กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ กับสาระน่ารู้เกี่ยวกับการทำประกันภัยประเภทต่าง ๆ คราวก่อนผมเขียนอธิบายเรื่องประกันรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ให้ได้ทราบไปแล้ว ลองย้อนกลับไปอ่านกันดูได้นะครับว่า [ประกันรถยนต์ประเภทไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด คลิกอ่าน]
จากเรื่องคราวที่แล้ว มีท่านผู้อ่านหลายท่านฝากคำถามเข้ามาว่า แล้วถ้า “เกิดเหตุแบบนั้น เกิดเหตุแบบนี้ ประกันรถยนต์ที่ทำไปจ่ายให้หรือไม่ ?” ผมก็เลยรวบรวม 3 คำถามที่มีคนถามเข้ามาเยอะที่สุด มาไขข้อข้องใจกันให้นะครับ
คำถามแรกเลย คือ “เมาแล้วขับไปชนรถคันอื่น ประกันจ่ายหรือไม่ ?” ตอบง่าย ๆ เลยว่า ประกันต้อง “จ่าย” ครับ แต่จ่ายให้รถคันที่ถูกชนนะครับ ส่วนคนขับที่เมาแล้วชนนั้น บริษัทประกันอาจจะเรียกเงินที่จ่ายไปนั้นคืนกลับมาได้ครับ ซึ่งหลักเกณฑ์ว่าบริษัทประกันจะเรียกคืนจากคนเมาที่ขับชนหรือไม่นั้น ต้องดูว่าคนเมานั้น มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ถ้าเกินก็บริษัทก็จะเรียกคืนจากคนขับครับ แต่เกณฑ์นี้จะแตกต่างจาก กฎหมายเมาแล้วขับนะครับ เพราะกฎหมายจราจรบอกว่ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าผิดแล้วครับ แต่ทางที่ดีผมแนะนำว่า “ดื่มไม่ขับ” ดีที่สุดครับ เพราะไม่ผิดกฎหมายและปลอดภัยต่อตัวเราและคนอื่นด้วย
คำถามที่สอง คือ “ขับรถลุยน้ำท่วม ประกันจ่ายหรือไม่ ?” ถ้ารถของเรามีการคุ้มครองภัยน้ำท่วมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 หรือชั้น 2+, 3+ ผมตอบเลยว่าบริษัทประกันต้อง “จ่าย” ครับ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีนะครับที่จะจ่าย เพราะหลักของการประกันคือการคุ้มครองในสิ่งที่ไม่คาดฝัน เช่นเราขับไปเจอน้ำท่วมแต่เราไม่รู้ว่าน้ำลึกขนาดไหน ขับรถลุยไปแล้วเครื่องดับ แบบนี้ประกันจ่ายให้แน่นอนครับ แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีป้ายเขียนเตือนแล้วว่า น้ำท่วมสูง 2 เมตร !! เห็นแบบนี้แต่เรายังขับลุยเข้าไปอีก แบบนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องคาดฝันแล้วครับ แต่เป็นความตั้งใจของเราที่จะทำให้รถเสียหายเอง แบบนี้ประกันก็จะไม่จ่ายค่าซ่อมให้นะครับ
และคำถามสุดท้าย คือ “ขับรถชนมอเตอร์ไซต์ที่ขับสวนเลนมา ประกันจ่ายหรือไม่ ?” หลายท่านมักได้ยินมาว่า รถใหญ่ชนรถเล็กยังไงรถใหญ่ก็ผิด แต่อันนี้ไม่จริงเสมอไปครับ เพราะประกันจ่ายหรือไม่จ่าย อันนี้ต้องดูที่ความประมาทครับ ฝ่ายใดประมาทมากกว่า ฝ่ายนั้นก็ผิดครับ ดังนั้น การที่มอเตอร์ไซต์ขับสวนเลนมาแล้วเราซึ่งขับตามเลนปกติแล้วไปชนเข้า อันนี้ต้องถือว่า มอเตอร์ไซต์ที่ขับสวนมา ทั้งประมาทและผิดกฎจราจร หากเกิดเหตุแบบนี้ประกันก็จะไม่จ่ายเงินให้กับมอเตอร์ไซต์ที่ถูกชนนะครับ
อย่างไรก็ตาม ผมทราบมาว่าในทางปฏิบัติ หากมีกรณีที่มอเตอร์ไซต์ที่ขับสวนเลนมาถูกชน แล้วคนขับมอมเตอร์ไซด์เสียชีวิต บริษัทประกันส่วนใหญ่ก็มักจะมีการมอบเงินช่วยเหลือมนุษยธรรมให้กับญาติของผู้ตายครับ แม้ว่าตามกฎหมายบริษัทประกันไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินส่วนนี้ให้แต่อย่างใด
และหากสนใจเพิ่มความปลอดภัยให้รถที่คุณรัก ประกันภัยรถยนต์จาก AXA คุ้มครองทั้งรถชน น้ำท่วม หรือแม้แต่ในกรณีรถเสียกลางทางไม่ว่าจะอยู่กรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด แอกซ่า โรดไซด์ เซอร์วิส บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรีทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชม.
เรามีประกันภัยรถยนต์ทั้งชั้น 1 , 2+ และ 3+ สามารถเช็คเบี้ย หรือซื้อผ่านออนไลน์ได้ทันที
______________________________________________________________________________________________
คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
______________________________________________________________________________________________
หรือทางลัดเช็คเบี้ย หรือซื้อผ่านออนไลน์
______________________________________________________________________________________________
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
คุณสามารถนำรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุเข้าซ่อมที่อู่ตามรายชื่ออู่ซ่อมรถยนต์แนะนำของรู้ใจ สามารถตรวจสอบรายชื่ออู่ซ่อมรถยนต์ได้จากเว็บไซต์ของเรา ที่นี่
เคลมประกันรถยนต์
ขั้นตอนเบื้องต้นในการเคลมประกันรถยนต์
- หลังจากเกิดอุบัติเหตุโดยรถยนต์คันเอาประกันได้รับความเสียหาย ให้ติดต่อสายด่วนแจ้งเคลมประกันที่รู้ใจทันที โทร 02 582 8844 หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้โทรเรียกรถพยาบาลก่อนโทรหารู้ใจ
- ถ้าเป็นไปได้ ให้เตรียมเอกสารส่วนตัวและเอกสารรถยนต์ของคุณ กรณีเจ้าหน้าที่สำรวจภัยหรือตำรวจต้องการใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี
- หากคุณมี Roojai Mobile App คุณสามารถแจ้งเคลมประกันออนไลน์ผ่านวิดีโอคอลได้ทันที หากแจ้งเคลมประกันผ่านโทรศัพท์ คุณต้องรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ (อย่าเพิ่งตกลง รับผิดชอบ แลกเปลี่ยนเอกสาร ชดใช้ความเสียหาย หรือเคลื่อนย้ายรถของคุณโดยไม่มีตำรวจอยู่ด้วย)
- เตรียมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่จำเป็น ตามรายการของความคุ้มครองแต่ละประเภท
- ส่งเอกสารและหลักฐานมาที่รู้ใจ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เราจะตรวจสอบและพิจารณาการเคลมประกัน โดยอาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมตามความจำเป็น
ระยะเวลาพิจารณาเคลมประกัน
บริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน
- ภายใน 15 วัน หลังจากวันที่มีการตกลงเรื่องค่าสินไหมทดแทน สำหรับประกันภัยภาคสมัครใจ และ
- ภายใน 7 วัน หลังจากวันที่มีการตกลงเรื่องค่าสินไหมทดแทน สำหรับประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
(ให้วันที่มีการตกลงเรื่องค่าสินไหมทดแทน เป็นวันที่มี การยื่นเอกสารครบถ้วน เคลมได้รับการอนุมัติ และการตกลงค่าเสียหายเป็นที่ยุติแล้ว)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ที่ เอกสารกรมธรรม์ประกันรถยนต์และมอเตอร์ไซค์
เอกสารที่ใช้ในการเคลมประกัน
เอกสารที่จำเป็นต้องใช้เบื้องต้น เพื่อทำให้ขั้นตอนการเคลมรวดเร็วขึ้น ในบางสถานการณ์อาจจำเป็นต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเคลม กรุณาเตรียมเอกสารตามตารางด้านล่างนี้ให้ครบถ้วน
ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ผู้เอาประกัน- รายงานการเกิดอุบัติเหตุ
- สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- หลักฐานความเสียหายที่เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้
- สำเนาตารางกรมธรรม์
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ
- รายงานการเกิดอุบัติเหตุ
- สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- หลักฐานความเสียหายที่เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้
- สำเนาตารางกรมธรรม์
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ
- รายงานการเกิดอุบัติเหตุ
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของเจ้าของรถ
- สำเนาใบแจ้งความและผลการดำเนินคดีของตำรวจ
- เอกสารมอบอำนาจจากธนาคาร กรณีติดไฟแนนซ์
- กุญแจทุกดอก
- กรมธรรม์/ตารางกรมธรรม์ต้นฉบับ
- แบบฟอร์มการขอโอนของกรมการขนส่งทางบก
- ต้นฉบับใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
กรณีรถยนต์คู่กรณีเสียหาย
- หลักฐานความเสียหายที่เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัย คู่กรณี(ถ้ามี)
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ (คู่กรณี)
- ใบเสนอราคาค่าซ่อมรถยนต์หรือใบเสร็จค่าซ่อม(กรณีรถยนต์คู่กรณีเสียหาย)
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของเจ้าของรถ (คู่กรณี)
กรณีทรัพย์สินของคู่กรณีเสียหาย
- ใบเสนอราคาการจัดซ่อมทรัพย์สิน หรือใบเสร็จค่าซ่อม (กรณีเบิกคืน)
- สำเนาบัตรประชาชนหรือเอกสารของเจ้าของทรัพย์สิน
กรณีคู่กรณีบาดเจ็บ
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัย รถคู่กรณี(ถ้ามี)
