หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ ส.ส.น่าน ปรากฏตัว-เดินบนถนนการเมืองมายาวนานกว่า 20 ปี
เคยเป็นแพทย์ประจำ – อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล 3 แห่ง ตั้งแต่ รพ.นาหมื่น ขนาด 10 เตียง , รพ.นาน้อย ขนาด 30 เตียง และ รพ.สมเด็จพยุพราชปัว ขนาด 60 เตียง
เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์ ถูกทาบทามลงสมัคร ส.ส. 3 ครั้ง แต่ด้วยความไม่พร้อม – ไม่แน่ใจระบบเลือกตั้ง จึงไม่เคยปรากฎตัวเป็นผู้สมัคร
ปี 2543 ย้ายสังกัดร่วมชายคาตั้งแต่ไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย ลงเลือกตั้ง 7 ครั้ง (โมฆะ 2 ครั้ง) ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็น ส.ส.น่าน 5 สมัย
เคยเป็น ‘ดาวสภา’ จากการตั้งฉายานักการเมืองของสื่อมวลชนประจำรัฐสภาปี 2552 ด้วยบทบาทอภิปรายเน้นข้อมูลมากกว่าการใช้วาทกรรมทางการเมือง เคยเป็นรัฐมนตรีเกือบ 1 ปี ในตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
บรรทัดต่อจากนี้เป็นอีกตำแหน่ง ในฐานะ ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทย’ สำนักข่าวอิศรา สนทนากับ นพ.ชลน่าน ส่องทิศทาง แผนปรับโครงสร้าง และยุทธศาสตร์เลือกตั้งภายใต้การนำของเขา
ผมเข้าใจที่คนเสื้อเหลือง ออกมาประท้วงทักษิณ จนถึงขั้นยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ฯลฯ เพราะ คนกลุ่มนี้เขาเข้าใจอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ ตามสิ่งที่รับรู้ว่า ทักษิณเป็นคนไม่ดี โกงบ้านโกงเมือง ผมเคยพยายามพูดคุยกับบางคนที่เป็นเสื้อเหลือง พวกนี้ก็สามารถแสดงเหตุผลได้เป็นฉากๆ ถึงผมจะยกเหตุผลอื่นมาอ้าง แต่พวกนี้ก็สามารถหาเหตุผลมาหักกันได้
สำหรับคนเสื้อแดง ก็เข้าใจได้ถึงความรู้สึกครับ เพราะผมก็เคยเป็นคนบ้านนอก ผมรับรู้ถึงความอัดอั้นของคนเสื้อแดงที่มีต่อความไม่ยุติธรรมต่างๆ การแบ่งชนชั้น การถูกกดขี่ มองแบบดูถูกโดยว่าหยาบ โง่ ไร้การศึกษา ผมเข้าใจว่าทำไม คนเสื้อแดงส่วนมากนิยมชมชอบทักษิณ ซึ่งก็มีแค่เหตุผล ก็คือ พวกเขาเชื่อตามที่ตนเองรับรู้จริงๆ ว่า ทักษิณเป็นคนดี ทักษิณถูกกลั่นแกล้ง เพราะ พยายามที่จะช่วยเหลือคนชั้นล่าง ด้วยโครงการต่างๆ ซึ่งต่อให้ เอาคำพิพากษาของศาล มาบอกว่า ทักษิณผิดเขาก็ไม่เชื่อ คนอีกส่วนหนึ่งที่ค่อยๆกลายเป็นฝ่ายแดง ก็คือ เห็นใจที่ฝ่ายเสื้อแดง ได้รับความไม่เป็นธรรม
