ถ.สุขุมวิท 113 สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
ข้อมูลโครงการ
- ผู้พัฒนา : บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- ปีที่สร้างเสร็จ 2563 (3 ปี)
- ราคาเปิดตัว 4.1 ล้านบาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บ./ว²
- พื้นที่โครงการ 15 ไร่
- ยูนิตทั้งหมด 133 ยูนิต
Facility
สถานที่ใกล้เคียง ลุมพินี ทาวน์เพลส สุขุมวิท-ศรีนครินทร์
รร.มหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ (0.5 กม.)
รพ.สำโรงการแพทย์ (2.7 กม.)
ปาล์ม ไอส์แลนด์ (0.6 กม.)
อ่านเพิ่ม
หมายเหตุ : ข้อมูลรายละเอียดโครงการที่อยู่อาศัยนี้เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการเปรียบเทียบ ทั้งนี้มิใช่การโฆษณาขายสินค้าแต่อย่างใด ผู้ซื้อควรสอบถามรายละเอียดเพื่อความถูกต้อง ไปยังบริษัทเจ้าของโครงการก่อนการตัดสินใจ
บ้านแฝด-ทาวน์โฮม สไตล์ Modern Art Deco ที่ได้รับการออกแบบอย่างเข้าใจในความต้องการอันแตกต่างและหลากหลายของผู้อยู่อาศัย ทั้งในเรื่องของรูปแบบ ฟังก์ชัน ทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม บนทำเลศักยภาพย่านสุขุมวิท 113 ใกล้ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า 2 สาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
Company
ลุมพินี ทาวน์เพลส สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ พัฒนาโครงการโดย บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับมหาชนรายใหญ่ของประเทศ มีทุนจดทะเบียน 1,475 ล้านบาท (ชำระเต็ม) บริษัทและบริษัทย่อยดำเนินงานใน 2 กลุ่มธุรกิจ คือกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจให้บริการ ก่อนหน้านี้มุ่งเน้นการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้ระดับกลางถึงกลาง-ล่างเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จนกลายเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่าล้านที่มนุษย์เงินเดือนซื้อเป็นที่อยู่อาศัยหลักแรก ต่อมาได้พัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้นทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์, อาคารพาณิชย์ ฯลฯ พร้อมทั้งงานบริการหลังการขายในรูปแบบการบริหารชุมชนแบบมืออาชีพ ภายใต้กลยุทธ์ “ชุมชนน่าอยู่” และกลายมาเป็น “ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าจะได้รับการดูแลที่ดีและได้มาตรฐานของ LPN
Location
โครงการตั้งอยู่ติดซอยสุขุมวิท 113 (วัดด่านสำโรง) ถนนสุขุมวิท ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ติดกับโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรง จึงสามารถเดินทางเข้าออกได้ทั้งทางถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ พร้อมเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) และซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) ผ่านซอยด่านสำโรง 40 และ 42 ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนสายหลัก ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท, ถนนเทพารักษ์, ถนนศรีนครินทร์, ถนนเทพรัตน (ถนนบางนา-ตราด) ตลอดจนทางด่วนขั้นที่ 1 (บางนา), ทางด่วนบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์ (ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอกด้านใต้)
ที่สำคัญยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม เส้นทางคูคต-หมอชิต-สมุทรปราการ (สถานีใกล้สุดคือสถานีสำโรง) ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการจากสถานีเคหะสมุทรปราการ ผ่านพื้นที่ย่านใจกลางเมือง สุขุมวิท,ทองหล่อ, เพลินจิต, สยาม ต่อเนื่องไปยังพื้นที่เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ตอนบนอย่างบริเวณห้าแยกลาดพร้าว, รัชโยธิน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ส่วนเส้นทางที่เหลือนั้นคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2563 นี้