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ รถคู่กรณี(ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของผู้บาดเจ็บ
- สำเนาใบแจ้งความและผลการดำเนินคดีของตำรวจ (ถ้ามี)
- ต้นฉบับใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
- ใบรับรองแพทย์
กรณีคู่กรณีเสียชีวิต
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของผู้เสียชีวิต
- สำเนาใบมรณะบัตร
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาท
- สำเนาสมุดบัญชีของผู้เคลมหรือทายาทโดยชอบธรรม
กรณีบาดเจ็บ
- สำเนาใบแจ้งความและผลการดำเนินคดีของตำรวจ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ได้รับบาดเจ็บ
- ต้นฉบับใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
- ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
กรณีเสียชีวิต
- สำเนาใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตาย
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาทโดยธรรม
กรณีทุพพลภาพถาวร
- บัตรประจำตัวผู้พิการ
เคลมประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ขั้นตอนเบื้องต้นในการเคลมประกัน
- หลังจากเกิดอุบัติเหตุหรือรู้ผลวินิจฉัยจากแพทย์ ให้ติดต่อฝ่ายเคลมประกันที่รู้ใจทันที โทร 02 582 8855 กด 2 หากต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ ให้โทรเรียกรถพยาบาลก่อนโทรหารู้ใจ
- แจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าต้องการใช้เอกสารในเคลมประกันทั้งหมด
- เตรียมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่จำเป็น ตามรายการของความคุ้มครองแต่ละประเภท
- ส่งเอกสารและหลักฐานมาที่รู้ใจ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เราจะตรวจสอบและพิจารณาการเคลมประกัน โดยอาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมตามความจำเป็น
ระยะเวลาพิจารณาเคลมประกัน
บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน หลังจากตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดแล้ว หากมีเหตุให้สงสัยว่าการเคลมประกันไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ระยะเวลาดังกล่าวอาจขยายออกไปได้ตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ที่ เอกสารกรมธรรม์
การเรียกร้องและเอกสารที่ใช้ในการเคลมประกัน
ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุผู้เอาประกันภัยจะต้องส่งหลักฐานมาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ออกจากโรงพยาบาล สถานพยาบาลเวชกรรม หรือวันที่รับการรักษาจากคลินิก ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ที่กำหนดโดยบริษัท หรือ แบบฟอร์มกลางจากโรงพยาบาล
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับที่แสดงรายการแสดงค่าใช้จ่าย หรือใบสรุปปิดหน้างบกับใบเสร็จรับเงิน
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
กรณีที่คุณได้ชำระค่ารักษาพยาบาลตามมาตรฐานทางการแพทย์ บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนที่จ่ายไปจริงตามความจำเป็นทางการแพทย์ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ
ใบเสร็จรับเงินที่แสดงรายการค่าใช้จ่ายต้องเป็นใบเสร็จต้นฉบับที่ได้มีการชำระค่าใช้จ่ายไปจริง กรณีที่คุณมีความจำเป็นต้องใช้ใบเสร็จต้นฉบับสำหรับการเรียกร้องอื่นๆ บริษัทฯ จะคืนใบเสร็จต้นฉบับที่รับรองยอดเงินที่จ่ายไปแล้วให้คุณ เพื่อใช้เรียกร้องส่วนที่ขาดจากผู้รับประกันภัยรายอื่น
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการของรัฐ สวัสดิการอื่น ๆ หรือจากการประกันภัยที่อื่นมาแล้ว บริษัทจะชดเชยให้เพียงจำนวนเงินในส่วนที่ขาดเท่านั้น และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ
ใช้สิทธิค่ารักษาพยาบาลผ่าน รู้ใจ แคร์การ์ดรู้ใจ แคร์การ์ด ใน MyAccount คือสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่รู้ใจ ลูกค้าสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุได้ตามจำนวนทุนประกันต่ออุบัติเหตุต่อครั้ง มีขั้นตอน ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลในเครือกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ
- แสดง รู้ใจ แคร์การ์ด พร้อมบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลตรวจสอบสถานะกรมธรรม์และความคุ้มครองในระบบ
- โรงพยาบาลส่งรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายมาให้บริษัทฯ ตรวจสอบ
- บริษัทฯ พิจารณาเคลมประกันตามข้อมูลที่ได้รับจากโรงพยาบาลและจะแจ้งผลกลับไปที่โรงพยาบาล
- ลงนามในเอกสารที่จำเป็นจากโรงพยาบาลและชำระยอดที่เกินจากทุนประกันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ (ถ้ามี)
หมายเหตุ
- กรณีมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกินจากสิทธิที่ผู้เอาประกันภัยจะสามารถเรียกร้องได้ ผู้เอาประกันภัยต้องชำระค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกินนั้นเอง
- กรณีผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองการชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ทีมสินไหมจะติดต่อเพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยตรง
- กรณีบริษัทฯ ไม่สามารถอนุมัติให้ใช้สิทธิเคลมประกันผ่านโรงพยาบาลได้ ผู้เอาประกันภัยสามารถสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลและส่งเอกสารทั้งหมดตามที่ระบุ มาทางไปรษณีย์ที่รู้ใจได้โดยตรง
กรณีผู้เอาประกันภัยต้องการเคลมประกันกรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือผลประโยชน์กรณีสูญเสียอวัยวะ ผู้เอาประกันภัยสามารถส่งเอกสารทั้งหมดตามที่ระบุ มาทางไปรษณีย์ที่รู้ใจได้โดยตรง
กรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก- สิทธิ์ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ปวยนอก เฉพาะโรงพยาบาลในเครือข่ายของรู้ใจลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ได้หลังจาก 60 วันนับจากวันเริ่มความคุ้มครอง โดยผู้เอาประกันไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล
- กรณีอุบัติเหตุเกิดขึ้นภายใน 60 วันแรกนับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มความคุ้มครอง ให้สำรองจ่ายเคลมตรง
- ลูกค้าสามารถแสดง ดิจิทัล รู้ใจ แคร์การ์ด ร่วมกับบัตรประชาชน ที่โรงพยาบาลก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การรักษาพยาบาลและวงเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์ สิทธิพิเศษนี้จะใช้ได้เมื่อท่านได้ชำระเบี้ยประกันภัยงวดล่าสุดของท่านให้แก่บริษัทแล้ว
- กรณีเข้ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาลนอกเครือข่ายของรู้ใจ ให้สำรองจ่ายเคลมตรง โดยให้นำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลต้นฉบับพร้อมเอกสารจำเป็นอื่นๆ ที่บริษัทร้องขอ ส่งมาที่บริษัท เพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคืน ภายใต้เงื่อนไขและวงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์
ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งหลักฐานดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ออกจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเวชกรรม โดยค่าใช้จ่ายของตัวเอง ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการวินิจฉัย และการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งหลักฐานดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่แพทย์ ลงความเห็นว่าทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะ ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ยืนยันการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
ผู้รับประโยชน์ หรือทายาทตามกฎหมาย กรณีไม่ได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ ต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้ มาที่รู้ใจ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- สำเนาใบมรณบัตร ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ หรือรายงานผ่าพิสูจน์ศพ พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ รับรองโดยร้อยเวรเจ้าของคดี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย และสำเนาทะเบียนบ้านประทับ “ตาย” พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