ส่วนพวกสลิ่มนั้น ผมเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าต่างจาก เสื้อเหลือง เพราะศัตรูของพวกนี้ไม่ใช่แค่ทักษิณ แต่ คนชั้นล่าง ที่พวกนี้มองว่าต่ำ บ้านนอก ไร้การศึกษา เป็นปัญหาสังคม และ เป็นภาระให้ประเทศชาติ ก่อนอื่นต้องแยก คนเสื้อเหลืองจริงๆ กับ สลิ่ม ก่อนนะครับ คือคนเสื้อเหลืองจริงๆ ไม่ชอบทักษิณ ต้องการกู้ชาติ แต่ก็ถูกขับเคลื่อนมาจากกลุ่มพลังมวลชนที่พยายามต่อสู้เพื่อคนชั้นล่างด้วย ช่วงแรกที่เสื้อเหลืองมีพลังมาก ก็เพราะ ได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มสลิ่ม ตอนแรกยังแยกกันไม่ออก เพราะว่ามีศัตรูคนเดียวกัน ก็เลยร่วมกันต่อสู้
คนเสื้อเหลืองเท่าที่เห็นก็มีทั้ง คนรวย คนจน แทบจะทุกชนชั้น แต่ สลิ่มนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนชั้นกลาง และ ชั้นสูง ที่มีฐานะ และ มีการศึกษา ในหลากหลายอาชีพ ที่ผมรู้จักมีทั้ง แพทย์ ครู อาจารย์ พยาบาล บางคน มีตำแหน่งเป็นถึงระดับ ศ.ดร. ด้วยซ้ำไป
สิ่งที่สลิ่มกลัวจริงๆ ไม่ใช่ ทักษิณ แต่ เป็น นโยบายแบบทักษิณ ซึ่งพวกนี้ถือว่าเป็นโรคร้าย ที่กระทบต่อความสุขของพวกเขา แต่พวกนี้มักจะอ้างว่าคุกคามประเทศ จะทำให้ประเทศไทยล่มจม
ยกตัวอย่าง นโยบายรถคันแรก สลิ่มจะรู้สึกไม่พอใจมาก เพราะ ตัวเองมีรถอยู่แล้วจึงไม่ได้ประโยชน์อะไรจากนโยบายนี้ สลิ่มไม่เคยโกรธ คนรวยๆ ที่มีเงินซื้อรถยนต์ให้ลูกคนละคัน บางครอบครัวไปกินข้าวนอกบ้านแต่ขับรถไปคนละคันสลิ่มก็ไม่เคยโทษว่า พวกนี้เป็นสาเหตุกรุงเทพรถ แต่ สลิ่มจะรู้สึกไม่พอใจมากที่คนชั้นล่างสามารถซื้อรถได้จากนโยบายนี้ และ ปรามาสว่าเดี๋ยวก็โดนยึด ปีหน้าให้รอซื้อรถยึด และโทษว่ารถติดก็เพราะนโยบายรถคันแรก และ พวกคนชั้นล่างที่ไม่เจียมตัวซื้อรถยนต์มาขับ
วิเคราะห์ แล้ว สลิ่มไม่ชอบทักษิณ และ พรรคเพื่อไทย เหตุผลหลักไม่ใช่เพราะทักษิณโกงหรอก ไม่ได้เกลียดเสื้อแดงเพราะเสื้อแดงสนับสนุนทักษิณ แต่ สลิ่มไม่ชอบทักษิณและพรรคเพื่อไทยเพราะสนับสนุนเสื้อแดงและคนชั้นล่างมากกว่า ถ้าสลิ่มเกลียดการโกงจริงๆ ก็คงจะรับไม่ได้กับ การโกงของฝ่ายอื่นเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงๆ พวกนี้ ก็ไม่ได้สนใจการโกงกินหรอกตราบใดที่ไม่กระทบกับตนเอง ที่พากันด่าทักษิณ ว่าทุจริต ไม่จ่ายภาษี โกงที่ดินรัชดา ฯลฯ ก็แค่สะใจที่จัดการทักษิณได้ก็เท่านั้น