ขณะเดียวกันรถไฟฟ้าสายดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เส้นทางสนามกีฬาฯ-บางหว้า (สถานีสยาม) MRT สายสีน้ำเงิน (สถานีอโศก, สถานีหมอชิต, สถานีพหลโยธิน), MRT สายสีม่วง (สถานีเตาปูน) รวมทั้งเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต เช่น สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต/บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ที่สถานีบางซื่อ, สายสีชมพู (สถานีวัดพระศรีฯ) และสายสีเหลือง (สถานีสำโรง, สถานีศรีด่าน) ทำให้การเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ มีความสะดวกสบายมากขึ้น
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการซึ่งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชน จึงรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า เช่น อิมพีเรียล สำโรง, บิ๊กซี สำโรง, บิ๊กซี ศรีนครินทร์, ฟู้ดแลนด์ ศรีนครินทร์, แม็คโคร ศรีนครินทร์, แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์, ลาซาล อเวนิว, พลัสมอลล์ ศรีนครินทร์, ปาล์ม ไอส์แลนด์ หรือจะไปช้อปปิ้งย่านบางนาก็มีห้างใหญ่ “เซ็นทรัล บางนา” และห้างเมกาบางนาที่มีทั้งอิเกียและร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มากมายให้เลือกตามใจชอบ
ส่วนสถานศึกษาและสถานพยาบาลชั้นนำก็มี อาทิ โรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง, โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา, โรงเรียนบางกอกพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติไทย-สิงคโปร์, โรงเรียนลาซาล, โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์, โรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรูว์ส, รพ.สำโรงการแพทย์, รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์, รพ.จุฬารัตน์ 2, รพ.บางนา 1, รพ.ศิครินทร์, รพ.ไทยนครินทร์ และ รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างสถานพักตากอากาศบางปู เป็นต้น
ลุมพินี ทาวน์เพลส สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ จึงเป็น “บ้าน” ที่มี Location แบบคอนโดฯ ด้วยการเดินทางที่สะดวกทั้งทางถนน ทางด่วน และรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ท่ามกลางความเจริญของแหล่งชุมชน ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยอย่างครบครัน
Project Concept
บนพื้นที่โครงการกว่า 15 ไร่เศษ พัฒนาเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวน 38 ยูนิต และทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 95 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 133 ยูนิตเท่านั้น ด้วยการออกแบบบ้านที่มีกลิ่นอายของสไตล์ Modern Art Deco ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างเข้าใจในความต้องการอันแตกต่างและหลากหลายของผู้อยู่อาศัย ทั้งในเรื่องของรูปแบบ ฟังก์ชัน ทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความพอดี ที่ดีกว่า”
- ความพอดีในการออกแบบ : บ้านทุกหลังออกแบบได้อย่างลงตัว มีขนาดที่พอเหมาะ ไม่มากและน้อยเกินไปสำหรับการอยู่อาศัย จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสัดส่วนอย่างลงตัว สามารถใช้งานได้จริงอย่างคุ้มค่า ไม่มีพื้นที่สูญเปล่า
- ความพอดีในการบริการ : ดูแลสิ่งแวดล้อมและสภาพโครงการอย่างมีมาตรฐาน ภายใต้แนวคิด “ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย” โดยมืออาชีพ (บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด) ที่มีประสบการณ์มายาวนานร่วม 30 ปี
- ความพอดีในคุณภาพชีวิต : มีเพียง 133 ยูนิต เมื่อเทียบกับพื้นที่ส่วนกลางกว่า 500 ตารางเมตร จึงสามารถใช้งานได้อย่างไม่แออัด พื้นที่สีเขียวภายในบ้านมีขนาดพอเหมาะสำหรับการดูแลรักษา และจัดวางในตำแหน่งที่พอดีกับการใช้ชีวิต