การประกันภัยนี้คุ้มครองความสูญเสีย หรือความเสียหายอันเกิดจากการบาดเจ็บทางร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุและทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพ ถาวรสิ้นเชิงภายใน 180 วัน
บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามตารางความคุ้มครองเพียงรายการที่สูงสุดรายการเดียวเท่านั้น ตลอดระยะเวลาประกันภัย บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับผลที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงคุ้มครองนี้รวมกันไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากบริษัทฯ ยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนไม่เต็มจำนวนเงินเอาประกันภัย บริษัทฯ จะยังคงให้ความคุ้มครองจนสิ้นสุดระยะเวลาเอาประกันภัยเท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เหลืออยู่
การเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งหากผู้เอาประกันภัยถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง และต้องการเคลมประกันมะเร็ง บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินก้อนตามจำนวนทุนประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ทราบผลการวินิจฉัยนั้น ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- ผลตรวจเนื้อเยื่อห้องปฏิบัติการ
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และยังไม่มีการเคลมเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งมาก่อน บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์เงินชดเชยกรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นเงินก้อนตามจำนวนทุนประกันภัย ให้แก่ผู้รับประโยชน์ที่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ และ/หรือใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ โดยผู้รับประโยชน์หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- สำเนาใบมรณบัตร ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาหนังสือรับรองการตายของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ หรือรายงานผ่าพิสูจน์ศพ พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ รับรองโดยร้อยเวรเจ้าของคดี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย และสำเนาทะเบียนบ้านประทับ “ตาย” พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนารายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรค และประวัติการรักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
โรคมะเร็งผิวหนัง หมายถึง มะเร็งผิวหนังทุกชนิด (Any Skin Cancers) ยกเว้นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาชนิดร้ายแรง (Malignant Melanoma) ที่จัดอยู่ในระยะที่ 2 (Stage II) ขึ้นไป โดยอ้างอิงตามระบบการแบ่งระยะความรุนแรงของโรคมะเร็งเมลาโนมาของ American Joint Committee on Cancer
หากผู้เอาประกันภัยถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง และต้องการเคลมประกันมะเร็ง บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินก้อนตามจำนวนทุนประกันภัยเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง โดยผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ทราบผลการวินิจฉัยนั้น ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- ผลตรวจเนื้อเยื่อห้องปฏิบัติการ
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเจ็บป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นครั้งแรก และเป็นเหตุให้เกิดภาวะโคม่า (Coma) บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์เงินชดเชยตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ได้ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์
