 5 ล้าน แต่สำหรับ 9-10 ล้านน่าจะได้ดีกว่านี้
• แบบ 7/10 – ความหนาแน่นสูงมากสำหรับตึก C/D สูงปานกลางสำหรับตึก A/B
• สาธารณูปโภค 9/10 – ใหญ่ สวยงาม แต่ยูนิตเยอะ แบ่งๆกันใช้นะครับ
• MAIN – UPPER CLASS
• 7.74 / 10.00

ถ้าชอบคอนโดมิเนียมริมน้ำเจ้าพระยา ส่วนกลางขนาดใหญ่ยักษ์ และไม่กังวลกับโครงการที่มียูนิตมากๆ ก็น่าจะพิจารณา Lumpini Park Riverside พระราม 3 ของ LPN เป็นตัวเลือกครับ