- ความพอดีในสิ่งแวดล้อม : สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีและดูแลงานบริการต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ
บริเวณส่วนกลาง (สระว่ายน้ำ)บริเวณส่วนกลาง (สระว่ายน้ำ)สวนสาธารณะพร้อมสนามเด็กเล่นฟิตเนส
นอกจากนี้ยังสร้างบรรยากาศของโครงการให้มีทั้งความอบอุ่นและสง่างาม เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าโครงการดูทันสมัย การจัดวางผังโครงการที่เป็นสัดส่วน สวยงามและสบายตา ถนนสายหลักกว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสโมสร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะพร้อมสนามเด็กเล่นและเครื่องออกกำลังกาย เพื่อการพักผ่อนและสังสรรค์ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติที่ร่มรื่น
Product Concept
แนวคิดในการออกแบบบ้านแฝดนั้นมุ่งเน้นการให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยมีเส้นสายลายเรขาคณิตสไตล์ Art Deco ให้อารมณ์ที่เชื่อมต่อกัน ขณะที่ทาวน์โฮมจะมีพื้นที่ใช้สอยรองรับการใช้งานได้หลากหลายทั้งพักอาศัยและทำงาน เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้มีที่ทำงานเป็นสัดส่วน ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ซึ่งภายในโครงการมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างบนทำเลเดียวกันดังนี้
- บ้านแฝด 2 ชั้น แบบหน้ากว้าง สไตล์ Modern Art Deco เลือกใช้วัสดุสีทองลายหินอ่อน ผสานวัสดุผิวลายไม้เพิ่มความอบอุ่น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 37.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 183 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ (ชั้นล่าง) และที่จอดรถ 3 คัน
บ้านแฝด 2 ชั้น สไตล์ Modern Classic
- บ้านแฝด 2 ชั้น แบบมาตรฐาน สไตล์ Modern Classic โทนสีขาว-ครีมอบอุ่นสบายตา แทรกโลหะสีทองในบางส่วน ขนาดที่ดินเริ่มต้น 36.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ (ชั้นล่าง) และที่จอดรถ 2 คัน
ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ Modern
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ Modern เลือกใช้โทนสีไม้ตัดกับสีสันที่สดใส ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่นและสนุกสนาน ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 161 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน
สำหรับบ้านตัวอย่างที่จะเยี่ยมชมนี้มี 2 แบบ คือบ้านแฝด 2 ชั้น แบบมาตรฐาน และบ้านแฝด 2 ชั้น แบบหน้ากว้าง เริ่มจากบ้านแฝด 2 ชั้น แบบหน้ากว้าง ให้อารมณ์แบบบ้านเดี่ยวทั้งขนาดพื้นที่ใช้สอย สวนบริเวณด้านข้าง และชานพักบริเวณบันได ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีให้ในบ้านแฝด รวมทั้งชั้นลอยซึ่งจัดเป็นมุมห้องพระได้
บริเวณที่ติดกันของบ้าน 2 หลังจะสูงไปจนถึงชั้น 2 ของบ้าน ด้านขวามือเป็นประตูทางเข้าบ้าน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นโรงจอดรถในร่ม
เมื่อเปิดประตูเข้ามายังภายในจะพบกับโซน Living Room นั่งเล่น-รับแขก โล่งต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหารมีประตูกระจกทรงสูงเปิดออกไปยังสวนข้างบ้านได้ โดยพื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิโต้แผ่นใหญ่
ถัดไปเป็นบันได้สำหรับขึ้นไปยังชั้น 2 มีห้องเก็บของบริเวณใต้บันไดด้วย ต่อเนื่องกันเป็นห้องครัวและห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งแยกส่วนอาบน้ำให้ด้วย
ด้านในสุดเป็นส่วนที่เชื่อมกับบ้านอีกหลัง ออกแบบเป็นห้องอเนกประสงค์ ตกแต่งเป็นห้องนอนชั้นล่างสำหรับรองรับแขกผู้มาเยือนหรือผู้สูงอายุ มีหน้าต่างและประตูกระจกเปิดออกไปชมวิวด้านนอกได้ ขณะเดียวกันก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงานหากต้องการความเป็นส่วนตัวที่มีความเงียบสงบดี