สิ่งที่สลิ่มต้องการกำจัดคือนโยบาย ยกระดับชนชั้นล่างต่างหาก - 30 บาทรักษาทุกโรค สลิ่มไม่ชอบ เพราะทำให้โรงพยาบาลแน่น เวลาตนเองไปต้องรอคิวนานขึ้น มิหนำซ้ำตัวเองต้องจ่ายเงิน หรือ บางคนมีสวัสดิการ เพราะทำงานราชการ แต่ รับไม่ได้ที่คนชนชั้นล่าง ที่ไม่ได้มีความรู้ ฐานะอะไร มามีสวัสดิการรักษาฟรีด้วยเหมือนกัน - ค่าแรง 300 บาท สลิ่มไม่ชอบ เพราะ รับไม่ได้ที่กรรมกรได้เงินเยอะขึ้น บางคนบ่นถึงขั้นว่าจะเสียเงินเรียนเป็นแสน ได้ปริญญาไปทำไม ถ้าเป็นกรรมกรไม่ต้องใช้ความรู้ก็ได้วันละ 300 บาท - เงินเดือน ป.ตรี 15,000 สลิ่มไม่ต่อต้านมาก เพราะ ถึงจะหงุดหงิดที่เด็กจบใหม่จะได้เงินเดือน 15,000 แต่เพราะว่าตนเอง หรือ มีเพื่อนสลิ่มด้วยกัน ได้ประโยชน์ด้วยก็เลยไม่กล้าบ่นมาก แต่ก็อดตอดเล็กตอดน้อยไม่ได้ - จำนำข้าว 15,000 บาท สลิ่มส่วนมากไม่ใช่ชาวนาอยู่แล้ว ถึงจะเคยมีพ่อแม่ทำนา แต่ก็ต่อต้านอย่างรุนแรง ไม่ใช่กลัวว่าประเทศจะล่มจมหรอก หรือ กลัวข้าวเน่าขายไม่ออกหรอก อันนั้นเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ที่ขัดหูขัดตาสลิ่มอย่างหนักก็คือ การที่รัฐบาลเอาเงินไปอุ้มชาวนา อุ้มคนบ้านนอก เกินไป เงินที่สลิ่มคิดว่าพวกตัวเอง ต้องทำงานจ่ายภาษีทุกปีๆ - การจ่ายเงินเยียวยา คนเสื้อแดงที่ถูกฆ่าและได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม ก็ขัดใจสลิ่มอย่างแรง
ภาพใน มโนคติของ สลิ่มก็คือ คนเสื้อแดง เป็นคนชั้นต่ำ หยาบคาย ชอบความรุนแรง ความรู้น้อย ไม่ฉลาด เป็นคนบ้านนอก ต่างจังหวัด การชุมนุมของคนเสื้อแดง เป็นอะไรที่ขัดหูขัดตา พวกเขามาก จริงๆ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะการนำเสนอของสื่อและฝ่ายรัฐ แต่โดยความจริงแล้วเพราะพวกเขาถูกมโนภาพเหล่านั้นครอบงำไว้ต่างหาก เมื่อคนเสื้อแดงมาชุมนุมในกทม มายึดสี่แยกราชประสงค์ที่เป็นศูนย์กลางความเจริญ เป็นย่านไฮโซ พวกเขารู้สึกถูกคนเสื้อแดง กดดันทางจิตใจ และ รับไม่ได้ พวกเขาจึงเกิดความเกลียดชัง รู้สึกว่า คนเสื้อแดงเป็นเชื้อโรคร้ายที่จะเข้ามาทำลายความเจริญ ความศิวิไลช์ เห็นภาพของการชุมนุม มีการเผายางรถยนต์ ควันดำปกคลุมไปทั่วกทม ยิ่งทำให้พวกนี้หวาดกลัว พวกเขาจึงสนับสนุนให้มีการปราบปราม และ ไม่สนใจว่าจะมีคนตาย ขอเพียงให้เรื่องจบ มิหนำซ้ำ ลึกๆยังสะใจด้วยซ้ำ ที่คนเสื้อแดงถูกฆ่าและจับขังคุก จะได้ไม่กล้ามาก่อความวุ่นวายอีก แล้วพอหลังการสลายการชุมนุม เกิดเหตุการณ์เผาห้าง และ ศาลากลางในต่างจังหวัด ก็ยิ่งไปตอกย้ำความเชื่อ และ ภาพที่พวกสลิ่มมีต่อคนเสื้อแดง ผนวกกับการโฆษณาของฝ่ายรัฐ จึงสร้างภาพว่า คนเสื้อแดงเป็น พวกเผาบ้านเผาเมือง