การเจ็บป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (Terminal Illness) หมายถึง ภาวะการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นการเจ็บป่วยรุนแรงที่ไม่มีวิธีการรักษาให้หายได้ และได้รับการลงความเห็นจากแพทย์ ผู้ให้การรักษาว่าภาวะการเจ็บป่วยดังกล่าว จะเป็นเหตุให้เกิดภาวะโคม่า (Coma) หรือโรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง หรือโรคปอดระยะสุดท้าย (Severe Chronic Obstructive Pulmonary Disease or End-stage Lung disease)
ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ทราบผลการวินิจฉัยนั้น ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และยังไม่มีการเคลมเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาก่อน บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์เงินชดเชยตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ได้ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ให้แก่ผู้รับประโยชน์ที่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ ผู้รับประโยชน์หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งและส่งหลักฐานดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับจากวันที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่กำหนดโดยบริษัท
- สำเนาใบมรณบัตร ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาหนังสือรับรองการตายของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ หรือรายงานผ่าพิสูจน์ศพ พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ รับรองโดยร้อยเวรเจ้าของคดี
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย และสำเนาทะเบียนบ้านประทับ “ตาย” พร้อมรับรองสำเนา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับประโยชน์ พร้อมรับรองสำเนา
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
การวินิจฉัยโรคดังกล่าวต้องเป็นไปตาม คำจำกัดความเพิ่มเติม เรื่องการวินิจฉัย และวันที่วินิจฉัย และ ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มากกว่า 1 ภาวะ/โรค บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ให้เพียงภาวะใดภาวะหนึ่งเท่านั้น
ค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19หากผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นครั้งแรก และมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรม เพื่อรับการรักษาพยาบาล ตามความจำเป็นทางการแพทย์ และมาตรฐานทางการแพทย์ บริษัทฯ จะจ่ายคืนค่ารักษาพยาบาลสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและสมควร ซึ่งเกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลตามความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ ตามจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปจริง และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ
ผู้เอาประกันภัยหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง หากต้องการเคลมประกัน ต้องแจ้งและส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่รู้ใจภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลเวชกรรม ได้แก่
- แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ที่กำหนดโดยบริษัท
- ใบรายงานแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนา
- ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับที่แสดงรายการแสดงค่าใช้จ่าย หรือใบสรุปปิดหน้างบกับใบเสร็จรับเงิน
- เอกสารหรือหลักฐานตามที่บริษัทต้องการตามความจำเป็น (ถ้ามี)
ใบเสร็จรับเงินที่แสดงรายการค่าใช้จ่ายต้องเป็นใบเสร็จต้นฉบับที่ได้มีการจ่ายไปจริง บริษัทฯ จะคืนใบเสร็จต้นฉบับที่รับรองยอดเงินที่จ่ายไปแล้วให้คุณ เพื่อใช้เรียกร้องส่วนที่ขาดจากผู้รับประกันภัยรายอื่น
แต่หากผู้เอาประกันภัยได้รับการชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการของรัฐ สวัสดิการอื่น ๆ หรือจากการประกันภัยที่อื่นมาแล้ว บริษัทฯ จะรับผิดเพียงจำนวนเงินค่ารักษาพยาบาล และค่าการพยาบาลส่วนที่ขาด ที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปจริงเท่านั้น และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในหรือผู้ป่วยนอกตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ
การสิ้นสุดของสัญญาประกันภัยโดยอัตโนมัติ- เมื่อผู้เอาประกันภัยถูกตรวจพบว่ามีอาการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นครั้งแรก ภายในระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) 14 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับครั้งแรก บริษัทฯ จะคืนเบี้ยประกันภัยที่ได้เรียกเก็บมาแล้วทั้งหมดให้แก่ผู้เอาประกันภัย
- เมื่อบริษัทฯ ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนเงินเอาประกันภัยสูงสุดตามที่ได้ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ และ/หรือ ใบรับรองการประกันภัยกรณีต่ออายุ ของความคุ้มครองนั้น ๆ ครบถ้วนแล้ว โดยบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองต่อไป จนสิ้นสุดระยะเวลาเอาประกันภัย เฉพาะจำนวนเงินเอาประกันภัยของความคุ้มครองที่เหลืออยู่เท่านั้น
เคล็ดลับเคลมประกันที่รู้ใจ
- ดาวน์โหลด Roojai Mobile App เพื่อความรวดเร็วในการเคลมประกัน
- กรณีเคลมประกันรถยนต์
- ให้เก็บไฟล์วิดีโอกล้องรถยนต์ (ถ้ามี) และข้อมูลติดต่อของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- หลังเกิดอุบัติเหตุ อย่าเพิ่งตกลง รับผิดชอบ แลกเปลี่ยนเอกสาร ชดใช้ความเสียหาย หรือเคลื่อนย้ายรถของคุณโดยไม่มีตำรวจอยู่ด้วย
- กรณีเคลมประกันค่ารักษาพยาบาล
- ให้เตรียมใบรับรองแพทย์ บิลค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ และขอสำเนาเอกสารที่จำเป็นจากโรงพยาบาล
- หากคุณคิดว่าแพทย์ที่รักษาอาจผิดพลาดในการตรวจวินิจฉัย ให้คุณขอความคิดเห็นที่สองทางการแพทย์ (Second opinion) ที่โรงพยาบาลอื่นก่อนเคลมประกันของคุณ
- หากฝ่ายใดที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของคุณยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด ให้ตรวจสอบหาไฟล์วิดีโอ ไฟล์เสียง หรือหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อระบุว่าเป็นฝ่ายผิด
- บางครั้งการพิจารณาหลักฐานเคลมประกันอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ หากคุณไม่ได้รับการติดต่อกลับภายใน 3 วันหลังจากครบกำหนด กรุณาติดต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง
คำถามที่พบบ่อย
ตรวจสอบสถานะเคลมประกันอย่างไร?คุณสามารถตรวจสอบสถานะเคลมประกันของคุณผ่านทาง Roojai Mobile App หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลมที่รู้ใจ :
- สายด่วนแจ้งเคลมประกันรถยนต์ 02 582 8844
- อีเมล์แจ้งเคลมประกันรถยนต์ claim@roojai.com
- สายด่วนแจ้งเคลมประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล 02 582 8855 กด 2
- อีเมล์แจ้งเคลมประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล medicalclaim@roojai.com
หลังได้รับการอนุมัติเคลมประกันแล้ว ปกติจะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
อยู่ต่างประเทศ เคลมประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลได้มั้ย?บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามวันที่ที่ระบุไว้ในใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
หากเกิดความล่าช้าในการพิจารณาเคลมประกัน จะทำอย่างไร?โดยปกติ กรณีนี้จะไม่เกิดขึ้น บริษัทฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วัน หลังจากตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดแล้ว หากมีเหตุให้สงสัยว่าการเคลมประกันไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ ระยะเวลาดังกล่าวอาจขยายออกไปได้ตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน
หากไม่ได้รับเงินภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะชำระดอกเบี้ยเพิ่มให้ 15% ต่อปีของเงินค่าสินไหมทดแทนที่ต้องชำระ
สามารถร้องเรียนเกี่ยวกับการเคลมประกันได้อย่างไร?คุณสามารถติดต่อสายด่วนแจ้งเคลมประกันของเรา และขอให้ตรวจสอบการร้องเรียนของคุณ โดยสามารถส่งรายละเอียดคำร้องเรียนเพิ่มเติมผ่านแบบฟอร์มคำติชมออนไลน์ของเรา