บันไดที่จะขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของบ้าน มีช่องกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่างพร้อมชานพัก ตรงกลางยังมีพื้นที่พักผ่อนเพิ่มเติมอีกมุมหนึ่งอยู่ติดระเบียง จัดแต่งเป็นนั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือสนทนากันในครอบครัว
ตรงข้ามกับมุมพักผ่อนเป็นบันไดขึ้นไปยังส่วนมุมพระ จัดแบ่งเป็นสัดส่วนเฉพาะ
พื้นที่พักอาศัยออกเป็นสองส่วน ฝั่งขวามี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน ห้องนอนแรกตกแต่งด้วยโซฟาเบด โดยหน้าต่าง 1 บานช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในห้อง
ห้องนอน 2 จะมีพื้นที่กว้างกว่า จัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต หน้าต่างกระจกทั้งสองด้าน ทำให้ห้องสว่าง โปร่ง สบาย
ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นด้านหน้าของตัวบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว พร้อมหน้าต่างกระจกทั้งแถบ วางเตียงขนาด 6 ฟุตยังมีพื้นที่สำหรับมุมแต่งตัวติดกับห้องน้ำ กั้นส่วนอาบน้ำด้วยกระจกและช่องกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่าง
สำหรับบ้านแฝด 2 ชั้น แบบมาตรฐาน ฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในคล้ายๆ กับแบบหน้ากว้าง เพียงแต่ไม่มีชั้นลอยที่เป็นมุมพระและจอดรถได้ 2 คัน
เริ่มจากโซน Living Room ต่อเนื่องกับส่วนรับประทานอาหาร ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องครัวมีประตูเปิดออกไปด้านนอกได้
ห้องน้ำชั้นล่างแยกส่วนเปียก-แห้ง อาบน้ำได้ มีช่องกระจกเพิ่มแสงสว่าง พร้อมปูกระเบื้องพื้นและผนังจรดเพดาน ติดกับห้องน้ำเป็นห้องอเนกประสงค์ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีตู้เสื้อผ้าและหน้าต่างกระจกมองเห็นวิวสวนด้านนอก
เมื่อจะขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ของบ้าน เช่นกันบันไดมีชานพักและช่องกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่างช่วงเวลากลางวัน ลานตรงกลางออกแบบเป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือจะทำงานก็ได้
ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันโดยแยกส่วนเปียก-แห้ง ห้องนอนแรกเลือกใช้โซฟาเบด โดดเด่นด้วยหน้าต่างสองด้าน ห้องจึงโปร่งโล่ง
ห้องนอน 2 ขนาดกว้างขวาง วางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมมุมแต่งตัวที่มีทั้งโต๊ะ ตู้เสื้อผ้า และหน้าต่างถึงสองด้าน ทำให้ห้องสว่างมากขึ้น
ห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวพร้อมระเบียงกว้าง เพิ่มความสว่างด้วยหน้าต่างและประตูกระจกทรงสูงเป็นแนวยาวขนานด้านหน้าของบ้าน มีส่วน Walk-in Closet เป็นสัดส่วนชัดเจน
Price & Promotion
ทาวน์โฮม 3 ชั้น เริ่มต้น 4.52 ล้านบาท*, บ้านแฝด 2 ที่จอดรถ เริ่มต้น 7.4 ล้านบาท, บ้านแฝด 3 ที่จอดรถ เริ่มต้น 8.44 ล้านบาท พร้อมเปิดขายแบบซอฟต์ๆ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมนี้ โดยเอาใจแฟนลุมพินีพันธุ์แท้ลดหนักมากสูงถึง 5 แสนบาท*
Conclusion
บ้านแฝดและทาวน์โฮมในโครงการลุมพินี ทาวน์เพลส สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ แทบจะเป็นโครงการเดียวสำหรับบ้านที่อยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 113 ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดสด, ร้านค้า, ร้านอาหาร, สถานศึกษา และระบบขนส่งสาธารณะทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว และรถไฟฟ้าที่ขนาบอยู่หัวและท้ายถนนเลย จึงเป็น Location แบบคอนโดฯ แต่ไม่แออัด ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ จึงเป็นทางเลือกของผู้มองหาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์การพักอาศัยและทำงานได้อย่างลงตัว