ดังนั้นต่อให้ พวกนี้รับรู้ความจริงว่า คนเสื้อแดงถูกทหารฆ่า ต่อให้ พวกนี้รับรู้ความจริง มีคนถูกฆ่าจำนวนมาก ก่อนการเผาสถานที่ต่างๆ หรือ ต่อให้ อภิสิทธิ์และสุเทพติดคุก ในข้อหาสั่งฆ่า ก็ไม่สามารถลบมโนภาพ ที่ถูกฝั่งในสมองสลิ่ม ว่า คนเสื้อแดงเป็น พวกเผาบ้านเผาเมือง
และใครก็ตามที่ไปอยู่ฝ่ายเสื้อแดง ไม่ว่าเดิมจะเคยเป็นอะไร เคยเป็นไฮโซ เคยสูงส่งมีเชื้อเจ้า เป็น ดร. ศาสตรจารย์ แพทย์ พระผู้ใหญ่ ตำรวจ ทหาร หรือ เคยเป็นสลิ่มด้วยกันแต่กลับใจ ออกมาปกป้อง เห็นใจคนเสื้อแดง และ ทักษิณ จะทำให้ ถูกปลด ลดชั้นลงไปเป็นเสื้อแดง และจะถูกทับด้วยมโนภาพของเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ไปในทันที
ยกตัวอย่างนะครับ สำนักโพลต่างๆ เดิมก็ทำโพลมาตลอด และ เป็นที่ชื่นชอบของสลิ่ม แต่พอมีผลโพลออกมาว่า ฝ่ายเสื้อแดงมีคะแนนนำ ซึ่งขัดใจของพวกเขา ที่เชื่อว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะ สำหรับพวกเขาเชื่อว่า คนกทม เป็น ชนชั้นสูง ไม่มีทางที่ ฝ่ายเสื้อแดงจะ ได้เป็นผู้ว่า กทม ดังนั้นจึงกลายเป็นว่า สงสัยโพลถูกทักษิณซื้อไปแล้ว พอหลังเลือกตั้ง ถึงหม่อมจะชนะแต่ก็ยังเป็นที่ขัดใจ เพราะ คะแนนของฝ่ายเสื้อแดงในกทม ดันได้เกินล้าน สลิ่มจึงเครียด ทำให้ภาพของเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองออกมาก่อกวนอีก จึงได้แต่ปลอบตัวเองว่า พวกที่เลือกเบอร์ 9 คงเป็น คน ตจว ที่เข้ามาอยู่กทม หรือ ไม่ก็เป็นพวกชนชั้นล่าง
พลตำรวจเอก พงศพัศ เองก่อนที่จะมาลงเลือกตั้งผู้ว่า มีภาพของตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไฮโซ จบดอกเตอร์ จากอเมริกา มีการศึกษาสูง ทำงานเพื่อสังคม จึงเป็นที่ชื่นชมของบรรดาสลิ่มทั้งหลาย จนถูกยกย่องจากสลิ่มให้เป็น ตำรวจขวัญใจประชาชน จวบจนท่านมาสมัครผู้ว่าในนามพรรคเพื่อไทย เท่านั้นแหละ ท่านก็กลายเป็นพวกแดงเผาบ้านเผาเมืองทันที พวกสลิ่มรู้สึกเหมือนคนที่ถูกหักหลัง ถูกหลอกให้เคยชื่นชม แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ไปอยู่กับพวกเสื้อแดงชั้นต่ำ สลิ่มจึงรับไม่ได้ จากความชื่นชมจึงกลายเป็นต่อต้านอย่างรุนแรง